ค่าย 2 ล้อ เชื้อสายอิตาลี ที่แฟนพันธ์แท้ Big Bike ต้องรู้จักในนาม Aprilia (เอพีเรีย) ถ้าพูดถึงเรื่องการดีไซน์และสมรถนะแล้วต้องยกให้ Aprilia ซึ่งบทความนี้จะนำพาทุกท่านไปเสพ 10 อันดับ BigBike แดนมักกะโรนีที่ไม่ว่าใครก็อยากมีไว้ครอบครอง

10. Aprilia SR Max300 (2014-2015)

แหล่ง: http://www.aprilia.com

Scooter Bigbike คุณสมบัติเฉพาะตัวของรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ความจุ 300cc ระบบหัวฉีด EFI ,ทอร์ค(tourqe)สูงสุดที่ 23nm (นิวตั้นเมตร) / ที่รอบเครื่อง 6,000 รอบต่อนาที, Frame ตัวถังออกแบบอย่างแข็งแกร่ง มาพร้อมกับช่างล่างมาตรฐานแน่นๆสไตร์รถทัวร์ริ่ง รูปลักษณภายนอกทรง GT ให้ความรู้สึก sport ไม่แพ้ Superbike เลย

9. SRV 850 ABS/ATC (2014-2015)

แหล่ง: http://www.aprilia.com

ด้วยขุมพลัง 4สูบ V twin 4วาล์ว/1กระบอกสูบ ความจุกระบอกสูบ 839cc ระบบหัวฉีด EFI, Tourqe 76Nm / 6000 rpm, ระบบเกียร์ CVT, ระบบดิสเบรคหน้า-หลังที่หยุดม้าเป็นฝูง Disc หน้าขนาด 300มิลฯ 2แผ่นพร้อม ปั้มเบรค 2 pots ABS และ Disc หลังจานขนาด 280มิลฯ 2 แผ่น ปั้มเบรค 2 pots ABS, โช๊คหน้าแบบ Telescopic โช๊คหลังแบบ Monoshock ADJ สรุปแล้วสำหรับสายทัวร์ริ่งสองล้อเน้นนั่งขับขี่สบาย หน้าตา superbike ต้องคันนี้เลย

8. DORSODURO 750 ABS (2016)

แหล่ง: http://www.aprilia.com

Necked Bike สายลุย รูปทรงโฉบเฉี่ยว เครื่องยนต์ 749.9cc 90 degree V Twin ระบายความร้อนด้วย Liquid Cooling, รุ่นที่ 2 ของ "Tri-Map" Ride by wire technology หัวฉีดไฟฟ้า, เกียร์แบบ Mixed และ Timing แบบโซ่, Frame และ Swing Arm อลูมิเนียมแข็งแกร่งและน้ำหนักเบา, โช๊คหน้าแบบ upside down, จานเบรคคู่หน้า-หลังแบบ wave discs เห็นแบบนี้มีม้าถึง 122 ตัวเชียวนะ

7. Caponord 1200

แหล่ง: http://www.aprilia.com

สำหรับสายลุยสองล้อต้องไม่พลาดกับ Caponord 1200 Rally ที่เพิ่มเติมระบบไฟฟ้า ชุดป้องกัน ขนของ และความสบายเอาไว้ในหนึ่งเดียวคันนี้ ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ 2 สูบของ Aprilia ที่ออกแบบให้เข้ากับเฟรมรถอย่างลงตัว เหมือนกับทุกรุ่นที่ aprilia ทำขึ้นมา ช่วงล่างที่ตอบสนองทุกการขับขี่ ทุกสภาพทางที่ Caponord 1200 Rally จะไปได้

6. Shiver 750

Shiver 750 เป็นรถยุคระหว่าง analogue กับ digital ที่มี function ของทั้ง 2 ยุคผสมผสานกันอยู่ มาพร้อมกับการปรับโฉมจากปี 2007 ทั้งโคมไฟหน้า, แฮนส์บังคับเลี้ยว, อานนั่ง และที่จับสำหรับคนซ้อนท้าย หากชอบแบบ necked เชื่อสายอิลาตีแบบผสมผสานต้องรุ่นนี้เลย

5. Tuono V4 R ABS

Tuono V4 R ABS Bigbike แบบ Naked ที่ดุดันขับสนุกไม่แพ้รุ่นใหญ่ๆ ขับสบายด้วยอาน design ใหม่และปรับปรุงช่วงล่างให้เต็มประสิทธิภาพทุกสภาพถนน และถังน้ำมันแบบใหม่ที่เพิ่มความรู้สึกมั่นใจตอนเข้าโค้งและเบรค และยังมีความจุถึง 18.5 ลิตรเลยทีเดียว

4. RSV4 R APRC ABS

ด้วยการออกแบบตัวรถ และเทคโนโลยีที่นำมาใช้ RSV4 R APRC ABS จึงปราบลงทุกข้อกังขาที่ผู้ขับขี่มีใน เครื่องยนต์ 4 สูบแบบ V Twin ในรุ่นนี้รับประกันด้วยชัยชนะ ใน class 250GP ชนะ18 รายการและ 143 grand prix แล้วยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นค่ายแรกๆได้นำระบบ Ride By Wire มาใช้ในรุ่นธรรมดา พร้อมกับ aPRC จวบจนทุกวันนี้ในทุกรุ่น superbike

3. Tuono V4 1100 Factory

Tuono V4 1100 แบบฉบับ standard จากโรงงานแต่ไม่ทิ้งกลิ่นของความเป็น King of superbike ทุกอย่างยังคงเหมือนกัน ความดุดันในการขับขี่แบบ sport and safty บนท้องถนนยังคงอยู่เหมือนเดิม

2. RSV4 RF

RSV4RF King of Superbike นำทีม Aprilia คว้าแชมป์ World SBK ถึง 7 สมัยและยังได้แชมป์ในรายการ Superstock 1000 FIM Cup อีกด้วย ในบอดี้ Tuono V4 1100 ตัวนี้ถูกอัดแน่นไปด้วยชิ้นส่วนที่ใช้ในสนาม motor gp เพื่อให้ biker ได้รับรู้ถึงพลังในตัวตนอย่างแท้จริงด้วยเครื่อง 1100 cc มีแรงม้ามากถึง 175 แรงม้า ใส่เทคโนโลยีขั้นสูงไว้ทุกฟังชั่นการขับขี่ ขับง่าย ขับสบาย ไม่ว่าจะในสนาม หรือนอกสนาม

1. RSV4 RF LE

ขุมพลังกว่า 200 แรงม้า มาพร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีจากสนามแข่ง motor gp ด้วยตัวรถที่มีน้ำหนักเบาพร้อมรับกับแรงกดดันในขณะขับขี่บนถนนและในสนามแข่ง ถ้าใครกำลังหามองหาที่สุดของ Bigbike RSV4RF LE ไม่ผิดหวังแน่นอน

ที่มา: https://spiceee.net/th/boys/articles/1715