10 สถานที่ร้างน่าขนลุกที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว และหลายคนอาจไม่เคยเห็นมาก่อน

นี่คือ 10 เมืองร้างน่าขนลุกที่มีอยู่จริงบนโลก แต่หลายคนอาจไม่เคยได้ยินหรือเห็นมาก่อน ซึ่งมีหลายสาเหตุด้วยกันที่ทำให้เมืองแต่ละเมืองนั้นถูกปล่อยทิ้งร้างไว้อย่างโดดเดี่ยว และแต่ละเมืองนั้นน่าสนใจมากเลยทีเดียว จะน่าขนลุกและเป็น "เมืองผีสิง" สมชื่อขนาดไหน ไปชมกันเลย

 

1. Kolmanskuppe, Namibia

เป็นเมืองร้างกลางทะเลทรายนามิบ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศนามิเบีย มันได้ชื่อว่าเป็น "เมืองผีสิง" หลังจากถูกพายุทรายทำลายจนกลายเป็นเมืองร้างว่างเปล่าที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ แต่ปัจจุบับมันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง

 

 

2. Pegrema, Republic of Karelia, Russia

เป็นหมู่บ้านร้างในเมือง Medvezhyegorsky ของสาธารณรัฐ Karelia ในประเทศรัสเซีย ตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบ Onega เป็นเมืองร้างที่มีชื่อเสียงในเรื่องสถาปัตยกรรมไม้เป็นอย่างมาก ภายในหมู่บ้านเต็มไปด้วยบ้านไม้ทรุดโทรมหลายหลังตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียว ตอนกลางวันเป็นหมู่บ้านร้างที่สวยงามแต่กลางคืนนี่สิน่าขนลุกสุดๆ

 

 

3. Dallol, Ethiopia

เป็นนิคมที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศเอธิโอเปีย มันเป็นเมืองร้างที่ได้รับการบันทึกว่าเป็น "เมืองที่ร้อนมากที่สุดในโลก" มีชุมชนเหมืองแร่ของอิตาลีและสหรัฐอเมริกา เป็นสถานที่ขุดแร่โปแตช เนื่องจากการระเบิดของภูเขาไฟในปี 1960 ทำให้เมืองถูกปล่อยทิ้งร้าง อาคารบ้านเรือนในเมืองทำมาจากบล็อกและทุกวันนี้เหลือแต่เพียงซากปรักหักพักเท่านั้น

 

 

4. Kilamba New City, Angola

เป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ในเมืองหลวงของแองโกลา มันถูกสร้างขึ้นในประเทศจีน และได้รับการออกแบบให้รับรองประชากรมากถึง 500,000 คน มีตึกอพาร์ทเม้นท์ 8 ชั้น กว่า 750 ตึก และตึกเหล่านี้เพิ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 2012 แม้มันจะเป็นเมืองที่สวยงามแต่กลับไม่มีคนเข้ามาอยู่อาศัยเลยตลอด 4 ปีที่ผ่านมาจนมันกลายเป็นเมืองร้าง

 

 

5. Pyramiden, Svalbard, Norway

Pyramiden ก่อตั้งโดยสวีเดนในปี 1910 จากนั้นก็ถูกขายให้กับรัสเซียในปี 1927 มันมีชื่อว่า Pyramiden เพราะมีลักษณะคล้ายกับปีระมิดนั่นเอง ก่อนปี 1998 มีประชากรมากกว่า 1,000 คน แต่แล้วเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 1998 เกิดเหตุถ่านหินถูกสกัดจากเหมืองขึ้นประชากรจึงย้ายออกจากเมืองถาวร และมันกลายเป็นเมืองร้างที่มีอากาศหนาวเย็นมาก

 

 

6. Oradour-sur-Glane, France

เป็นหมู่บ้านใน Haute-Vienne เคยถูกครอบครองโดยพวกนาซี เมืองนี้ถูกทำลายเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1944 แต่แล้วช่วงหลังสงครามมันก็ถูกสร้างขึ้นใหม่และรักษาไว้เป็นที่ระลึกอย่างถาวร

 

 

7. Chaiten, Chile

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใน Los Lagos ใกล้กับแม่น้ำ Yelcho หลายต่อหลายครั้งด้วยกันที่เมืองนี้ต้องประสบกับความรุนแรงทางธรรมชาติ โดยในปี 2005 เกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้น จากนั้นต่อมาในปี 2008 ก็เกิดการระเบิดของภูเขาไฟขึ้น ทำให้เมืองถูกปกคลุมไปด้วยเถ้ากำมะถันจำนวนมาก และในปีเดียวกันก็เกิดน้ำท่วม จนทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองร้าง

 

 

8. Residentail Development ใน El Quinon, Spain

ในเดือนกันยายน 2007 Francisco Hernando มหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ได้สร้างเมืองนี้ขึ้นมา มีทั้งร้านค้า ที่อยู๋อาศํยขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำ เรียกได้ว่าเป็นเมืองเมืองหนึ่งเลยทีเดียว แต่การเพิ่มของอัตราดอกเบี้ยทำให้เมืองนี้ถูกระงับการก่อสร้างและสร้างเสร็จไปเพียงครึ่งเดียว จนกลายเป็นเมืองร้างมาจนทุกวันนี้

 

 

9. Azerbaijan, Agdam

เป็นเมืองที่สวยงามมีประชากรกว่า 150,000 คน ในช่วงสงครามคาราบาคห์มีคนมากกว่า 100,000 คนเสียชีวิต ทำให้สถานที่นี้กลายเป็นเมืองร้างที่ไม่มีคนอาศัยอยู่

 

 

10. Kowloon Walled City, China

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้ฮ่องกง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มันถูกครอบครองโดยญี่ปุ่น มันเป็นสลัมที่มีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เป็นแหล่งของอาชญากรรม โสเภณี การพนัน และยาเสพติด ต่อมาในปี 1987 รัฐบาลฮ่องกงก็ประกาศจะทำลายเมืองนี้และมันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็น Walled City Park เพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว

 

ข้อมูลและภาพประกอบจาก "wittyfeed"

Credit: http://www.wittyfeed.com/story/5859/10-scary-places-which-turned-into-ghost-towns
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...