ที่มา: http://www.we-mag.com/community/topic/เมื่อดิฉันตัดสินใจ-ทำน/
ขอออกตัวก่อนนะคะว่าแต่งงานเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนงานแต่งก็อยากจะเป็นเจ้าสาวสวยเซ็กซี่แต่ด้วยหน้าอกหน้าใจที่มีอยู่น้อยนิดจึงทำให้ดิฉันไม่ค่อยมั่นใจในเรื่องเซ็กซี่เท่าไหร่ แล้วเข้าหอก็ไม่ต้องพูดถึงความมั่นใจนี่หายหมด ฟังดูอาจจะงงๆ ว่าได้สามีมาได้ยังไงทั้งที่ไม่ได้มีหน้าอกดูมๆ ฮ่า ก็ได้มาด้วยความสามารถล้วนๆ ค่ะความเซ็กซี่หน้าอกตู้มไม่มีหรอกค่ะเพราะตัวดิฉันเองเป็นคนที่มีหน้าอกแบน ถึงแบนมากที่สุด ไม่ต่างอะไรจากชายไทย ทำให้ไม่มีความมั่นใจในการใส่ชุดที่เน้นการโชว์ส่วนนูนเอาซะเลย ก็เพราะหน้าอกนี่แหละค่ะปัญหาเดียวที่เป็นสาเหตุทำให้ดิฉันตัดสินใจและคิดว่าเอาวะกรูอยากจะสวยในชาตินี้ จึงตัดสินใจปรึกษาคุณสามีบอกเหตุผลร้อยแปดจนเขายอมให้ทำ อีกอย่างนะคะสปอนเซอร์ในการเสริมหน้าอกของดิฉันคือคุณสามีค่ะ เมื่อเงินพร้อมดิฉันก็ทำการรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ที่รวมการรีวิวการศัลยกรรมต่างๆ หาจากกูเกิลบ้างพันทิปบ้าง ข้อมูลที่ดิฉันหาก็จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับรูปทรง ราคา หมอ การให้นมลูก ผลข้างเคียง และนี่คือข้อมูลเบื้องต้นที่ดิฉันรวบรวมมาให้ได้อ่านกันค่ะ
พอจะได้ทำหน้าอกก็ต้องมาหาข้อมูลเลยว่างบเท่านี้เหมาะที่จะได้นมทรงไหนเพราะซิลิโคนส่วนใหญ่มีตั้ง 2 แบบ คือแบบทรงกลมกับทรงหยดน้ำ แล้ว 2 แบบนี้มันแตกต่างกันอย่างไร อย่างแรกเลยค่ะเรื่องราคาเพราะทรงหยดน้ำจะมีราคาแพงกว่าทรงกลมมาก เพราะทรงหยดน้ำทำให้นมดูธรรมชาติมากกว่า ดูสวยกว่า แต่ข้อเสียก็คืออาจจะมีการพลิกตัวหรือการเปลี่ยนรูปจากการนอนตะแคงค่ะอาจจะทำให้บิดเบี้ยว ผิดรูป ส่วนทรงกลมนั้นอาจจะดูแป้นเป็นซาลาเปาแต่คุณอย่าลืมเรื่องแรงโน้มถ่วงของโลกนะคะถ้ามันมาอยู่ในตัวคุณมันไม่ได้เป็นทรงกลมอย่างที่เห็นแน่นอนค่ะมันก็คล้อยสวยและที่สำคัญกำลังเงินถึงแน่นอนค่ะ
นอกจากรูปทรงแล้วยังมีชนิดของพื้นผิวทั้งผิวเรียบ ผิวทราย แต่เท่าที่ดิฉันรวบรวมข้อมูลมาพบว่าหมอในประเทศไทยจะเลือกใช้ชนิดผิวเรียบมากกว่า ต่อมาเรื่องนี้สำคัญมากนั่นก็คือเรื่องราคา ในประเทศไทยมีโรงพยาบาลและคลินิกหลายแห่งมากที่ทำโดยส่วนราคาของราคาจะมีตั้งแต่ 45,000 ขึ้นไปขึ้นอยู่กับความดังของหมอ หมอดังๆ ที่มีชื่อเสียงก็เช่น หมอเทพ ประตูน้ำโพลีคลินิก นอกจากรูปทรงแล้วเรื่องการผ่าก็ไม่ใช่มีแค่แบบเดียว อย่างที่เรารู้กันอยู่ว่าส่วนใหญ่จะเป็นการผ่าใต้รักแร้
