สุสาน สยอง

 


สุสานมัมมี่ ปานาโม อิตาลี (LAS CATACUMBAS DE LOS CAPUCCINOS)

หรือ The Order of Friars Minor Capuchin

 

                ที่พาเลอโม(PARLEMO)  เมือง หนึ่งในเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี มีสถานที่ท่องเที่ยว(น่าจะใช่)ที่เรียกว่า “คาตาคอนเบ ได คสปูซิน” หรือสุสานแห่งคาปูซิน

                คริสตจักรคาปูชินกันก่อนคริสตจักรนี้มีฐานอยู่ในอิตาลีเป็นคริสต จักรที่ยึดหลักการดำเนินชีวิตตามคำสอนอย่างเคร่งครัดซึ่งแบ่งแยกมาจากคริสต จักรฟรานเซสโก้อีกทีสมาชิกของคาปูชินจะแต่งชุดยาวสีน้ำตาลแก่และหมวกปลาย แหลม (คาปุชโช) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อคริสตจักรนี่เอง (กาแฟคาปูชิโน่ก็ตั้งชื่อตามสีชุดยาวที่ว่านี่แหละค่ะ)

                จุดเด่นของคาปูชินอยู่ที่พิธีศพที่มีการทำศพเป็น มัมมี่ ดังนั้นโบสถ์แห่งนี้จึงมีแต่มัมมี่นั้นเอง

                
                สุสานแห่งนี้ได้รับยกย่องสูงสุดของอิตาลี อยู่ภายในโบสถ์ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองพาเลอโม เป็นสุสานที่ดูทันสมัย งดงาม มีสิ่งประดับประดาและดอกไม้มากมาย

                สุสาน แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บศพของพี่น้องตระกูลคาปูซิน เมื่อราวศตวรรษที่ 16 คือประมาณ 500 ปี มาแล้ว ต่อมาก็แปรสภาพเป็นสุสานของทายาทตระกูลรวยๆ หรือขุนนางชั้นสูง ที่เป็นที่นับหน้าถือตาของสังคม ตลอดจนทหารที่ประกอบวีรกรรมและศิลปินเด่น

                ศพที่ดองเป็นมัมมี่จะถูกนำมาสวนเสื้อผ้าเหมือนสมัยที่ยังมีชีวิต ส่วนจำนวนจริงๆ ของศพในสุสานแห่งนี้เท่าไหร่ไม่มีใครยืนยันได้ แต่ประมาณการกันว่าประมาณ 8000 ศพ

                อีกสาเหตุหนึ่ง สาเหตุที่ศพมีจำนวนมากขนาดนี้ก็เนื่องมาจาก สมัยก่อนนั้นนักบวชประจำอยู่ที่นี่มีฐานะยากจนลำบากมาก ดำรงชีวิตด้วยเงินบริจาค พอมาถึงยุคปฏิรูปศิลปวัฒนธรรมหรือเรอเนสซองส์ นักบวชที่โบสถ์แห่งนี้ต่างร่วมมือกับญาติโยมเพื่อช่วยกันต่อต้านนักปฏิรูป ทั้งหลายที่เข้ามายุ่งย่ามวุ่นวายกับสุสานนี้ โดยนำโครงกระดูกมาตกแต่งรอบโบสถ์และบอกว่าอย่าให้ใครแตะต้องมัมมี่เหล่านี้ เพราะพวกเขากำลังบรรลุสัจธรรมทางวิญญาณ

                
                 การที่จะได้มีโอกาสเอาศพของตนมาทำเป็นมัมมี่เก็บไว้ในสุสานแห่งนี้เป็น เรื่องที่ใฝ่ฝันของชนชั้นกลางยุคโบราณหากใครได้รับเกียรติให้เอาศพไปทำเป็น มัมมี่เก็บไว้ในสุสานแห่งนี้ ลูกหลานญาติมิตรต่างพลอยมีหน้ามีตาด้วย โดยความเชื่อของคนสมัยก่อนเชื่อว่าร่างที่ถูกดองเก็บไว้ไม่ให้เน่าไม่เปื่อย จะมีความผูกพันกับชีวิตหลังความตาย วิญญาณของผู้ตายยังไม่ออกไปไหนไกลๆ และยังคงวนเวียนอยู่แถวๆ นี้ และสักวันหนึ่งจะเห็นร่างตนเองที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ จนกลับเข้าร่างและมีชีวิตขึ้นมาใหม่

