เรื่องของฝนประหลาด

เรื่องของฝนประหลาด

สำหรับฝนประหลาดนี้สามารถแบ่งความประหลาดของมันออกไปได้หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภท เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง... เริ่มเลยละกัน

ฝนเลือด

 

ความจริงฝนไม่ใช่การที่ฝนตกลงมาเป็นเลือดแต่อย่างใด เพียงแค่ฝนที่ตกลงมามีสีแดงเท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลายครั้ง จากการบันทึกพบว่าครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นใน พ.ศ. 2473 ทางตอนใต้ของเกาะอังกฤษ กินอาณาบริเวณกว้างถึง 20,000 ตารางไมล์ ผู้คน ต่างตกใจกลัวกันเสียยกใหญ่ แต่เมื่อนักอุตอนิยมวิทยาเก็บตัวอย่างน้ำฝนสีแดงนี้ไปตรวจวิเคราะห์แล้วพบว่ามันคือน้ำฝน ที่มีฝุ่นสีแดงผสม ซึ่งฝุ่นสีแดงนี้เป็นฝุ่นจากทะเลทรายซาฮาร่า โดยมันเป็นฝุ่นทรายแดงที่ละเอียดยิ่งกว่าแป้ง ถูกลมพายุพัด หอบขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วปลิว ไปกับลมประจำฤดูกาลคือลมตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป พัดพาหอบผ่านมาทางประเทศสเปน โปรตุเกส ข้ามทะเลมาเป็นระยะทางกว่า 2,000 ไมล์ กลายมาเป็นลมมรสุมพัดเข้าสู่ฝั่งตอนใต้ของเกาะอังกฤษ กระทบลมหนาวกลายเป็นฝนตกลงมาเป็นสีแดง

นอกจากนี้เยังเคยมีเหตุการณ์ฝนตกสีแดงในประเทศออสเตรเลียอีกด้วย

ฝนดำ

 

ฝนดำนี้เคยพบในประเทศสกอตแลนด์ โดยวันหนึ่งในปี พ.ศ. 2405 เวลาประมาณ 8.30 น. อากาศแจ่มใสแต่ต่อมาท้องฟ้า เริ่มขมุกขมัว ทำท่าว่าฝนจะตกใหญ่ อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาก็ปรากฏว่ามีเมฆก้อนสีดำเข้มมาก ดูเหมือนกลุ่มควันไฟสีดำหมุน เคลื่อนตัวต่ำลงมา แล้วฝนก็เริ่ม ตกลงมาเป็นสีดำเหมือนน้ำหมึก ซึ่งเมื่อนำตัวอย่างน้ำฝนสีดำไปตรวจสอบ พบว่ามันประกอบ ไปด้วยฝุ่นเถ้าถ่านคาร์บอนมากมาย คาดว่าผง ถ่านคาร์บอนนี้คงมาจากเขม่าควันจากภูเขาไฟวิซูเวียส ( Visuvius )

ฝนเหลือง

 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2413 บริเวณลุ่มแม่น้ำจีนีซี ( Genesee ) โดยเมื่อนำน้ำฝนสีเหลือง นั้นมาวิเคราะห์ก็ พบว่าน้ำฝนนั้นมีส่วนประกอบด้วยผงทรายและผงดินสีเหลืองถึง 65.618%

นอกจากนี้ก็ยังมีฝนสีอื่นๆอีก เช่น ฝนสีขาวเป็นน้ำนม หรือแม้แต่ฝนสีเขียว ซึ่งต่างก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

ฝนไฟฟ้า

 

ฝนประเภทนี้เป็นฝนที่ตกลงมาเป็นหยดน้ำธรรมดาๆ แต่มีกระแสไฟฟ้าอยู่ในเม็ดฝนด้วย ถ้าตกลงมาโดนใครก็จะทำให้คนคนนั้น รู้สึกถูกไฟฟ้าดูด ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองโคร์โดว่า ( Cordova ) ในประเทศสเปน ในปี พ.ศ. 2435 โดยตอนเช้า เวลาประมาณ 8 นาฬิกา เกิดมีพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก ผุคนที่เดินตากฝนอยู่ก็ต่างต้องวิ่งกระเจิดกระเจิงเข้าหาที่กำบัง และส่งเสียงเอะอะไปตามๆกัน บางคน ก็กระโดดบิดตัวราวกับนักเต้นบัลเล่ย์ ฝนห่าแรกเมื่อตกลงมากระทบพื้นก็จะเกิด ประกายไฟสปาร์คทั่วไปหมดเนื่องจากมีไฟฟ้าสถิตย์อยู่ใน เม็ดฝน ผู้คนต่างตกใจขวัญหนีดีฝ่อ

แต่เคราะห์ยังดีที่ไม่มีใครเป็นอันตรายถึงชีวิต ปรากฏการณ์ประหลาดนี้เกิดขึ้นชั่วครู่ประมาณ 2 - 3 นาที เท่านั้น แล้วฝนไฟฟ้าก็หมดไป กลายเป็นฝนธรรมดาชุ่มฉ่ำแทน

ฝนมัจฉา

 

