วันนี้ จะมานำเสนอเรื่องความจริง “ในมุมมืด” ของญี่ปุ่นกันบ้างค่ะ นั่นก็คือเรื่องของ ธุรกิจ JK ซึ่ง JK นั้นมาจากคำว่า joshi kōsei (女子高生) มีความหมายว่า “นักเรียนหญิงมัธยมปลาย” ซึ่งถอดมาจากคลิปรายการของ Vice News ซึ่งดำเนินรายการโดย Simon Ostrovsky ค่ะ (คลิปเต็มๆอยู่ด้านล่างนะคะ)
นักเรียนสาว กับ ธุรกิจ JK
ในสังคมของญี่ปุ่นนั้น รูปลักษณ์ของนักเรียนหญิงเอ๊าะๆ นั้นสามารถทำมาเป็นสินค้าได้มากมายหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นตัวการ์ตูน หนังสือการ์ตูน เป็นวงดนตรี หรือแม้กระทั้งคาเฟ่นักเรียนหญิง แต่ทุกคนอาจจะไม่รู้สินะคะว่า คุณก็ยังสามารถซื้อนักเรียนสาวเหล่านั้นตัวเป็นๆ เลยก็ได้ค่ะ
ธุรกิจ JK นั้น มีได้หลากหลายแบบ เราสามารถเห็นสาวๆเหล่านี้ได้ทั่วไปตามถนน แต่เด็กสาวเหล่านั้นเขาไม่ได้มาช็อปปิ้ง หรือเที่ยวเล่นเหมือนกับนักเรียนทั่วๆไปหรอกค่ะ เพราะพวกเขามีบริการหลายรูปแบบมานำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการดูดวงชะตา ไปจนถึงการบริการนวด หรือจะเป็นการเดินเล่นเป็นเพื่อนในยามค่ำคืน บริการทั้งหมดนี้ถูกนำเสนออย่างโจ่งแจ้ง และถ้าเราสังเกตให้ดีๆ จะเห็นว่ามีกลุ่มผู้ชายที่อยู่ใกล้ๆเด็กสาวเหล่านี้ ซึ่งเป็นหัวหน้าของพวกเขาอีกทีหนึ่งค่ะ
นี่เป็นหนึ่งในหัวหน้าที่ไม่พอใจกับการถ่ายวีดีโอ เขาเลยมาไล่ให้ทางตากล้องหยุดถ่ายค่ะ
วงดนตรีของเหล่าเด็กสาวมัธยมปลายนั้น เป็นหนึ่งในธุรกิจ JK ที่ดูสะอาด และเป็นที่ยอมรับได้ในสังคม แต่ธุรกิจนี้ก็สามารถสะท้อนให้เราได้เห็นถึงความคลั่งไคล้ joshi kōsei ได้เป็นอย่างดีค่ะ เพราะมีลูกค้ามากมายที่ยอมจ่ายเงิน เพื่อซื้อเวลาได้พบปะหรือพูดคุยกับเหล่าเด็กสาวในดวงใจของพวกเขา เพื่อทำความรู้จักให้มากขึ้นค่ะ
คุณ Simon ไปพบปะสาวๆก่อนขึ้นโชว์ค่ะ
หลังการแสดง ผู้ชมสามารถจ่ายเงินเพื่อมาพบปะพูดคุยกับไอดอลของพวกเขาได้
ว้าวววว!
ธุรกิจ JK โดยทั่วไปแล้ว ภายในสถานที่ให้บริการนั้นมันเป็นอย่างไร?
เข้ามาต้องเปลี่ยนรองเท้า เป็นรองเท้าแตะก่อนค่ะ
จากนั้นเด็กสาวที่ต้องดูแลเรา ก็จะปฏิบัติหน้าที่ทันที
เรามีเวลาครึ่งชั่วโมงในการพูดคุยกับเด็กสาวในราคา 3,000 เยน
นอกจากนั้นเราสามารถให้เด็กสาวดูดวงให้ได้อีกด้วยค่ะ
ซึ่งการพูดคุยในครั้งนี้ของทางรายการอาจจะดูธรรมดา และดูไม่มีพิษมีภัย แต่ใครจะรู้ว่าหากผู้มาใช้บริการเป็นผู้ชายหื่นๆแล้วล่ะก็ เขาจะชวนเด็กสาวคนนี้พูดคุยเรื่องอะไรบ้าง? จะมีการต่อรองอะไรบ้าง? จะจบลงที่การซื้อขายบริการทางเพศหรือไม่? ไม่มีใครรู้เลยค่ะ
บทสัมภาษณ์นักเรียนสาวในธุรกิจ JK
ทีนี่คุณ Simon Ostrovsky ผู้ดำเนินรายการของ Vice News ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ เด็กสาวที่เป็นผู้ให้บริการในธุรกิจ JK แบบเปิดใจ เพื่อให้เราเข้าใจเหตุผลและแนวคิดของคนที่ทำงานในสายนี้กันค่ะ
Simon : คุณเริ่มมาทำงานนี้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่เหรอ?
