ตำนานเจ้าแม่หนี่วา

เทพธิดาแห่งสรวงสวรรค์ในยุคดึกดำบรรพ์ตามความเชื่อของชาวจีนนั้นมีชื่อว่า เจ้าแม่หนี่วา หรือ เจ้าแม่นึ่งออ

ย้อนไปเมื่อโลกและสวรรค์ถูกสร้างเสร็จแล้วนั้น เจ้าแม่หนี่วาได้อภิเษกกับเทพฝูชี พอครั้นเทพฝูชีออกไปทำภารกิจข้างนอก เจ้าแม่หนี่วาก็เหงา จึงเสด็จลงมาบนโลกมนุษย์ซึ่งมีบรรยากาศที่งดงาม แต่ว่ากลับเงียบเหงาเช่นกัน เจ้าแม่จึงหยิบดินเหนียวขึ้นมาปั้นเป็นมนุษย์ทั้งชายและหญิงกลุ่มหนึ่งพร้อมทั้งประทานชีวิต และนำเม็ดทรายมาติดเป็นตา เขียนปาก เจาะรูหูให้ เจ้าแม่ทรงเห็นว่ากว่าตนเองจะปั้นเสร็จแต่ละคนนั้นใช้เวลานานมาก จึงนำเส้นด้ายจุ่มดินเหนียวแล้วสบัด เศษดินเหนียวเหล่านั้นก็ได้เกิดเป็นมนุษย์อีก แต่ด้วยความไม่ปราณีตทำให้มนุษย์ที่เกิดออกมานั้นพิการบ้าง หน้าตาน่าเกลียดบ้างตามความเชื่อชาวจีน ด้วยเหตุนี้มนุษย์จึงถือกำเนิดขึ้นบนโลก (บางตำนานกล่าวว่ามนุษย์เป็นลูกของเทพฝูชีและเจ้าแม่หนี่วา) ครั้งที่เกิดเหตุการณ์ฟ้ารั่ว เจ้าแม่หนี่วาก็เป็นผู้หลอมหินห้าสีเพื่อนำไปอุดรูรั่วของฟ้าด้วย

 


อย่างที่กล่าวไปว่าเทพเจ้าของจีนนั้นมักจะเป็นมนุษย์ธรรมดามาก่อน ไม่บำเพ็ญเพียรก็ประกอบคุณความดีใหญ่หลวง เมื่อตายไปผู้คนก็ยกย่องให้เป็นเทพ เจ้าแม่หนี่วาก็เช่นกัน ที่ถูกบันทึกไว้ในพงศาวดารจีนและคำภีร์ไคเภ็กว่า มีชีวิตอยู่จริงในประวัติศาสตร์ เป็นน้องสาวร่วมมารดาของ " ฮกฮีลีฮ่องเต้ (ฝูซี)" ซึ่งตรงกับตำนานแต่ก็ไม่ได้เป็นชายาของฮ่องเต้ พอฮกฮีลีฮ่องเต้สวรรคตแล้ว เจ้าแม่หนี่วาก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้หญิงคนแรกนามว่า พระนางนึ่งฮอสีฮ่องเต้ พระนางได้ปกครองประชาชนอย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา ภารกิจที่เป็นตำนานคือ อุดรอยรั่วของฟ้า แต่อันที่จริงคือ อุดรอยร้าวของภูเขาปุดจิวซัว (รอยร้าวนั้นเกิดขึ้นตอนที่พระนางให้จอกเอียสีไปปราบกบฎขุนนางคังฮวย โดยการจับคังฮวยฟาดหัวกระแทกกับภูเขาปุดจิวซัว จนเกิดรอยร้าว) ลมหนาวนั้นได้เข้ามาตามรอยร้าว ทำให้ประชาชนตกอยู่ในความหนาวเย็น พระนางจึงหาวิธีแก้โดยนำหิน 5 สีมาหลอมเป็นเวลา 49 วันแล้วเอาไปอุดตรงรอยร้าวความหนาวเย็นจึงสลายไป ว่ากันว่านางปกครองประชาชนถึง 900 ปีเลยทีเดียว

Credit: https://www.facebook.com/payapenad/photos/a.146081912257308.1073741825.146070448925121/419700974895399/?type=3&theater
6 เม.ย. 59 เวลา 15:19 9,224
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...