                นักบวชรูปแรกที่ศพได้รับการทำเป็นมัมมี่เก็บไว้คือ ภราดา ซิลเวสโตร กุบบิโอ ศพหลวงพี่ถูกดองเป็นมัมมี่ เมื่อปี 1599 ต่อมาก็มีศพอื่นๆ ถูกทำแบบเดียวกัน และนำมาจัดท่ายืน ท่าแขวนลักษณะต่างๆ ด้วยกัน โดยศพเหล่านี้จะแห้งเองตามธรรมชาติ ศพของหลวงพี่ซิลเวสโตรจะถูกควักตับไตไส้พุงและเครื่องในออกหมดก่อน แล้วนำไปจากนั้นก็นำมัมมี่ไปไว้ห้องเล็กใต้ดินเป็นเวลา 8 เดือน วางลงในท่อดินเผาแล้วปล่อยให้น้ำเลือดน้ำหนองไหลออกมาจนแห้งก่อนจะนำไปชำระ ล้างด้วยน้ำส้มสายชูจนสะอาดแล้วราดด้วยน้ำสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมอีกครั้ง

                จากนั้นก็นำออกมาล้างแล้วผึ่งแดดจนแห้ง เมื่อแต่งตัวให้โดยยัดภายในด้วยฟางเพื่อให้ได้รูปร่างแล้วก็ นำไปตากให้แห้งและนำมาแต่งเนื้อแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแพรพรรณที่จัดว่าสุดยอด ที่สุดของแฟชั่นขณะนั้น การแต่งตัวนี้ต้องระมัดระวังอย่างเต็มที่ เพราะศพคนตายนั้นจะแข็งตัว การจะใส่เสื้อสวมกางเกงให้จะต้องตัดมือตัดแขนขากัน มีบ่อยครั้งที่ตัดกันจนแขนขาหักไปเลย ซึ่งถือว่าเป็นครั้งตอนที่ระมัดระวังมากจะนำไปเก็บไว้ในสุสาน

                ก่อนที่แขวนก็มีการจัดให้โพสท่าต่างๆ ทั้งที่ธรรมดาอย่างนอนอยู่ หรืออุ้มตุ๊กตา หรือกวักมือ แต่เนื่องจากศาสตร์ในการทำมัมมี่ของคาปูชินไม่ได้สูงมากนัก ศพเกือบทั้งหมดจึงกลายเป็นโครงกระดูกไปแล้ว

                นอก จากวิธีนี้ สุสานคาปูซีนยังมีสารเคมีชนิดหนึ่งในการทำมัมมี่ด้วย อาทิรายของ อันโตนิโอ เพรตติเกีย โคโม นั้น ได้รับการพิถีพิถันเป็นพิเศษ ดังนั้นสภาพศพจึงสวยสดงดงามเหมือมีชีวิตชีวา นัตน์ตาเป็นประกายสดใส ผิวพรรณมีน้ำมีนวล ทั้งนี้เพราะศพนี้ถูกใช่ในสารละลายอาร์เซนิกและแมกนีเซียนหรือปูนขาว

                
                มัมมี่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของสุสานแห่งนี้คือ หนูน้อยโรสซาเลีย ลอนบาร์โด (Rosalia Lombardo) ที่เสียชีวิตเมื่อปี 1920 โรซาเลียเป็นบุตรสาวของทหารมียศซึ่งเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 2 ขวบ ศพของเธอถูกทำเป็นมัมมี่ตามธรรมเนียมของคาปูชิน โดยผู้ทำการดองเป็นหมอที่มีชื่อในขณะนั้น และด้วยน้ำยาดองสูตรลับ ทำให้หนูน้อยคนนี้ยังคงมีน้ำมีนวลมีชีวิตชีวาเหมือนมีชีวิตอยู่ โดยศพโรสซาเลียได้เก็บรักษาในห้องสำหรับเก็บศพเด็ก โดยการฉีดสารเคมีเข้าไปในร่าง ในโลงกระจกทำให้มองดูเหมือนหนูน้อยกำลังหลับอยู่มากกว่าจะเป็นศพศพอื่นๆผุ พังกลายเป็นกระดูกขาวโพลน แพทย์ซาราเฟียจากโลกนี้ไปโดยไม่ยอมปริปากถึงเคล็ดลับในการทำศพ วิธีการรักษาศพจึงยังคงเป็นปริศนามาจนทุกวันนี้

