ภาพที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊กของชาวลาว .. ลาวเริ่มไหวตัว การให้นักลงทุนจีนเช่าใช้ที่ดินทำสวนกล้วย มากมายนั้นไม่คุ้ม จ้างงานระยะสั้น ไม่มั่นคง ทำงานท่ามกลางอันตรายจากสารเคมีหลากชนิด สร้างปัญหาต่อสภาพแวดล้อม เจ้าแขวงบ่อแก้ว เขตสวนกล้วยใหญ่ที่สุดของจีน ไม่ออกใบอนุญาตขยายเนื้อที่เพาะปลูกอีกแล้ว ที่มีอยู่กว่า 62,500 ไร่ในปัจจุบัน จะเริ่มตรวจตราอย่างใกล้ชิด
ทางการแขวงบ่อแก้วของลาว ประกาศไม่ออกใบอนุญาตให้นักลงทุนจากจีน เข้าเช่าที่ดินทำไร่กล้วยหอมอีก โดยยอมรับว่าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ลาวเองหละหลวม ไม่ได้กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ปล่อยให้มีการนำเข้า และใช้สารเคมีที่มีพิษต่อสุขภาพร่างกายของผู้คนเป็นจำนวนมาก บางชนิดที่ชาวจีนนำไปใช้ ถูกยกเลิกใช้กันแล้วทั่วโลก
ทางการจะไม่อนุญาตให้มีการขยายเนื้อที่ปลูกกล้วยเพิ่มเติมอีก และ สวนกล้วยที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจตราอย่างเข้มงวด สำนักข่าวสารปะเทดลาวรายงานอ้าง นายคำพัน เผยยะวง เจ้าแขวง แขวงบ่อแก้ว ซึ่งเป็นเสมือน “สวนกล้วยหอม” ของนักลงทุนจากจีน เนื่องจากมีเนื้อที่ปลูกรวมกันท้้งหมดกว่า 10,000 เฮกตาร์ หรือ กว่า 62,500 ไร่
“เนื่องจากสภาพการลงทุนปลูกกล้วยของนักลงทุนต่างประเทศในแขวงบ่อแก้ว ในระยะที่ผ่านมาได้มีปัญหา โดยเฉพาะการใช้ปุ๋ยเคมี รวมทั้งยาฆ่าหญ้าและยาปราบศัตรูพืช ที่ไม่ได้รับการตรวจตราและคุ้มครองจากภาครัฐ ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นทางเจ้าแขวงจึงได้มีคำสั่งยุติกิจกรรมปลูกกล้วย โดยไม่อนุญาตให้มีการขยายเนื้อที่ปลูกกล้วยเพิ่มเติมอีก…” สำนักข่าวของทางการกล่าว
การที่เจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้องไม่ตรวจตราใกล้ชิดทั่วถึง ทำให้สวนกล้วยสร้างปัญหา ..“ทำให้มีการนำเข้าปุ๋ยเคมี ยาฆ่าหญ้า ยาปราบศัตรูพืชที่เป็นอันตรายร้ายแรง และ ที่สำคัญเป็นเคมีที่ทั่วโลกไม่ใช้กันแล้ว แต่นักลงทุนก็ยังคงลักลอบนำเข้ามาใช้..”เป็นอันตรายต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม