กรรมวิธีแยบยล ตอนแรกบังคับให้กลืนตะปู-ใบมีดโกน พอเกิดอักเสบในท้องพาหามส่งโรงพยาบาล รอ 2-3 วันทำทีไปเยี่ยมและรับตัวกลับ แต่แอบบังคับให้กลืนยาบ้าลงท้อง ก่อนบังคับให้กินยาถ่ายเอาถุงยาบ้าออกมา โดนมาแล้ว 2 ครั้ง

สารวัตรเวร สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสีคิ้ว ว่ามีผู้คุมเรือนจำกลางคลองไผ่หามนักโทษมารักษา โดยผู้ป่วยให้การกับหมอว่า ได้กลืนยาบ้าลงไปในท้องถึง 4,000 เม็ด และเมื่อทำการเอกซเรย์แล้ว พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในกระเพาะอาหารเป็นจำนวนมาก จึงรุดไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลพบผู้คุมกว่า 10 คน กำลังควบคุมตัว นช.อุดร สารสีมา อายุ 50 ปี นักโทษอุกฉกรรจ์คดีข่มขืนฆ่า ขึ้นนอนบนเตียงคนป่วย โดยมีโซ่ตรวนขนาดใหญ่ล็อกข้อเท้าทั้งสองข้างติดกับเตียงไว้เพื่อป้องกันการ หลบหนี

นช.อุดร ให้การกับตำรวจว่า ตนถูกศาลจังหวัดมุกดาหารพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต และถูกส่งตัวมาคุมขังที่แดน 2 เรือนจำกลางคลองไผ่ ตั้งแต่เมื่อปี 2549 โดยในเรือนจำแห่งนี้มีมาเฟียค้ายาบ้าอยู่กลุ่มหนึ่ง ประกอบด้วยผู้คุมบางคน กับนักโทษหัวโจกคดียาเสพติด มาเฟียกลุ่มนี้จะใช้วิธีบังคับให้ตนกลืนสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ลงท้อง อาทิ ลวดที่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ตะปู และใบมีดโกน เมื่อตนขัดขืนก็ขู่ว่าจะฆ่าทิ้ง ตนจึงทนทำตาม

หลังกลืนลงท้องแล้วก็จะเกิดอาการอักเสบปวดบวมในท้อง มาเฟียกลุ่มนี้ก็จะส่งตนไปรักษา ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จากนั้นอีก 2-3 วัน ก็จะทำทีไปเยี่ยมแล้วขอรับตัวกลับเรือนจำ แต่ก่อนกลับจะบังคับให้เข้าห้องน้ำในโรงพยาบาล จากนั้นก็จะนำยาบ้าจำนวนมากบรรจุในถุงพลาสติก บังคับให้ตนกลืนลงคอทีละถุง เมื่อตนไม่ยอมก็จะถูกตบตีและขู่ว่าจะฆ่าให้ตาย ตนจึงยอมทำตาม

เมื่อมา ถึงเรือนจำกลางคลองไผ่แล้ว ก็จะบังคับให้ตนกินยาถ่ายเอาถุงยาบ้าออกมา เพื่อนำมาขายให้กับบรรดานักโทษในเรือนจำ โดยครั้งแรก ตนถูกบังคับให้กลืนยาบ้า 2,000 เม็ด ครั้งที่ 2 จำนวน 3,000 เม็ด และครั้งล่าสุดนี้เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ตนถูกบังคับให้กลืนยาบ้าจำนวนมากถึง 4,000 เม็ด แต่ในครั้งนี้ตนถ่ายออกบ้างไม่ออกบ้าง และมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จนทางเรือนจำต้องส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลสีคิ้ว

แพทย์ได้ผ่าตัดเอา สิ่งแปลกปลอมออกจากท้องของ นช.อุดร แล้วพบว่าเป็นใบมีดโกนชนิด 2 คม 1 เล่ม หนัง ยาง 2 วง และถุงพลาสติกสีขาวขนาดฝ่ามือ 2 ถุง ภายในถุงมีผงสีส้มคล้ายแป้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ จะส่งไปตรวจพิสูจน์อีกครั้งว่าเป็นผงอะไร ถ้าหากเป็นยาเสพติดก็จะสอบสวนหาผู้เกี่ยวข้องเพื่อจะดำเนินคดีต่อไป
  
เจ้า หน้าที่ของเรือนจำกลางคลองไผ่ แต่ทุกคนพากันปิดปากเงียบ ไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ มีเพียงนายเผด็จ หริ่งรอด ผอ.ทัณฑสถานบำบัด ซึ่งเป็นตัวแทนของนายอาทร เครือรัตน์ ผบ.เรือนจำกลางคลองไผ่ ที่เดินทางมาสังเกตการณ์ที่โรงพยาบาลสีคิ้ว และเผยว่า ตนเชื่อว่านักโทษผู้นี้สร้างสถานการณ์ขึ้นมา และยาสีส้มที่พบอยู่ในท้อง นช.อุดรอาจเป็นยาบำรุงหรือวิตามินซี