คุณเคยจินตการบ้างไหมว่า ถ้าฮิตเลอร์เป็นฝ่ายชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 โลกจะเป็นอย่างไรและเกิดอะไรขึ้นบ้าง...? ซึ่งหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงหลายสิบปี ทางการมิวนิกก็ได้เปิดเผย "เอกสารภาพลับ" กว่า 2,000 ฉบับ ซึ่งภายในเป็นข้อมูลการสร้างเมืองในฝัน City of the Movement หรือ "เมืองแห่งการเคลื่อนไหว" ที่ฮิตเลอร์ได้วางแผนเอาไว้ฝ่ายอักษะชนะสงคราม
โดยเมืองที่ฮิตเลอร์วางแผนนั้นมีศูนย์กลางอยู่ในเมืองมิวนิก ทางตอนใต้ของเยอรมนี ซึ่งเป็นเมืองที่ทำให้เขามีโอกาสเข้าร่วมกับกองทัพเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 1 และมีโอกาสได้ก่อตั้งพรรคนาซี ทั้งยังเป็นสถานที่ที่พรรคนาซีสิ้นสุดลงอีกด้วย
เมืองถูกออกแบบโดย Albert Speer สถาปนิกโครงการ ภายในเมืองมีสิ่งก่อสร้างมากมายที่สามารถอยู่ไปได้นานนับพันปี ทั้งยังมีเสาหินสูง 600 ฟุต ยอดเสาเป็นอินทรีเยอรมันซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพรรคนาซี ทั้งยังนำกระจกพิเศษมาใช้ในการสร้างอีกด้วย รวมถึงมีการออกแบบโดมขนาดใหญ่ มันมีขนาดใหญ่มากกว่าวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรมหรือประตูชัยในกรุงปารีสเสียอีก ทั้งยังออกแบบให้มีรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งตัวรถไฟยาวกว่า 130 ฟุต มีอ่างอาบน้ำ ร้านทำผม โรงหนัง และอาวุธ ทั้งยังมีสิ่งก่อสร้างสุดอลังการหลายอย่างที่พรรคนาซีเรียกกันว่า "ของเล่นฮิตเลอร์"
ทั้งฮิตเลอร์ยังวางแผนจะทุบทุกอย่างทิ้งและสร้างขึ้นใหม่อีกด้วยเพื่อให้ดูเป็นเยอรมันมากขึ้น โดยแผนชื่อว่า Germanic Empire Boulevard ทุกอย่างจะถูกสร้างขึ้นในสไตล์นีโอคลาสสิก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรู ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงละครโอเปร่า พระราชวังเบียร์ที่เป็นสถานที่จัดแสดงสิ่งต่างๆ
โดยการก่อสร้างเมืองในฝันของฮิตเลอร์นั้นอาจต้องใช้แรงงานมากที่เป็นคนเยอรมันหรือต่างชาติมากถึง 1,983 คน นอกจากนี้ยังมีนักโทษอีก 1,507 คน ซึ่งแรงงานต้องทำงานกันทั้งวันทั้งคืน โดยมีแผนการสร้างในปี 1940 และเสร็จสมบูรณ์ในปี 1948 และนับว่าโชคดีที่สงครามโลกสิ้นสุดลงในปี 1945 ทำให้แผนการก่อสร้างของฮิตเลอร์ไม่สำเร็จ
ข้อมูลและภาพประกอบจาก "dailymail"