แต่ทุกวันนี้มีแบบผ่าที่ปานนมและผ่าใต้ราวนมด้วยค่ะ ดิฉันก็เลือกผ่าแบบทั่วไปคือผ่าใต้รักแร้ค่ะ และรูปแบบการยัดซิลิโคนก็มี 2 แบบ คือ การยัดบริเวณใต้ผิวหนัง กรณีนี้สำหรับสาวๆ ที่มีค่อนข้างมีเนื้อนมอยู่บ้าง ข้อดีก็คือระยะเวลาการฟื้นตัวเร็ว ไม่เจ็บมาก ข้อเสียคืออาจะมีปัญหาในเรื่องของนมแตกลายเมื่อนมเข้าที่ หรือการพลิกตัวของซิลิโคน (สำหรับคนที่มีเนื้อนมมาก) วิธีที่ 2 การยัดบริเวณใต้กล้ามเนื้อเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ไม่มีเนื้อนมเลย ข้อดีคือมีโอกาสเกิดรอยแตกน้อย ข้อเสียก็คือระยะการพักฟื้นนานกว่า แบบใต้ผิวหนัง และอาจจะได้ขนาดของซิลิโคนที่ไม่ใหญ่มากเพราะไม่มีฐานเนื้อนมเพียงพอ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดลพินิจของหมอหรือคลินิกนั้นๆ ด้วยนะคะ สำหรับคนที่มีกลัวว่าจะมีปัญหาเรื่องการให้นมลูกก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเพราะหมอจะใช้วิธีการผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อ และการวางซิลิโคนที่เป็นวิธีการผ่าใต้รักแร้จึงไม่มีการตัดท่อน้ำนม แต่หากสาวๆ ที่ต้องการลดขนาดเต้านมอันนี้น่าเป็นห่วงค่ะ เพราะว่าจะเป็นการผ่าตัดบริเวณหัวนม ดังนั้นอาจจะมีผลกับการให้นมลูก อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการคลายกังวลสาวๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือคลินิกโดยตรง
หลายคนคลกังวลกับผลกระทบระยะยาวว่าจะมีอะไรบ้าง อันนี้ขึ้นอยู่กับการรักษาและการใช้งานของแต่ละคนนะคะ เพราะเราต้องรู้ก่อนว่าสิ่งนี้จะเข้ามาอยู่กับเราตลอดและอย่าลืมว่าสิ่งแปลกปลอมนี้ก็มีอายุของมัน แรกๆ จะดูสวยแต่เราก็ต้องยอมรับว่าเมื่อร่างกายเราแก่ตัวลงในอนาคตเราก็พร้อมที่จะเอาออก หรือบางคนอาจจะทำมาแล้วสักพักก็ควรปรึกษาหมอว่ากี่ปีควรจะเปลี่ยน หรือควรจะเอาออก สวยได้แต่ก็ต้องใส่ใจดูแลด้วยนะคะ
เมื่อพร้อมก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำนม ขั้นแรกหลังจากสาวๆ ได้คิวหรือนัดแนะกับหมอไว้แล้วก็ต้องเตรียมร่างให้พร้อม เพราะการเสริมนมนั้นเป็นการผ้าตัดใหญ่ ต้องใช้เวลาพักฟื้นสักระยะ ดังนั้นเราควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนขึ้นเขียงก็จะดีไม่น้อย สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งคือแจ้งรายละเอียดประวัติการเจ็บป่วย โรคประจำตัว การแพ้ยา งดยากลุ่มแอสไพริน, บลูเฟน, วิตามิน อาหารเสริม, และสมุนไพรทุกชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หยุดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดอาหาร และเครื่องดื่มทุกชนิด อย่างน้อย 6 ชั่วโมง หากใครมีข้อสงสัยก็ควรปรึกษาหมอได้โดยตรง
