สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “ทหารของญี่ปุ่น”… วัยรุ่นญี่ปุ่นไม่ต้องกลัวการเกณฑ์ทหาร วัยรุ่นญีปุ่นไม่มีชมรมดาวดิน… ญี่ปุ่นไม่มี คสช กปปส แต่จู่ๆ วัยรุ่นญี่ปุ่นกลับมาสนใจเรื่องทหารเฉยเลยดังนั้นนี่คือความแปลก พวกเขาตั้งคำถามมาตลอดว่าทำไม…. ทำไมญี่ปุ่นต้องมีทหารเพื่อสงครามจริงๆ หรือ

สงครามคือหลักฐานบอกว่า มนุษยชาติยังโง่เขลาและต้องเรียนรู้อีกมากที่จะอยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้ แต่คำถามคือ เราต้องทำอะไรล่ะ จะได้ฉลาดพอเพื่อจะไม่ให้เกิดสงคราม?

ช่วงนี้ผู้เขียนขออิงกระแส “สมรภูมิเดือด” การเกณฑ์ทหารซักหน่อย… คนไทยในช่วงนี้คงสนุกทั้งกับข่าวเรื่องดาราต้องถอดเสื้อโชว์กล้าม จับใบดำใบแดง ชายบางคนเป็นลม ร้องไห้เมื่อรู้ว่าได้เป็นทหาร หรือแม้แต่เหล่าชายสวยมาโชว์ความว้าว เป็นสีสันในเทศกาลนี้

แต่น่าเสียดายจริงๆ…. ญี่ปุ่นผู้แพ้สงครามโดนบังคับให้มีรัฐธรรมนูญที่ไม่ให้ญี่ปุ่นสร้างสงครามได้อีก มาตราเก้าของรัฐธรรมนูญ มีผลให้ญี่ปุ่น จะไม่มีกองทัพในการทำสงครามพูดง่ายๆ คือประเทศนี้ ห้ามมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าทหารตลอดกาล จะมีก็เพียงกองกำลังป้องกันตนเอง ภาษาญี่ปุ่นเขาเรียกกันว่า 自衛隊　＝ จิเอไท…..

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : http://www.slideshare.net/

แต่ที่ผ่านมา… ประเทศญี่ปุ่นเผชิญปัญหาและความขัดแย้งในเรื่องกองกำลังปกป้องตัวเองบ่อยถึงบ่อยมาก เช่น ปีที่แล้วอาเฮียอาเบะนายกฯ ญี่ปุ่นก็ลุกขึ้นมาคิดจะแก้รัฐธรรมนูญว่าไม่ว่าจะเกิดสงครามที่แห่งหนตำบลใดบนโลกก็ตาม หากรัฐบาลญี่ปุ่นพิจารณาว่ามีผลต่อความมั่นคงของประเทศแล้วไซร้ หน่วยจิเอไท สามารถโผบินลงเรือออกรบเพื่อไม่ให้อันตรายนั้นมาถึงประเทศญี่ปุ่นได้ทันที

ถ้ามองผ่านๆ เราอาจมองเป็นเพียงความขัดแย้งว่ารัฐบาลบ้าสงคราม คนก็เลยออกมาประท้วง แต่ถ้าหาข้อมูลมากขึ้นเราจะพบว่า มันคือความขัดแย้งทางทัศนคติของคน “ละยุค”

…เรื่องนี้มีความน่าสนใจแบบนี้ครับ การประท้วงที่ผ่านมากลับมีตัวละครเป็นวัยรุ่นอยู่มาก ทั้งๆ ที่วัยรุ่นญี่ปุ่นไม่ต้องกลัวการเกณฑ์ทหาร วัยรุ่นญีปุ่นไม่มีชมรมดาวดิน… ญี่ปุ่นไม่มี คสช กปปส แต่จู่ๆ วัยรุ่นญี่ปุ่นกลับมาสนใจเรื่องทหารเฉยเลยดังนั้นนี่คือความแปลก พวกเขาตั้งคำถามมาตลอดว่าทำไม…. ทำไมญี่ปุ่นต้องมีทหารเพื่อสงครามจริงๆ หรือ

อีกอย่างต้องยอมรับว่า หากใครติดตามคลิปหรือรูปของเหล่าวัยรุ่นที่ลุกขึ้นมาประท้วงเรื่องจิเอไท จะพบว่าเป็นผู้ประท้วงเป็นเวอร์ชั่นฟรุ้งฟริ้งสุดๆ อย่างภาพที่เอามาให้ดู คือคุณโคโกะ ถ้าเทียบกับคนไทย คือลุงกำนันของเราอ่ะครับ＾＾

ขอบคุณภาพจาก youtube

ที่ผู้เขียนสนใจคือ ความคิดเรื่องทหาร สงครามที่เป็นความขัดแย้งของคนเจแปนมันมาจากการเกิดกันคนละยุค..

