เปิดเรื่องหลอนจากโบลิเวีย นักเรียนโรงเรียนทหารสุดผวา หุ่นทหารผีสิงลุกเดินตรวจตรายามค่ำคืน ใช้ปืนไม้ไล่ตีทุกคนที่เจอ ผวากันมาแล้วทุกรูปแบบจนสุดท้ายต้องตัดมือแล้วจับขังในตู้ หวังยุติความเฮี้ยน

         วันที่ 28 มิถุนายน 2559 เว็บไซต์มิเรอร์ เปิดเผยเรื่องราวชวนขนพองสยองเกล้าจากประเทศโบลิเวีย เมื่อนักเรียนทหารหลายรายต่างเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า หุ่นไม้ทหารโบราณที่ประดับอยู่ตรงทางเดินอาคารหนึ่งของโรงเรียนนั้นมีผีสิง และมันมักจะหยิบปืนไม้ประจำตัวมาไล่ตีนักเรียนที่บังเอิญมาจ๊ะเอ๋กันกลางดึกด้วย ทำเอาผวาไปตาม ๆ กัน

         นักเรียนทหารรายหนึ่งเปิดเผยกับรายการท้องถิ่นว่า หุ่นทหารตัวนี้น่าจะถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง ทำให้มันสามารถเดินขยับไปไหนมาไหนเองได้ และเป็นที่คาดกันว่าวิญญาณที่สิงหุ่นตัวนี้ น่าจะเป็นวิญญาณของผู้บังคับบัญชาการคนใดคนหนึ่งในอดีต

         จากคำบอกเล่าจากนักเรียนรายอื่น ๆ ระบุว่า ที่ผ่านมาบรรดานักเรียนทหารได้พบกับประสบการณ์ขนหัวลุกหลายรูปแบบด้วยกัน บางคนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินอยู่บริเวณโถงทางเดินที่หุ่นตั้งอยู่ ในช่วงกลางดึกที่ไม่มีใครอยู่ที่นั่น บางคนก็เล่าว่าหุ่นทหารตัวนี้มักจะขยับเขยื้อนตัวได้ราวกับมีชีวิตในยามดึก แถมยังถึงขั้นใช้อาวุธได้ และเคยมีนักเรียนทหารต้องควักปืนยิงหุ่นตัวนี้มาแล้ว เพราะมันหลอกหลอนเขาจนหวาดกลัวถึงขีดสุด

         และแล้วเรื่องเล่าเคล้าความสยองขวัญเหล่านี้ก็นำมาซึ่งการปรึกษาหารือกันอย่างจริงจังในโรงเรียน ในที่สุดพวกเขาจึงตัดสินใจตัดมือหุ่นทิ้งไปทั้งสองข้าง และจับมันยัดเข้าตู้กระจกใส เพื่อไม่ให้มันออกไปเดินเล่นในเวลาค่ำคืนได้อีกต่อไป

         ขณะที่ เอดิลเบอร์โต้ พาร์รา นักเรียนทหารอีกราย เปิดเผยกับรายการว่า โรงเรียนแห่งนี้เต็มไปด้วยวิญญาณร้ายที่แฝงตัวอยู่ทุกที่ โดยเฉพาะตามผนังของโถงทางเดินที่มีการประดับประดาด้วยกรอบรูปของประธานาธิบดีในอดีต  และรูปปั้นของบรรดาวีรบุรุษสงคราม เมื่อมีใครก็ตามกล้าเดินผ่านโถงดังกล่าวในเวลากลางคืน พวกเขาจะได้ยินเสียงทักทายดังมาจากภาพและรูปปั้นเหล่านั้นว่า “มาทำอะไรที่นี่ ?” หรือ “ทำไมเดินด้วยท่าทางแบบนั้นล่ะ ?”

    อย่างไรก็ดี ตำนานชวนขนหัวลุกของโรงเรียนนายร้อยแห่งนี้เป็นเพียงคำเล่าขานจากผู้ที่อ้างว่าเจอประสบการณ์สุดหลอนเท่านั้น ยังไม่มีการพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องจริง ขณะที่ทางด้านผู้อำนวยการโรงเรียนได้เปิดเผยกับรายการโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า เรื่องเล่าเหล่านี้เป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น