                ในสุสาน ศพบางศพจะบรรจุอยู่ในโลงที่แขวนไว้เพื่อสามารถหาได้ง่าย ลูกหลานญาติมิตรจะเข้าไปสวดมนต์ โดนจับกระดูกไปด้วยระหว่างสวดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ เสร็จแล้วก็จะมาจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง และหวีผมทำความสะอาดใบหน้าให้ ศพไหนที่ไม่ค่อยมีญาติมาเยี่ยม หน้าที่นี้จะตกเป็นของสุสานคาปูซินที่จะต้องดูแลให้เรียบร้อยให้ ซึ่งจะดูแลรายละเอียดทุกศพ นับตั้งแต่การเอาลวดผูกกระดูกไว้ที่ตำแหน่งของมัน หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นจากซอกหลืบต่างๆ ของศพ

               
                สุสาน แห่งนี้เน้นความศักดิ์สิทธิ์เป็นหลัก ดังนั้น จึงมีการแบ่งแยกเก็บมัมมี่เป็นแผนกๆ เป็นหมู่ๆ ไป เช่น เฉลียงพรหมจารี ที่มีแต่ผู้หญิงบริสุทธิ์ที่ไม่เคยต้องมือชายเท่านั้น ซึ่งมัมมี่เหล่านี้จะแต่งสวยพิถีพิถันกว่ามัมมี่อื่น ทั้งเสื้อผ้าแพรพรรณงดงาม หมวดสะดุดตา สายรัดคาดหมวกหรู ราคาแพง นอกจากนี้ทางสุสานจะไม่ยอมให้มัมมี่สาวๆ เหล่านี้อ้าปาก เหลือกตา หรือแยกเขี้ยวเป็นอันขาด ซึ่งจะมีนักบวชที่ทำหน้าที่เป็นช่างเสริมสวยในการตรงแต่งมัมมี่นี้ให้เรียบ ร้อย ด้วยเหตุนี้ทำให้เฉลียงพรหมจารรีเป็นส่วนที่สวยงามที่สุดแล้วของโบสถ์แห่ง นี้

                นอก จากนี้ทางสุสานยังมีการแบ่งหมวดหมู่มัมมี่ตามแผนกต่างๆ อีกหลายแผนก ไม่ว่าจะมีแผนกผีนักบวช, ผีพระ, ผีราชการผู้ใหญ่, ผีเสมียน, ผีผู้ประกอบสัมมาอาชีวะ เพศหญิง เพศชาย ฯลฯ

                ที่ ทั้งน่ากลัวและน่าเกรงขามได้แก่แผนกของเจ้านายข้าราชการชั้นสูง ซึ่งปกติรูปร่างหน้าตาก็ดูเหี้ยมหาญดุดันอยู่แล้ว พอตายไปเป็นมัมมี่ยิ่งดูดุดันเข้าไปใหญ่ เท่านั้นยังไม่พอ เครื่องยศ เครื่องศักดิ์ทั้งหลายที่เคยครองอยู่จะถูกนำมาแต่งให้เต็มยศ เช่นเคยมีมงกุฎทองสวมเขาก็จะทำมงกุฎให้แต่เป็นมงกุฎเหล็กทาทองแทน เพราะทำเป็นทองแท้ ๆ เดี๋ยวมีปัญหายุ่งๆ อีกเป็นระลอก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ หรือพวกโจรจะมาขโมย

                เวลา จะเข้าชมสุสานเขาจะเตือนก่อนชมว่าอย่าตกใจหรือเสียความรู้สึก เพราะทุกคนจะถูกค้นตัวอย่างเสมอหน้า ซึ่งไม่ได้แปลว่าเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามแต่อย่างใด แต่ไว้ป้องกันพวกขโมยมัมมี่หรือพวกมือบอนที่ชอบหักชิ้นส่วนต่างๆ ของมัมมี่ติดตัวเป็นที่ระลึก

                สถาน ที่นี้เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว(จะมีคนไปเหรอ) จำกัดเวลาครับ อยากไปร้องถามไถ่ดูละกัน

 

ดัด แปลงด้วย cammy ใน หนังสือต่วยตูนพิเศษ ฉบับที่ 361 มีนาคม 2548+ +

Credit: http://atcloud.com/stories/84492
#สุสาน #สยอง
Messenger56
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIPสมาชิก VIP
15 มิ.ย. 53 เวลา 23:40 3,635 10 100
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...