กลุ่มวัยรุ่นผู้เคลื่อนไหวเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเผ่าพันธุ์ญี่ปุ่นที่เกิดประมาณปี 1987－1996 คนญี่ปุ่นเรียกคนที่เกิดในช่วงยุคนี้ว่า ゆとり世代 ยุโตริเซะได… แปลเป็นไทยว่ายุคเด็ก เนิบๆ เนือยๆ หรือเรียกว่า slow life ก็น่าจะได้ เด็กในยุคนี้เติบโตขึ้นมาในช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่น go slow ทำให้พวกเขาต้องเจียมเนื้อเจียมตัว พวกเราควรมีความสุขกับประเทศญี่ปุ่นที่ไม่ต้องออกรบ ไม่ต้องมีความเป็นชาตินิยม เพราะหนังสือแบบเรียนพวกเขา และสิ่งแวดล้อมบอกพวกเขาว่า สงครามและความเป็นชาตินิยมจะนำความเจ็บปวดมาให้เหมือนกับที่ญี่ปุ่นเคยโดนในสงครามโลกครั้งที่สอง

เด็กในยุคนี้ยุโตริอยู่ในโลกแห่งสันติภาพ ความเป็นเลือดซามูไรที่สืบทอดมาจากเทพเจ้าดวงอาทิตย์ไม่ได้ช่วยให้พวกเขายิ่งใหญ่กว่าใคร เขาถูกตั้งโปรแกรมเป็นนัยว่ากฏหมายของท่านอาเบะจะนำญี่ปุ่นเข้าไปสู่การพัวพันกับสงครามอีกครั้ง นี่จึงเป็นเหตุเบื้องหลังที่ทำให้ตัวละครจากยุคโลกสวย slow life ออกตัว

แต่บทความนี้จะไม่แฟร์เลยหากเราไม่หันไปดูเหรียญอีกด้าน อาเฮียอาเบะเห็นว่าโลกเข้าสู่ศตวรรษใหม่… ประเทศรอบข้างญี่ปุ่นที่ไม่ได้ญาติดีกันซักเท่าไหร่ เกาหลีสะสมมิสไซล์ยังกับเก็บสะสมแต้มบัตรเครดิต จีนเองก็ซ้อมรบบ่อยยังกับซ้อมบอล มันทำให้นิยามความหมายในการป้องกันตัวเองเริ่มตีความยากขึ้น นั่นเป็นนั่นคือที่มาว่าที่รัฐบาลอาเบะ เหล่าผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไม่เคยไว้ใจคนจีน เกาหลีเหนือ หรืออีกหลายๆ ชาติ ผลักดันกิจกรรมทางทหารของญี่ปุ่นสุดชีวิต ทั้งเอาไอดอลสาว AKB มาเป็นพรีเซนเตอร์รับสมัครทหาร (ซึ่งไทยไม่เคยมี) การที่ทำ speech ประกาศกร้าวกลางชิบุย่ะว่า

“โลกนี้มันจะดีแล้วเร้อ ถ้าแค่ญี่ปุ่นสงบสุข ?!!”

คำพูดนี้ยังคงทิ้งและสร้างความรู้สึกสับสนให้ผมเสมอ เพราะตอนผมอยู่ญี่ปุ่นได้ยินประโยคนี้บ่อยมาก เพื่อใช้ให้เหล่าวัยรุ่นญี่ปุ่นลุกขึ้นมาปกป้องโลก (สงสัยนึกว่าตัวเองเป็นอุลตร้าแมน)

พวกเขากลับมีทัศนคติว่าการปลดล็อค ตีความรัฐธรรมนูญมาตราเก้าใหม่ต่างหาก คือการสร้างความปลอดภัยให้กับประเทศอย่างแท้จริง ผู้นำของประเทศจะมาโลกสวย slow life ไม่ได้

เขียนมาถึงขนาดนี้ เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงเข้าใจหัวอกหัวใจของคนต่างยุคต่างทัศนคติในญี่ปุ่นแล้ว…

ตัวผู้เขียนเองจะไม่พูดเด็ดขาดว่า ใครถูก ใครผิด… และจะไม่พูดด้วยว่าเหล่าคนไทยอย่างเราๆ ที่ช่วงหลังๆ พวกเรารักชาติและพูดถึงเรื่องชาติมากกว่าคนญี่ปุ่นด้วยซ้ำ!! ควรจะมองรัฐบาลของเราอย่างไร

(อย่างน้อยคนญี่ปุ่นไม่ร้องเพลงชาติ คนญี่ปุ่นไม่มีรายการเดินหน้าประเทศญี่ปุ่นให้คนได้ดูทางทีวี อย่างไรก็ตามผู้เขียนรู้สึกว่าถ้าเขียนมากว่านี้อีกนิด ดูท่าผู้เขียนอาจจะโดนเรียกไปปรับทัศนคติแทน　^＿^)

แล้วผู้อ่านที่รักล่ะครับ… อยากจะมีทัศนคติแบบไหนดี.. โลกใบนี้จำเป็นต้องมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าทหารจริงๆ หรือนี่

เรื่องโดย : วิน เวธิต www.marumura.com