ในประวัติอาชญากรรมในปัจจุบันเราจะพบว่าผู้หญิงมีสถิติการฆาตกรรมน้อยกว่าผู้ชาย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าผู้หญิงเป็นคนดีมากกว่า เพราะไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายต่างก็กลายเป็นฆาตกรได้ทั้งนั้นถ้าเกิดความคิดชั่ววูบ และนี่คือ 8 ฆาตกรหญิงในประวัติศาสตร์ ซึ่งแต่ละคนนั้นก่อเหตุฆาตกรรมที่น่าสยดสยองจนสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนจำนวนมาก แม้ว่าบางเหตุการณ์จะเกิดขึ้นเป็นเวลานานกว่า 100 ปี แต่กลับยังกลายเป็นตำนานเล่าต่อกันมาไม่รู้จบ

1. Marie de Roux

เธอเกิดในปี 1821 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เธอตัดสินใจแต่งงานกับ Frederick Manning เพราะต้องการใช้นามสกุล Manning ดังนั้นหลังจากแต่งงานเธอจึงยังคงความสัมพันธ์กับเศรษฐีหนุ่ม Patrick O'Connor ตามเดิม หลังจากที่ Frederick ทราบเรื่องดังกล่าวเขาก็ต้องการมรดกและทรัพย์สมบัติของ Patrick ดังนั้นเขากับ Marie จึงวางแผนฆาตกรรม Patrick

โดยเธอเชิญ Patrick มางานเลี้ยงอาหารค่ำ จากนั้นก็พยายามใกล้ชิดเขาให้มากที่สุดแล้วยิงเขาที่หัวจากด้านหลัง แต่เขากลับรอดชีวอตมาได้ ดังนั้น Frederick จึงใช้ชะแลงแทงเขาซ้ำจนตาย หลังจากเกิดเหตุ Marie และ Frederick ็ถูกจับได้และถูกจับแขวนคอในข้อหาฆาตกรรม

2. Constance Kent

ในปี 1860 มีการพบศพของพระภายในบ้านครอบครัว Kent สภาพศพที่ลำคอถูกเฉือน ซึ่งน้องสาววัย 16 ปีสารภาพว่าเธอเป็นคนลงมือฆาตกรรม โดยเชื่อกันว่ายังมีพระอีกหลายคนที่ถูกฆ่าตายแต่ยังได้รับการปกปิดอยู่ 

3. Brynhild Paulsdatter Størseth 

เกิดในประเทศนอเวย์ ตอนหลังรู้จักกันในชื่อ Belle Gunness เธอแต่งงานกับ Mads Albert Sorenson ในปี 1884 หลังจากนั้นเธอก็ย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกา และแล้วสามีของเธอก็เสียชีวิต ทั้งหลังจากการตายของสามีเธอลูกอีกสองคนของเธอก็หายไปด้วย ซึ่วแท้จริงแล้วเธอเป็นคนลงมือฆ่าสามีและลูกอีกสองคนเพื่อหวังเอาเงินประกัน

หลังจากนั้นในปี 1902 เธอก็แต่งงานใหม่กับ Peter Gunness และมันเป็นเรื่องน่าแปลกมากเพราะหลังจากแต่งงานลูกติดฝ่ายชายคนหนึ่งก็เสียชีวิตลงในขณะที่เธอเป็นผู้ดูแล หลังจากนั้นต่อมาสามีคนที่สองของเธอก็เสียชีวิตลง และหลังจากนั้นก็มีคนพบศพลูกติดของสามีคนที่สองอีกหนึ่งคนภายในบ้าน

หลังจากที่เสียสามีคนที่สองไปเธอก็ประกาศหาคู่ครองใหม่ แต่ชายที่เข้ามาในชีวิตเธอแต่ละคนกลับต้องเสียชีวิตแทบทุกคน ต่อมาเธอก็วางแผนบอกทนายว่า Ray Lamphere ชายรับใช้ในบ้านของเธอขู่ว่าจะเผาบ้านเธอทิ้ง หลังจากนั้นมาบ้านของ Peter สามีคนที่สองก็ถูกเผา