ฝนมัจฉาเป็นปลาที่ตกลงมาพร้อมกับฝน ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นอยู่หลายครั้งไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยโดยปลาที่ตกลงมานี้ เป็นปลาขนาดเล็กที่ยังเป็นและตกลงมาทีละเป็นร้อยๆ ตัว เช่น ปลาเค้า ปลาดุก ปลากด ปลาทุกัง ฯลฯ ซึ่งสาเหตุของ ปรากฏการณ์นี้สามารถสรุปได้ว่า ปลาถูกลมพายุหอบพัดมาแล้วก็ตกลงมาพร้อมกับ ฝน นอกจากปลาแล้วยังมีสิ่งของอื่นๆ อีกเช่น ก้อนหิน กิ่งไม้ใบหญ้าสารพัดอย่าง นักอุตุนิยมวิทยากล่าวว่าวัตถุเบาๆอาจถูกลมพายุระดับสูง หอบปลิวไปได้ไกล เป็นระยะางหลายพันไมล์ แต่วัตถุหนักๆอย่างปลา ก้อนหินท่อนไม้นี่สิพายุจะสามารถหอบไปไกลๆเป็นพันๆไมล์ได้ อย่างไรยังเป็นที่สงสัยกันอยู่

อย่างไรก็ตามก็มีฝนมัจฉาที่แปลกออกไปอีกเพราะมันไม่ใช่มัจฉาธรรมดาแต่มันเป็น "มัจฉาไหล" หรือปลาไหลนั่นเอง เหตุการณ์นี้เกิด ขึ้นที่ประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2461 ตามถนนหนทางหลังคาบ้านเรือนมีแต่ปลาไหลตัวเล็กๆเลื้อยกัน ให้ยั้วเยี้ยไปหมดผู้คนต่างวิ่งหนี ร้องกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ เมื่อนำปลาไหลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ก็พบว่ามันเป็นปลาไหลพันธุ์ ( Sand-eel ) ซึ่งเป็นปลาไหลตัวเล็ก ขนาดยาวที่สุด ประมาณ 7 - 8 ซม. เท่านั้น เชื่อว่าเจ้าปลาไหลเหล่านี้คงถูก ลมพายุหอบมาจากท้องทะเลเป็นแน่

ฝนกบฝนเขียดฝนคางคก

 

ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นอีกหลายแห่งเช่นกัน ซึ่งกบ, เขียด, คางคกที่ตกลงมายังเป็นๆ อยู่และต่างกระโดดกันหยองแหยง มันมักจะมา พร้อมกับฝนฟ้าคะนองรุนแรง และส่วนมากมักจะเป็นลูกกบ, ลูกเขียด, ลูกคางคก เสียมากกว่า

ฝนเต่า

 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองวิกส์เบอร์ก ( Vicksburg ) ในสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2473 เกิดพายุฝนลูกเห็บตกกระหน่ำ อย่างหนัก ชั่วเวลาเพียง 4 - 5 นาที ลูกเห็บขนาดใหญ่เกือบเท่าผลส้มโอก็ตกลงมา.... ณ ตำบลโบรีน่า ( Borina ) 8 ไมล์ ห่างจากตัวเมืองปรากฏว่ามีเต่าพันธุ์ "Gopher" ( เป็นเต่าขนาดเล็กโตเต็มที่เท่าหนู ) ตกลงมาพร้อมกับลูกเห็บ ด้วยหลายร้อยตัวกลาดเกลื่อนไปทั่วท้องทุ่ง บางตัวก็ตาย บางตัวก็มีชีวิตอยู่

ฝนงู

 

เหตุการณ์นี้เกิดในรัฐเทเนซี ใกล้ๆ กับเมืองเมมฟิส ( Memphis ) ในปี พ.ศ. 2420 ฝนตกกระหน่ำอย่างหนักพร้อมกับงูเป็นๆ หลายหมื่นหลายพันตัว เลื้อยกันให้ยั้งเยี้ยไปหมด แต่ยังโชคดีที่เป็นงูขนาดเล็ก ซึ่งพบว่าตัวยาวที่สุดประมาณ 8 - 12 นิ้วเท่านั้น และก็โชคดี ที่ไม่มีใครในเมืองโดนมันกัดเลยสักคน มีแต่ความโกลาหลวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิงงูที่ตกลงมามีหลายชนิด ทั้งงูทะเลและงูบนบกที่มีอยู่ชุก ชุมในภูมิประเทศแถบนั้น

ฝนพยาธิ

 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2415 ที่เมืองบูคาเรสท์ ( Bucharest ) ในประเทศโรมาเนีย เริ่มจากเมฆฝนที่ครึ้มมาตั้งแต่หัวค่ำ พอเวลาประมาณ 3 ทุ่มครึ่งฝนก็ลงกระหน่ำอย่างหนักหน่วงและท่ามกลางสายฝนอันชุ่มฉ่ำนั้นเองทุกคนในเมืองก็มีอาการ ขนลุกขนพองด้วยความ ขยะแขยงคลื่นเหียนไปตามๆกัน เพราะสิ่งที่ตกลงมาพร้อมกับฝนก็คือตัวพยาธิสีดำและน้ำตาล ขนาดยาว 3 - 4 มม. นับล้านๆตัว รุ่งเช้าเมื่อ ฝนหยุดตกแล้วทุกคนในเมืองก็พบว่าตามพื้นถนน หลังคาบ้านช่อง แอ่งน้ำ ใบหญ้าเต็มไปด้วยกองทับถมของตัวพยาธิยึกยือเลอะเทอะไป หมด ( สงสัยว่าคนเมืองนั้นคงจะกินก๋วยเตี๋ยวไม่ลงไปอีกหลายวัน )

ไม่รู้เหมือนกันว่าพายุไปหอบเอาพยาธิจากไหนมาถึงได้มีจำนวนเยอะขนาดนี้

ที่มา: http://www.cmxseed.com/cmxseedforumn/index.php?PHPSESSID=ip78jq437d9lb6tsbigf27o301&topic=133688.0

http://www.satitcmu.ac.th/student/2542/2/nat/rain.html

credit :: cammy@dek-d.com

Credit: http://board.postjung.com/970554.html
9 มิ.ย. 59 เวลา 07:05 3,266 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...