จ่าอากาศเอก Alan Magee เป็นทหารประจำกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกานช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และในวันที่ 3 มกราคม 1943 เขามีโอกาสได้ปฏิบัติภารกิจทิ้งระเบิดเพื่อทำลายโรงเก็บระเบิดตอร์ปิโดของกองทัพเยอรมนี ในแซ็ง-นาแซร์ ประเทศฝรั่งเศส แต่แล้วขณะปฏิบัติภารกิจเขากลับถูกข้าศึกโจมตีจนเกิดเพลิงไหม้ ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามจะหยิบร่มชูชีพแต่กลับถูกทำลายเสียหายไปแล้ว
ดูเหมือนตอนนั้นเขาไม่มีโอกาสรอดเลยเนื่องจากเครื่องบินอยู่เหนือพื้นดินประมาณ 22,000 ฟุต ทั้งยังไม่มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตอีกด้วย หลังจากนั้นเขาก็หมดสติไป รู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตนเองลอยอยู่ในอากาศ เขาจึงภาวนาต่อพระเจ้าว่า "ผมยังไม่อยากตายเพราะผมยังไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของชีวิต" แล้วเขาก็ทรมานกับการขาดออกซิเจนและช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่ร่างเขาจะตกลงบนหลังคากระจกของสถานีรถไฟแซ็ง-นาแซร์
และนับว่าเป็นปาฏิหารย์เพราะหลังคากระจกช่วยลดแรงปะทะได้อย่างน่าอัศจรรย์จนทำให้เขารอดตายมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ โดยในตอนที่เขาถูกพบนั้นร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลกระจกบาดกว่า 28 แห่ง กระดูกขาขวาและข้อเท้าแตกหัก แขนขวาฉีกขาด ต่อมาเขาถูกส่งตัวไปรักษากับแพทย์ในกองทัพเยอรมัน
และถึงแม้ว่าเขาจะเป็นทหารของฝ่ายศัตรู แต่แพทย์ชาวเยอรมันกลับไม่รีรอและรีบรักษาเขาทันที โดยกล่าวกับเขาว่า "เราคือศัตรูกัน แต่ผมเป็นหมอ ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อรักษาแขนของคุณ" ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งในจรรยาบรรณและความมีมนุษยธรรมของแพทย์มาก
หลังจากเขาหายป่วยเขาใช้เวลาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หมดไปในฐานะเชลยศึก จนกระทั่งฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับชัยชนะ หลังจากนั้นเขาจึงได้กลับบ้านและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเรื่องมาในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา จนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2003 ด้วยวัย 84 ปี เป็นเรื่องราวปาฏิหารย์ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง ชายที่ตกลงมาจากฟ้าที่ความสูง 22,000 ฟุตแต่กลับรอดตายปาฏิหารย์ แถมเขายังรอดมาได้เพราะความช่วยเหลือจากฝ่ายศัตรูอีกด้วย...
ข้อมูลและภาพประกอบจาก "businessinsider"