เมื่อผ่านช่วงเวลาการผ่าตัดมาแล้ว คำพูดที่มีคนพูดไว้ว่าหลังทำนมแล้วรู้สึกเหมือนมีรถมาทับที่หน้าอก ลุกไม่ไหว บลา บลา ในสมัยก่อนอาจจะใช่ค่ะ แต่สมัยนี้มียาที่พัฒนาขึ้น มีรูปแบบที่ดีกว่าเมื่อก่อน ก็ทำให้ร่างกายฟื้นเร็ว ส่วนตัวดิฉันเองทำมาแล้วก็ยังลุกไม่ขึ้นใน 3 – 4 วันแรก ต้องมีคนคอยประคองหลังเพื่อ เข้าห้องน้ำ เช็ดตัว ดังนั้นควรหาเพื่อนหรือแฟนมาอยู่ด้วยในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นก็ค่อยสบายตัวขึ้นค่ะ อย่าลืมทานยาตามแพทย์สั่ง งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 เดือนหลังผ่าตัด ห้ามให้แผลโดนน้ำเด็ดขาด จนกว่าจะตัดไหมหมด ไม่ควรยกของหนักหรือออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อหน้าอก อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เราต้องท่องไว้ค่ะฉันจะสวยต้องอดทน เมื่อผ่านช่วงโหดร้ายของชีวิตไปก็เข้าสู่ช่วงการดูแลตัวเองหลังมีนม หมอจะนัดไปตัดไหมหรือนัดไปตรวจดูแผล หากไม่มีอะไรผิดปกติหรือน่ากังวลก็เตรียมตัวสวยได้เลยค่ะ ฮ่าๆ ไม่ใช่ว่าจะห่วงสวยอย่างเดียวเพราะต้องคำนึงถึงเรื่องเสื้อชั้นในเพราะเราได้ทำมาแล้วก็ควรหาอะไรใส่สบายๆ ไม่รัดจนเกินไป อีกอย่างที่หลายคนกังวลคือเรื่องการนวดนมเพื่อให้นิ่มไม่เป็นก้อนซิลิโคน บางคนบอกว่าทำมาเสร็จตัดไหมให้นวดเลย ทั้งนี้ควรรอฟังคำแนะนำจากแพทย์เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน ควรมีการดูแลที่แตกต่างกันออกไปนะคะ
ทุกวันนี้หน้าอกดิฉันก็เริ่มเข้าที่แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะดูแลตัวเองไม่ว่าจะเป็นการนวดเบาๆ หลังอาบน้ำ หรือการใส่บราที่ไม่รัดจนเกินไป ผลที่ได้คือมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นว่าหน้าอกของฉันตูมๆ แล้วนะ ฮ่า ได้ไซส์ที่พอใจ สามีเองก็ชื่นชอบ ปัจจุบันนี้ความมั่นใจในหน้าตาให้สองเต็มสิบ ส่วนเรื่องหน้าอกนี่ให้สิบเต็มสิบเลยค่ะ อย่างไรก็ตามสาวๆ ที่อยากจะทำศัลกรรมหน้าอกก็อยากให้หาข้อมูลหรือดูรีวิวเยอะๆ เพราะการทำศัลยกรรมคือเรื่องใหญ่ ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์โดยตรงของตัวดิฉัน หากสาวๆ มีข้อสงสัยก็ควรปรึกษาหมอที่ตนอยากจะทำโดยตรงเพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประกอบการตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
รูปนี้หลังจากทำ 2 วันค่ะ สังเกตุว่ายังมีผ้าพันแผลอยู่เลย ลุกได้เดินได้ค่ะ แต่ต้องมีเพื่อนประคองหลังเวลาลุกให้ค่ะ
ไฟล์แนบ:
รูปนี้ได้ 3 เดือนแล้วค่ะ ต้องค่อยๆ นวดไปเรื่อยๆ ตามที่หมอบอก
ไฟล์แนบ:
รูปนี้ก้เช่นกัน 3 เดือน อิ่มอกอิ่มใจ
ไฟล์แนบ:
ที่มา: http://www.we-mag.com/community/topic/เมื่อดิฉันตัดสินใจ-ทำน/