http://www.catdumb.com/forbidden-zone-in-france-420/
‘Zone Rouge’ พื้นที่ถูกปิดตายกว่า 100 ปี ผลจากสงครามในประเทศฝรั่งเศส…
ถ้าหากพูดถึงประเทศฝรั่งเศส หลายๆคนอาจนึกถึงชานเมืองที่เขียวชะอุ่ม เมืองที่แสนโรแมนติก อย่างไรก็ตามฝรั่งเศสก็ต้องมีอีกด้านที่เราไม่ค่อยรู้จักเช่นกัน.. โดยเฉพาะเรื่องราวโศกนาฏกรรมในสงครามโลกครั้งที่ 1 วันนี้ขอพาไปรู้จักกับพื้นที่ขนาด 1191 ตารางกิโลเมตร (460 ตารางไมล์) ที่ถูกปิดตายมาเป็นเวลายาวนานกว่า 100 ปี รู้จักกันในชื่อ ‘Zone Rouge’ และหลังจากที่เราได้เห็นเรื่องราวของพื้นที่แห่งนี้ รับรองว่าจะทำให้เรารู้จักฝรั่งเศสได้มากขึ้นแน่นอน…
ภาพวาดจากศิลปินท่านหนึ่งที่อธิบายให้เห็นภาพความน่าขนลุกของพื้นที่แห่งนี้ได้ดีทีเดียว
มีการกั้นรั้วปิดไว้ไม่ให้เป็นพื้นที่สาธารณะ
ข้างในเต็มไปด้วยอาวุธที่ใช้การไม่ได้และซากศพมากมายจนรัฐบาลต้องประกาศให้ผู้คนในละแวกนี้ย้ายถิ่นฐานกันเลยทีเดียว
ถึงแม้จะดูรกร้างว่างเปล่า แต่ที่แห่งนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัย
มีป้ายเตือนอันตรายตกอยู่ข้างทาง บรรยากาศดูวังเวงจริงๆ
และนี่คือสภาพของสนามรบในฝรั่งเศสหลังจากสงครามได้ยุติลง
ก่อนหน้านี้เคยมีนักสำรวจป่าและนักล่าเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้จนกระทั่งปี 2004 เมื่อนักวิจัยชาวเยอรมันได้ค้นพบ สารหนูอยู่ในดินมากถึง 17% ซึ่งนับว่ามากกว่า 10 เท่าของพื้นที่อันตรายทั่วไป
ด้วยการเจือปนของสารหนูที่มากขนาดนี้นับว่ามีมากถึง 300 เท่ากว่าที่ร่างกายของมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จะรับได้
มีเพียง 1% ของสิ่งมีชีวิตและพืชเท่านั้นที่สามารถดำรงอยู่รอดได้ในเขตอันตรายแห่งนี้
ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าลงไปว่ายน้ำที่นี่จะต้องเจอกับอะไรบ้าง…
การยิงอาวุธจรวดและขีปนาวุธต่างๆ ทำให้ทั้งพื้นที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยสาร Perchlorate ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้ผสมในเชื้อเพลิงขีปนาวุธ แม้แต่น้ำที่นี่ก็ไม่สามารถนำมาดื่มได้
ในปี 2012 รัฐบาลจึงได้ประกาศอย่างเป็นทางการให้ที่นี่เป็นพื้นที่ควบคุมหลังจากที่ตระหนักได้ถึงปัญหาสารพิษตกค้าง
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 1970 ฝรั่งเศสก็ได้ประกาศกำจัดอาวุธสงครามทุกชนิดออกจากพื้นที่ ในแผนที่แสดงให้เห็นถึงพื้นที่สีแดง ซึ่งนับว่าเป็นพื้นที่ๆ อันตรายที่สุดเลยก็ว่าได้
เมื่อพวกเขาคิดว่าได้เคลียร์พื้นที่อันตรายทั้งหมดแล้วจนเริ่มสร้างถนนและพื้นที่สาธารณะ แต่ที่นี่กลับเกิดเหตุระเบิดจากสารตกค้าง มีผู้เสียชีวิตนับร้อยรายจากสัมภาระทางทหารที่เหลือทิ้งไว้ในอดีต..
ต้องใช้เวลาต่อไปอีกนับหมื่นปี ถึงจะทำให้สถานที่แห่งนี้ปลอดสารเจือปนเช่น สังกะสี และ ปรอท ที่เกิดจากเศษกระสุนมากมายได้
มีป้ายหัวกระโหลกติดไว้ทำให้ที่แห่งนี้ดูน่ากลัว
ในปี 1916 เหตุการณ์ Battle of Verdun มีผู้เสียชีวิตกว่า 300,000 คน ณ ที่แห่งนี้ แต่ความรุนแรงและการสูญเสียไม่ได้จบอยู่แค่นั้น สารระเบิดยังคงอยู่ในดินและก่อให้เกิดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมาจวบจนทุกวันนี้
แม้แต่คนที่ทำหน้าที่เก็บกวาดเศษซากอาวุธต่างๆ ที่ตกค้าง ก็กลายมาเป็นผู้เสียชีวิตซะเอง
เจ้าหน้าที่ถึงขั้นบอกว่าอาจต้องใช้เวลามากถึง 300 – 700 ปีเลยทีเดียว ถ้าต้องการจะเคลียร์พื้นที่แห่งนี้ให้ได้
บางคนก็บอกว่าอาจเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำที่จะเคลียร์ที่นี่ได้
ไม่ว่าที่นี่จะเคยเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น แต่มันดูเหมือนเป็นสนามรบที่ยิ่งใหญ่จนไม่น่าจะเป็นไปได้
ทำให้หยุดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าที่นี่เคยเป็นชานเมืองที่สวยงามแห่งหนึ่ง
ชาวบ้านที่อยู่รอบๆ บริเวณนี้ก็ไม่สามารถใช้พื้นที่กักกันแห่งนี้ จึงจำเป็นต้องทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ในภาพคือร้านอาหาร Le Tommy ในเมือง Pozières ที่ต้องนำหลุมหลบภัยมาใช้ประโยชน์ใหม่
ใกล้ๆ กันก็มีหลุมฝังศพที่เปิดเป็นสาธารณะเพื่อเป็นที่ระลึกถึงบุคคลที่สูญเสียชีวิตเพื่อปกป้องประเทศฝรั่งเศส
ชาวบ้านหลายๆ คนที่อยู่ใกล้ๆ ก็มีคอลเล็คชั่นส่วนตัวเป็นเศษซากอาวุธจำนวนมาก ถึงขนาดที่ว่านำมาเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์กันเลยทีเดียว
สงครามไม่เคยสร้างผลดีให้แก่ใคร ที่ผ่านมาเรื่องราวต่างๆ ได้สอนให้เราเรียนรู้ถึงการสูญเสียจากสงครามอยู่เสมอ หวังว่าเรื่องราวเหล่านี้จะช่วยให้เราตระหนักถึงความรักและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับเพื่อนร่วมโลกด้วยเถิด
ที่มา : boredomtherapy