เด็กสาว : เมื่อฉันอายุ 16 ค่ะ ตอนนั้นเรียนอยู่ชั้น ม.5 พอดี
Simon : ตอนนั้นสถานการณ์ทางบ้านของคุณเป็นอย่างไร? ถึงคิดที่จะมาทำงานนี้ในขณะที่ตัวเองยังอายุแค่ 16 ปี?
เด็กสาว : ในช่วงนั้นแม่ของชั้นมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ ครอบครัวของฉันมีปัญหากันอยู่เสมอ และฉันรู้สึกว่าไม่มีที่ไหนเลยที่เป็นที่สำหรับตัวฉันค่ะ และเมื่อฉันได้ไปแจกใบปลิวที่อากิฮาบาระ แล้วฉันคิดว่าฉันจะสามารถลืมเรื่องปัญหาชีวิตเหล่านั้นไปได้ค่ะ
Simon : ถ้าอย่างนั้นแปลว่าคุณเข้าใจว่า คุณจะต้องออกไปเดินเล่นกับผู้ชายเหล่านั้น ซึ่งคุณคิดว่าสิ่งที่คุณต้องทำ “ก็แค่การเดินเล่น” เท่านั้นใช่ไหมครับ?
เด็กสาว : มันเริ่มด้วยความสนุกสนานค่ะ แต่บรรยากาศมันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เพราะงานของฉันมันมีตัวเลือกที่ซ่อนอยู่ และก็เป็นตัวเลือกที่แปลกๆ โดยตัวเลือกเหล่านั้นจะมาจากการต่อรองระหว่างลูกค้ากับฉัน อย่างเช่น “การขอจับหน้าอก” หรือ “ไปต่อ” กับเขาแลกกับค่าจ้างที่เพิ่มเข้ามา
Simon : ระหว่างที่คุณทำงานนี้ และอายุยังไม่ถึง 18 คุณเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายเหล่านี้ แลกกับค่าจ้างตอบแทนหรือเปล่าครับ?
เด็กสาว : เคยค่ะ
บทสรุป จากผู้ที่ช่วยเหลือเหยื่อธุรกิจ JK มาแล้วกว่า 100 คน
คุณยูมาโนะ อิโตะ ซึ่งเป็นผู้ที่ช่วยเหลือเด็กสาวที่เป็นเหยื่อของธุรกิจJK มาแล้วกว่า 100 คน และเธอได้สรุปปัญหานี้ให้เราฟังว่า
“เด็กนักเรียนหญิงแต่ละคนนั้น มักเข้ามาทำงานสายนี้ด้วยปัญหาทางบ้าน และปัญหาครอบครัว อันนำมาซึ่งความรู้สึกโดดเดี่ยวของเด็กๆเหล่านั้นค่ะ “
คุณยูมาโนะ อิโตะ
“ปัญหานี้ของประเทศญีปุ่นทางรัฐบาลก็พยายามแก้ไขปัญหาด้วยการตีกรอบให้เด็กสาวเหล่านี้มากขึ้น แต่ปัญหานี่ก็ไม่มีวันหายไปค่ะ หากผู้ใหญ่ที่ยังคงซื้อขายเด็กสาวยังมีอยู่ในสังคมค่ะ เพราะผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มากกว่าเหล่านี้นี่แหละค่ะ จะรู้จักการล่อหลอกเด็กสาวเหล่านี้ด้วยคำหวานที่แฝงไปด้วยเจตนาร้ายค่ะ”
หากแฟนๆต้องการดูคลิปของ Vice News เต็มๆ ก็สามารถดูได้ที่คลิปด้านล่างนี้เลยค่ะ
">
ไม่ว่าประเทศไหนๆ ก็ล้วนมีจุดบอดอยู่ทุกที่เลยนะคะ ปัญหาสังคมไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ อย่างเช่นเรื่องค้ามนุษย์ก็ล้วนมีจุดเริ่มต้นมาจากครอบครัวทั้งสิ้น คนที่จะแก้ปัญหาสังคมได้ดีที่สุด เห็นจะไม่ใช่รัฐบาล แต่เป็นพวกเราตัวเล็กๆในสังคมนี่แหละค่ะ ที่จะช่วยกันดูแลให้ดี …
ที่มา: http://anngle.org/th/j-culture/culture/jkbusiness.html