โดยในวันที่ 17 มกราคม 1966 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดเหตุเครื่องบิน B52 ของกองทัพสหรัฐฯ พุ่งชนเข้ากับเครื่องบินบรรทุกน้ำมันระหว่างเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ ส่งผลให้ระเบิดปรมาณูบนเครื่องกว่า 4 ลูก ตกลงในประเทศสเปนโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้ว่าจะโชคดีที่ระเบิด 2 ลูกสามารถปลดระบบร่มฉุกเฉินได้ทันเวลา โดยตกลงบนพื้นดินหนึ่งลูก และตกลงในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอีกหนึ่งลูก
ส่วนระเบิดอีก 2 ลูกนั้นกลับปลดระบบไม่ทันเวลาจึงเกิดระเบิดขึ้นที่เมืองปาโลมาเรส แคว้นอันดาลูเซีย ประเทศสเปน ซึ่งหลังจากเกิดเหตุทางสหรัฐก็ใช้มาตรการปกปิดและบิดเบือนข้อมูลจนคนทั่วโลกแทบไม่เคยรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย ระเบิดเกิดขึ้นบนพื้นดินแต่สหรัฐพยายามเบนความสนใจของสื่อมวลชนไปที่กลางทะเลแทน ด้วยการระดมเรือรบ 32 ลำมาปิดน่านน้ำนานกว่า 80 วันเพื่อทำการค้นหาระเบิดที่ตกลงไปในทะเล
เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อคนท้องถิ่นและประเทศสเปน เพราะอาจกระทบต่ออุตสาหกรรมเกษตรและการท่องเที่ยว ดังนั้นไม่ใช่แค่สหรัฐเท่านั้นที่พยายามจะปกปิด แต่คนท้องถิ่นก็พยายามจะปกปิดด้วยเช่นกัน โดยไม่ได้รู้เลยว่าพื้นดินที่เกิดระเบิดนั้นมีการปนเปื้อนกัมมันตรังสีและอาจมีอันตรายซุกซ่อนอยู่ก็ได้
โดยเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นไม่มีการยืนยันแน่ชัดเกี่ยวกับปริมาณของพลูโตเนียมที่ปนเปื้อน แต่ประมาณไว้ว่า 10 กิโลกรัม ซึ่งตามปกติแล้วถ้าคนหายใจเอาพลูโตเนียมเข้าปอดเพียง 1 มิลลิกรัมก็สามารถป่วยเป็นมะเร็งปอดได้แล้ว นอกจากอาจจะเป็นอันตรายต่อคนในท้องถิ่นแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่เดินทางไปในเมืองอีกด้วย...
ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 50 กว่าปีมาแล้ว แต่ทางสหรัฐเพิ่งจะมายอมรับเมื่อปีที่แล้วและยินยอมขนถ่ายดินปนเปื้อนกัมมันตรังสีจากพื้นที่ในเมืองออกจากสเปน คาดกันว่าน่าจะนำไปทิ้งไว้ในเขตพื้นที่ปกปิดที่รัฐเนวาดา
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกเท่านั้นที่สหรัฐเกิดมือลั่นทิ้งระเบิดใส่ประเทศอื่น แต่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งจนมีการสร้างรหัสทางการทหารขึ้นมาว่า Broken Arrow หมายถึงการทิ้งระเบิดปรมาณูหรือระเบิดไฮโดรเจนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ซึ่งทางสหรัฐออกมายอมรับว่าเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเพียง 32 ครั้งเท่านั้น แต่มีการสืบทราบมาว่า เฉพาะในศตวรรษที่ 50 กองทัพอากาศของสหรัฐทำระเบิดหล่นมากถึง 100 ครั้งเลยทีเดียว ยังไม่นับรวมกองทัพบกและกองทัพเรือที่ยังไม่ทราบข้อมูลเลยนะเนี่ย และหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นทางสหรัฐมักจะออกมาปฏิเสธทันที หรือถ้ามีคนทราบเรื่องก็จะออกมาให้ข้อมูลที่เป็ยนกังวลน้อยที่สุดนั่นเอง...
ข้อมูลและภาพประกอบจาก "m2fnews/posttoday"
http://www.m2fnews.com/