นับตั้งแต่ที่โคราชได้ย้ายสนามการบินพาณิชย์จากสนามบินกองบิน 1 กองพลบินที่ 2 กองบัญชาการยุทธ์ทางอากาศ ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ออกไปใช้สนามบินที่ก่อสร้างขึ้นใหม่มูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาทของกรมการขนส่งทางอากาศ กระทรวงคมนาคม คือ ท่าอากาศยานนครราชสีมา บริเวณหนองเต็ง-จักราช ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ราวปี 2538 ปรากฏว่า สายการบินต่างๆ ที่เปิดเส้นทางการบินมาจ.นครราชสีมาได้ไม่นาน ล้วนประสบปัญหาต้องยกเลิกทำการบิน และก่อให้เกิดสภาวะสนามบินร้างอยู่เป็นประจำ ทิ้งช่วงเป็นระยะๆ 2-3 ปีเช่นนี้มาโดยตลอด
เริ่มจาก การบินไทย ซึ่งย้ายมาทำการบินที่ท่าอากาศยานแห่งใหม่ เป็นเจ้าแรกในฐานะเจ้าของสัมปทานเส้นทางการบินกรุงเทพฯ-นครราชสีมา อยู่ได้ราว 2 ปีก็ยกเลิก เพราะขาดทุนผู้โดยสารมาใช้บริการน้อย หลังจากเป็นสนามบินร้างอยู่ 2-3 ปี แอร์อันดามันได้เข้าช่วงปี 2542-2543 ภายใต้การพยายามประคับประคองช่วยเหลือจากการบินไทย ด้วยการซื้อที่นั่งช่วยจำนวน 10 ที่นั่งในทุกเที่ยวบินแต่ก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ จากนั้นการบินไทยกลับมาบินเองอีกครั้ง อยู่ได้ไม่ถึงปีก็ต้องเลิกราไป และปล่อยให้เป็นสนามบินร้าง ตั้งแต่ปลายปี 2544 เป็นต้นมา ต่อด้วยไทยแอร์เอเชีย ที่นำสายการบินราคาประหยัดเข้ามาบิน เพื่อหวังให้อยู่ได้ แต่ต้องปิดตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยสาเหตุเดียวกัน
ย้อนไปช่วงปี 2529-2537 ในขณะที่ยังใช้สนามบินกองบิน 1 ขณะนั้นถึงแม้ค่าตั๋วจะอยู่ในอัตราที่แพงก็ยังประสบความสำเร็จ และได้รับความนิยมจากประชาชน นักธุรกิจ ข้าราชการหรือนักการเมืองมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพราะสะดวกสบายและอยู่ใกล้ตัวเมือง จากที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า ปัจจัยหลักที่การเดินทางโดยเครื่องบินของจังหวัดนครราชสีมาไม่ได้รับความนิยม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอัตราราคาค่าโดยสารเพียงอย่างเดียว แต่หัวใจสำคัญของปัญหาอยู่ที่ เพราะท่าอากาศยานนครราชสีมาหรือ สนามบินหนองเต็ง-จักราชอยู่ไกลจากตัวเมืองมากเกินไปถึง 30 กิโลเมตร และไม่มีระบบขนส่งผู้โดยสาร ระหว่างตัวเมืองกับสนามบินรองรับเพราะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน
ผู้โดยสารที่จะใช้บริการเครื่องบินต้องมีรถยนต์ส่วนตัวไปส่ง-ไปรับ หรือหาวิธีเอาตัวรอดเองตามยถากรรม ซึ่งต้องเสียเวลาเดินทางไปสนามบินไม่ต่ำกว่า 45 นาที รวมทั้งหมดแล้วกว่าเครื่องจะบินถึงกรุงเทพฯต้องใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมง เมื่อเทียบแล้วกลับช้าและยุ่งยากกว่าการเดินด้วยรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ซึ่งขัดกับหลักของความเป็นจริงที่ต้องจ่ายแพงกว่า แต่กลับยุ่งยากไม่สะดวกและเสียเวลามากกว่า
ทั้งนี้ท่าอากาศยานนครราชสีมา บริเวณหนองเต็ง-จักราช มีพื้นที่อาคารผู้โดยสาร 5,500 ตารางเมตร พื้นที่ลานจอดเครื่องบิน 27,455 ตรม. และหลุมจอดเครื่องบิน 4 Bays โดยสภาพภายในอาคารและบริเวณลานจอดยังคงมีความสมบูรณ์และมีความพร้อมใช้บริการ หากแต่เพียงว่าปัจจุบันไม่มีสายการบิน จนมีสภาพร้างดังเช่นในรูป
ที่มา: http://www.yimnid.com/1776/