ktt
ผู้หญิง อาจเป็นเพศที่อ่อนแอในสายตาของคนทั่วไป แต่หลายต่อหลายครั้งเพศที่อ่อนแอกว่านี้ก็ทำให้โลกต้องตะลึงมาแล้วมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือคดีฆาตกรรมที่ผู้ชายหลายคนได้รู้ได้เห็นแล้วยังอดหวาด กลัวไปด้วยไม่ได้
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 400 ปีก่อน ใครจะคิดว่าสตรีชาวฮังการีผู้สูงศักดิ์ในต้นศตวรรษที่ 17 อย่าง เคาน์ เต ส เอลิซาเบธ บาโธรี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับกษัตริย์แคว้นทรานซิลวาเนีย ผู้ซึ่งเลอโฉมที่สุดในอาณาจักร ปราดเปรื่อง พูดได้ถึง 3 ภาษา จะกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่เลวร้ายที่สุดของโลก
ในฐานะ นักการทูต เอลิซาเบธได้เจรจาต่อรองสนธิสัญญาระหว่างสองอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ แต่ในยามค่ำคืนเธอกลับกลายเป็นอีกคนที่กระหายเลือด ว่ากันว่าเอลิซา เบธฆ่าคนรับใช้ไปมากกว่า 600 คน เพราะเชื่อว่าเลือดจะถนอมความสาวและความสวยของเธอไว้ ไม่ต่างจากตำนานเคาน์แดร็กคิวลาของแคว้นทรานซิลวาเนีย
แวม ไพริซึม เป็นศัพท์ทางการแพทย์ที่จิตแพทย์ทั่วโลกใช้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมของคนที่ดื่มเลือด ซึ่ง แคนดิช เดอลอง อดีตเจ้าหน้าที่เอฟบีไอและนักสืบค้นประวัติ พบว่าพิธีกรรมพิสดารนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในแถบทรานซิลวาเนียเท่านั้น
ขณะที่ เจนีส อะมาทูซิโอ นักนิติพยาธิวิทยาและเจ้าหน้าที่ตรวจหาสาเหตุการตายประจำเขตที่มีประสบการณ์ ในการตรวจศพผู้ตายมากว่า 20 ปี ระบุว่า เลือดเป็นแหล่งธาตุเหล็กที่สำคัญ เอ ลิซาเบธ คิดว่ามันอาจทำให้ดูมีน้ำมีนวลหรือดูสาวขึ้นเพราะเธออาจจะเป็นคนขาดธาตุ เหล็ก
สำหรับเหตุผลที่ทำให้เอลิซา เบธทำอย่างนั้นอาจจะยังเป็นเงื่อนงำที่ต้องค้นหา แต่เหตุผลของ เวรา เรนซี กลับต่างออกไป
ในทศวรรษที่ 1930 ในนครบูคาเรสต์ ฮังการี เวราฆ่า คนรักของเธอหลายคน เธอฆ่าทีละคนและฆ่าทุกคน หลังจากชีวิตสมรสที่ล้มเหลวสองครั้ง เวราผู้เลอโฉม ก็เชิญชวนคนรักอีกเป็นขบวน เธอใช้เสน่ห์ยั่วยวน เธอดึงผู้ชายเข้ามาและนั่นย่อมไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ชายคนนี้จะได้ รับเลือกจากเธอ และเธอก็จะใช้กลวิธียั่วยวนของเธอ ใช้ความสวยของเธอ ใช้เงินของเธอ ใช้ความหรูหราของเธอ เพื่อดึงเขาเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องเพศ เวราเลือกผู้ชายที่แต่งงานแล้ว อาหารค่ำที่เย้ายวนของเวรานั้นปรุง แต่งด้วยสารหนู ซึ่งแคนดิช ผู้เชี่ยวขาญเรื่องพิษ บอกว่ามันเป็นวิธีวางยาพิษยอดนิยมที่เห็นตลอดหลายศตวรรษ
“สิ่ง ที่จะเกิดขึ้นก็คือ เริ่มแรกคนที่กินสารหนูเข้าไปจะเริ่มรู้สึกไม่สบาย สารหนูจะทำให้เนื้อเยื่อในกระเพาะอาหารแตกตัว อาการนี้เรียกว่าเลือดออกตามอวัยวะ ซึ่งหมายถึงแผลในกระเพาะอาหารชนิดที่มีเลือดออกมาก ดังนั้นพวกเขาจะรู้สึกปวดท้อง” จานีส ระบุ
แต่แผนการของเวรา ไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น เธอยังสะสมของที่ระลึกชิ้นโบแดงของตัวเองเอาไว้ด้วย โดยมีหิบสังกะสีในห้องใต้ดินอับชื้นซึ่งเป็นอุปกรณ์ทำมัมมี่ได้อย่างยอด เยี่ยม เพราะเมื่อไขมันในร่างกายผสมกับเกลือ แคลเซียม และโซเดียมในน้ำหรือในดินชื้นๆ มันจะจับตัวเป็นสารประกอบคล้ายสบู่หรือขี้ผึ้ง แล้วศพก็จะถูกถนอม รักษาและในที่สุดก็จะแข็งจนเกือบเหมือนหิน
นักวิเคราะห์ปัจจุบันเห็นว่า การที่เวราทำ เช่นนั้นก็เพราะเธออาจต้องการเพียงแค่ความรัก เวราวางแผนที่จะแก้แค้นด้วยวิธีที่ยังรักษาความรู้สึกเทิดทูนผู้ชายที่ตาม เธอมา เวราแทนที่ความรักด้วยการมีชีวิตอยู่กับความรักที่ได้จากคนตาย
เว ราฆ่าคนอยู่นานกว่าหนึ่งทศวรรษ จนกระทั่งภรรยาของชายคนหนึ่งเกิดสงสัยและได้แจ้งความกับตำรวจให้ไปยังห้อง ใต้ดินของเธอ พวกเขาพบหิบศพสังกะสี 35 ใบ และในบรรดาเหยื่อที่ถูกเก็บศพไว้เหล่านั้นก็มีสามีของเวราสองคนที่หายตัวไป ด้วย