เมื่อตรวจสอบก็พบศพจำนวนมากภายในบ้านมีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กจำนวนมากด้วยกัน ทั้งยังพบศพหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นศพของเธอ แต่น่าแปลกที่ความสูงกลับต่างกันมากจนหลายคนคาดว่าไม่น่าจะใช้ศพของเธอ

4. Dagmar Overbye

ในปี 1916 - 1920 เธอเป็นคนดูแลศูนย์เลี้ยงดูเด็กกำพร้าในโคเปนเฮเกน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหญิงนอกสมรสมักจะนำเด็กมาปล่อยไว้ทิ้งไว้ที่นี่และจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูให้กับเธอโดยไม่ได้สนใจอะไร แต่แล้ว Karoline Aagesen หญิงคนหนึ่งที่เคยนำลูกมาทิ้งไว้ที่นี่ต้องการลูกคืนแต่เธอกลับไม่พบลูกของเธอ ดังนั้นเธอจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบปรากฎว่า กลับพบกระดูกของทารกและเสื้อผ้าไหม้อยู่ในเตา โดยคาดว่าอาจจะมีทารกมากกว่า 180 คนถูกเธอฆ่าตาย และคาดว่าเธอน่าจะลงมือฆ่าลูกของเธอเป็นคนแรก

5. Jane Toppan

เป็นพยาบาลหญิงที่เป็นที่รู้จักกันดีเพราะมีผู้ป่วยจำนวมากต้องเสียชีวิตหลังจากรักษากับเธอ ทั้งเธอยังต้องสงสัยอีกด้วยว่าติดยาเสพติดและโจรกรรม แต่ในที่สุดเธอก็สารภาพว่าเธอลงมือฆาตกรรมไปว่า 31 คดีกับน้องสาวของเธอ หลังจากนั้นเธอก็ใช้เวลาทั้งชีวิตหมดไปกับการอยู่ในโรงพยาบาลโรคจิตเพราะพบว่าเธอวิกลจริต

6. Mary Ann Cotton

เธอมีสามี 4 คนและลูกอีก 12 คน แต่น่าแปลกที่ทั้งสามีและลูกของเธอทุกคนกลับเสียชีวิตจากอาการป่วยทางกระเพาะอาหารที่ไม่ชัดเจนในปี 1852 - 1872 หลังจากเกิดเหตุเธอก็หลีกเลี่ยงการตกเป็นที่สงสัยด้วยการย้ายเมืองไปเรื่อยๆ ปรากฎว่าเมื่อตรวจสอบก็พบว่าเธอวางยาใส่สารหนูในอาหารให้พวกเขากินนั่นเอง

7. Amelia Dyer

หลังจากสามีของเธอเสียชีวิตในปี 1869 เธอก็เปลี่ยนฟาร์มให้กลายเป็นสถานที่สำหรับการทำแท้งและเลี้ยงเด็กทารกที่พ่อแม่ไม่ตั้งใจมี แต่แล้วก็เริ่มมีคนสงสัยและแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ปรากฎว่าเธอตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการฆาตกรรมเด็การกกว่า 400 คนในช่วง 27 ปีที่ผ่านมาเลย

8.  Tillie Klimek

เธออ้างตัวว่าเป็นร่างทรงมีพลังเหนือธรรมชาติ โดยในปี 1911 เธอทำนายการตายของสุนัขเพื่อนบ้าน และในปี 1914 เธอก็ทำนายการตายของสามีเธอในวัย 29 ปี หลังจากนั้นมาเธอก็ทำนายการตายของสามีเธออีกหลายคน แต่ปรากฎว่าเมื่อตรวจสอบร่างกายสามีทั้ง 5 คนของเธอก็พบว่าพวกเขาเสียชีวิตเพราะมีสารหนูในร่างกาย เธอจึงถูกจับตัวและสั่งจำคุก ทั้งยังมีห้ามไม่ให้เธอปรุงอาหารให้นักโทษคนอื่นกินในคุกอีกด้วย

ข้อมูลและภาพประกอบจาก "boredomtherapy "