"พิพิธภัณฑ์มัมมี่"แปลกประหลาดในเม็กซิโก ผ่านไปนานกว่า 100 ปี ศพคนตายกลับไม่เน่าเปื่อยผิดธรรมชาติ

Museo de las Momias de Guanajuato เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองกวานาคัวโต ประเทศเม็กซิโก และมันไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ธรรมดา แต่เป็นสถานที่ที่รวบรวม "มัมมี่" เอาไว้มากกว่า 108 ร่าง และแต่ละร่างนั้นมีสภาพไม่เน่าเปื่อยเลย แถมยังถูกนำมายืนโชว์ในตู้กระจกอีกด้วย

โดยศพมัมมี่ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์นั้นเป็นศพของคนที่เสียชีวิตเมื่อศตวรรษที่ 19 ช่วงประมาณปี 1833 เนื่องจากช่วงนั้นโรคอหิวาตกโรคเกิดระบาดทำให้คนล้มป่วยและเสียชีวิตจำนวนมาก หลังจากที่ผู้ป่วยเสียชีวิตเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคจึงต้องรีบนำร่างฝังดินในสุสานทันที

แต่แล้วในปี 1865 มีการขุดหลุมศพเก่าขึ้นมาเพื่อจะนำศพใหม่ๆ ฝังลงไปแทน แต่ปรากฎว่า ศพเก่าที่ฝังไปเมื่อหลายสิบปีนั้นกลับไม่ย่อยสลายหรือเน่าเปื่อยไปตามธรรมชาติ ทั้งยังอยู่ในสภาพดีอีกด้วย

โดยคาดว่าน่าจะเป็นเพราะ "สภาพอากาศ" ในเมืองกวานาคัวโตที่มีลักษณะกึ่งแห้งแล้ง ทั้งโลงศพที่ใช้ฝังยังมีขนาดเล็กพอดีกับตัวอีกด้วย เมื่อนำศพลงไปฝังทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนซึ่งเป็นสาเหตุให้ศพหยุดการย่อยสลายและมีสภาพไม่เน่าเปื่อยตามธรรมชาตินั่นเอง

และไม่ใช่แค่เพียงศพมัมมี่ในสภาพดีเท่านั้น เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมี "มัมที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก" อีกด้วย เป็นซากมัมมี่ของตัวอ่อนในครรภ์อายุเพียง 4 สัปดาห์เท่านั้น โดยแม่ของเด็กป่วยเป็นอหิวาตกโรคและเสียชีวิตตั้งแต่ตอนตั้งท้องนั่นเอง

ทั้งยังมีศพมัมมี่น่าสยดสยองของหญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า อิคนาเซีย อากีลาร์ เธอป่วยเป็นโรคประหลาดที่หาได้ยากเพราะหัวใจของเธอมักจะหยุดเต้นกระทันหันทำให้เธอมักจะสลบไปเป็นเวลานาน แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งอาการของเธฮกำเริบทำให้เธอสลบไปเหมือนเคย แต่มันต่างจากเดิมมากเพราะเธอสลบไปนานจนผิดปกติ ทำให้ครอบครัวเข้าใจว่าเธอตายจึงนำเธอไปฝังเท่ากับว่าเธอถูกฝังทั้งเป็นเลย และหลังจากนั้น 1 ปีต่อมา เมื่อขุดศพเธอขึ้นมาก็พบว่าเธอต้องตายอย่างทรมานมาก เธอใช้ปากกัดแขนจนเลือดสาด ทั้งยังมีรอยข่วนที่หน้าผากอย่างรุนแรงอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทรมานก่อนเธอจะสิ้นใจ นับว่าเป็นการตายที่น่าสงสารมาก...