มันน่าทึ่งมาก!? 5 ชิ้นส่วนโครงกระดูกที่นักวิทย์หาคำตอบไม่ได้ ว่าพวกเขาเป็นใครมาจากไหน!

https://www.yaklai.com/lifestyle/special-article/topfive-unknown-skelatons-story/

โครงกระดูกปริศนาจากทะเลทรายชิลี : นักสำรวจเรียกมันว่า ‘Ata’ เจ้าโครงกระดูกที่ว่าถูกพบที่ทะเลทราย Atacama ที่ประเทศชิลี ในปี ค.ศ.2003 วัดความสูงได้ประมาณ 6 นิ้ว จากผลเอ็กซเรย์พบโครงกระดูกคล้ายคลึงกับของมนุษย์อยู่ภายใน นักโบราณคดีเชื่อว่ามันอาจเป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ในยุคโบราณ

และข้อมูลที่น่าตกใจที่นักวิทยาศาสตร์พบคือ DNA ของเจ้าโครงกระดูกที่ว่ามีความคล้ายคลึงกับมนุษย์ถึง 91 เปอร์เซ็นต์!

อีบู โกโก คนป่าในอินโดนีเซีย : มันคือสัตว์ประหลาดตามตำนานของชาวอินโดนีเซีย ที่มีความสูงเพียงหนึ่งเมตร อาศัยอยู่ในป่าลึก จากการค้นคว้าของนักสำรวจได้พบกับซากฟอสซิลคล้ายตัวฮอบบิท จึงทำให้เชื่อว่าเผ่า‘อีบู โกโก’ อาจเคยมีตัวตนจริงเมื่อราว 13,000 ปีก่อน

จากภาพคือการเปรียบเทียบกะโหลกศีรษะของมนุษย์และโครงกระดูกที่คาดว่าน่าจะเป็นของชาวเผ่าอีบูโกโก ถ่ายไว้โดย University of England เมื่อปี ค.ศ.2003

เด็กแห่งดวงดาว : นี่คือกะโหลกศีรษะที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับนักวิทยาศาสตร์และนักโบราณคดี เพราะไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดมันจึงมีรูปร่างแตกต่างจากมนุษย์เช่นนี้ กะโหลกดังกล่าวถูกค้นพบที่ในประเทศเม็กซิโก เมื่อปี ค.ศ.1930

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่ามันเป็นกะโหลกของเด็กที่ใหญ่กว่ากะโหลกศีรษะของผู้ใหญ่ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ลักษณะของเบ้าตายังแตกต่างจากกะโหลกของมนุษย์ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง สังเกตจากภาพจะพบว่าส่วนของเบ้าตานั้น ชิดติดกัน และที่เบ้าตามีความลึกน้อยกว่ากะโหลกศีรษะมนุษย์ปกติอีกด้วย

ยักษ์ลินคอล์น : ในปี ค.ศ.1912 หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเมืองนิวยอร์คได้รายงานการค้นพบชิ้นส่วนโครงกระดูกยักษ์ กล่าวกันว่ามันอาจมีความสูงราว 2.5 – 3 เมตร เลยทีเดียว แม้ว่าแนวคิดเรื่องการมีอยู่ของยักษ์จะถูกปฏิเสธโดยวงการโบราณคดีในปัจจุบัน แต่ในยุคนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างสูง

กระทั่ง อับราฮัม ลินคอล์น อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ยังเคยกล่าวถึงว่า ‘โครงกระดูกยักษ์ ถมเต็มภูเขาของอเมริกา’ ไว้ในสมุดจดของเขา