อย่างนี้ก็มีด้วย? เด็กประถมเรียนดี รร.ไม่ออกใบจบให้อ้างค้างหมื่นห้า

นายธนู กล่าวให้ฟังว่า ครอบครัวของน้องเอ๋ มีฐานะยากจน พ่อเลิกกับแม่ น้องอาศัยอยู่กับแม่และยาย โดยแม่มีอาชีพขายเสื้อผ้าในตลาดชินตา เทศบาลนครตรัง เมื่อเป็นเช่นน ตนได้เข้าพบ นายมนทิพย์ ทรงกิตติพิศาล ผู้อำนวยการโรงเรียนวิเชียรมาตุ เพื่อขอผ่อนผันกับ น้องเอ๋ อีกอย่างวันนั้นตรงกับวันศุกร์อีกด้วย เมื่อสอบถามทางมารดาน้องเอ๋ ทราบว่า ค้างค่าธรรมเนียมกับโรงเรียนเดิม จำนวน 15,000 บาท ตนจึงตัดสินใจขอบริจาคเงินจากพรรคพวกเพื่อนฝูง จำนวน 5,000 บาท และตนออกเงินเอง 10,000 บาท นำไปจ่ายใหกับทางโรงเรียน ที่น้องเรียน ที่สุดก็ได้ใบระเบียบแสดงผลการเรียน มอบตัวเข้าเรียนโรงเรียนวิเชียรมาตุได้ ซึ่งขณะนี้ โรงเรียนก็เปิดเรียนมาแล้วประมาณ 1 อาทิตย์

“ผมไม่อยากจะวิจารณ์โรงเรียน โดยเฉพาะเป็นโรงเรียนรัฐบาลที่มีนโยบายให้นักเรียนเรียนอย่างมีความสุข และจะต้องผ่านการเรียนภาคบังคับถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผมเพียงอยากให้น้องเอ๋ ได้เรียนต่อ เนื่องจากที่ผ่านมาผมก็ดูแลลูกของผมได้รับการเรียนอย่างสมบูรณ์ เรื่องนี้คงเป็อุทธาหรณ์สำหรับวงการศึกษาไทย ที่เกิดความตกต่ำอย่างมาก” นายธนู กล่าว

ขณะที่ นายมนทิพย์ ทรงกิตติพิศาล ผู้อำนวยการโรงเรียนวิเชียรมาตุ จ.ตรัง กล่าวว่า สำหรับ ด.ญ.เอ๋ วันนั้นตนมานั่งทำงานอยู่ นักการของโรงเรียนได้พาคุณแม่มาบอกว่าขอผ่อนผันในการชำระเงินในวันมอบตัว ซึ่งมีเรื่องค่าใช้จ่ายที่ทางโรงเรียนระดมทรัพยากรอยู่ เช่นเข้าค่ายวิชาการ ผมก็บอกว่า ทางโรงเรียนจะผ่อนผันให้ โดยให้เขียนในใบผ่อนผัน เพื่อใช้ประกอบในการมอบตัว ถ้าไม่มีเงินก็จะมอบตัวไม่ได้ในวันนั้น ด้วยเหตุผลที่ว่า ทาง คุณแม่ ด.ญ.เอ๋ ไปค้างชำระเงินของโรงเรียนเดิม ทางโรงเรีนเดิมจึงไม่สามารถออกใบ ปพ. 1 ให้ได้ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในการมอบตัว ทางโรงเรียน จึงไม่รับมอบตัว เพราะไม่มั่นใจว่า เด็กจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จริงหรือไม่ เมื่อเป็นเช่นนั้น ด.ญ.เอ๋ มานั่งร้องไห้บริเวณบันได หน้าห้องวิชาการ

นายมนทิพย์ กล่าวอีกว่า บังเอิญในวันนั้น คุณธนู ทองสม ซึ่งเป็นประธานเครือข่ายผู้ปกครองมาเจอเข้า โดยที่ ด.ญ.เอ๋ เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับลูกคุณธนู จึงเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ทราบว่า คุณธนู สละเงินจำนวน 10.000 บาท พร้อมของความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ อีก 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 15,000 บาท นำไปจ่ายใหกับโรงเรียนที่ ด.ญ.เอ๋ เรียน ที่สุดก็ได้ใบ ปพ.1 จากโรงเรียนเดิมมา โดยทางโรงเรียนยืดเวลาการมอบตัวให้กับเด็ก และตอนนี้ ก็ได้เข้าเรียนตามปกติแล้ว

“สำหรับ ด.ญ.เอ๋ เป็นเด็กที่เรียนเก่ง เกรดเฉลี่ย ป.6 ได้ 3.96 และสอบเข้าเรียน ม.1 ของโรงเรียนเป็นห้องเรียนพิเศษ วิทยาศาสตร์โอลิมปิค เป็นเด็กดีมีความรับผิดชอบสูง มีอัทธยาศรัยที่ดี แต่ทางบ้านมีฐานะยากจน เมื่อเข้าสู่ระบบโรงเรียน ทางโรงเรียนก็สามารถจัดหาทุนการศึกษาช่วยเหลือได้เต็มที่ โดยโรงเรียนมีเครือข่ายผู้ปกครองและชมรมศิษย์ก่าที่เข้มแข็ง และคิดว่าเด็กจะเรียนหนังสือได้อย่างมีความสุข” ผอ.โรงเรียนวิเชียรมาตุตรัง กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ณี้ขึ้นกับ ด.ญ.เอ๋ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ทางโรงเรียนเดิมที่ ด.ญ.เอ๋ เรียน กระทำไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นโรงเรียนรัฐบาล ที่จะต้องส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กนักเรียนทุกคนได้รับการศึกษาจนจบภาคบังคับ แต่เหตุใดทางโรงเรียน จึงเอาเงินมาเป็นปัจจัยหลัก และเหตุผลสำคัญไม่มอบใบ ปพ.1 ให้กับเด็กทั้งๆ ที่เด็กเรียนจบหลักสูตร และเป็นเด็กเรียนเก่ง มีนิสัยดิ และยังเป็นตัวแทนนักเรียน เข้าแข่งขันทำชื่อเสียงให้กับทางโรงเรียนมาอีกด้วย

Credit: http://news.sayhibeauty.com/3426.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...