แพร ใจเด็ด บอกเลิก อู๋ จบตำนานรัก 8 ปี

“แพร” น้ำตาซึมประกาศเลิก “อู๋” เผยเป็นฝ่ายบอกเซย์กู๊ดบายเอง เพราะทนเหนื่อยกับปัญหากันมามาก ปัดไม่เกี่ยวมือที่สาม รับฝ่ายชายโทรหา แต่เลือกไม่รับและยังไม่อยากเจอ หวั่นทำใจไม่ได้ บอกโอกาสรีเทิร์นปล่อยเป็นเรื่องของอนาคต พร้อมเคลียร์ควงหนุ่มดินเนอร์กับครอบครัว เป็นแค่หุ้นส่วนยังไม่ใช่หวานใจคนใหม่

       คบหาดูใจกันมากว่า 8 ปี จนถูกลุ้นให้เป็นคู่ต่อไปที่เตรียมเข้าประตูวิวาห์ตามคู่อื่น สำหรับดาราสาว “แพร พรรัมภา สุขได้พึ่ง” กับพระเอกหนุ่ม “อู๋ นวพล ภูวดล” แต่แล้วความรักที่น่าจะลงเอยได้ดี ก็กลับเริ่มมีข่าวความระหองระแหงออกมาอยู่เรื่อยๆ โดยหนุ่ม “อู๋” เริ่มแสดงธาตุแท้มีข่าวเจ้าชู้ และมีภาพปาปารัซซี่ควงสาวอื่นหลุดออกมา ด้าน “แพร” เองก็ใช่ย่อย ล่าสุดมีคนเห็นเธอควงหนุ่มใหม่ไปนั่งดินเนอร์ในโรงแรมหรู

       ซึ่งฝ่ายพระเอกหนุ่มก็ยอมรับว่า เริ่มห่างแฟนสาวมาได้สักพักแล้ว และพยายามง้อขอปรับปรุงตัว แต่แฟนสาวยังไม่ยอมคืนดี ส่วนเรื่องหนุ่มคนใหม่ของสาว “แพร” นั้น เจ้าตัวรับว่าได้ยินข่าวมาบ้าง แต่ไม่คิดมากอะไร

       ฟากสาว “แพร” หลังเก็บตัวเงียบอยู่นาน ล่าสุดมีโอกาสได้เจอเธอในงานประกาศผลผู้เข้ารอบ 7 คนสุดท้ายของ "Sexy Leo Girl Season 4” ที่ Zen Event Hall ชั้น 8 Central World โดย “แพร” เปิดใจพร้อมกับน้ำตาซึมเกือบตลอดเวลาที่ให้สัมภาษณ์ว่า เลิกกับ “อู๋” ปิดตำนานรักมาราธอนลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

       “ตอนนี้เหลือแค่ความเป็นเพื่อนค่ะ เลิกกันแล้วประมาณเดือนนึง สาเหตุเพราะอะไร ก็หลายๆ อย่างที่พี่ๆ ตามข่าวมาตั้งแต่แรก มันก็เป็นเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ ความรู้สึกเราก็เหมือนกับค่อยๆ ถอยไปเอง มันชินชาไปเอง การให้โอกาสก็ลดน้อยลงไปด้วย”

       “จริงๆ ที่เขาปรับปรุงตัวแพรก็ให้โอกาสตลอด แต่บางทีเจอเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ มันก็เหนื่อย เราก็เลยขอถอยมาก้าวนึง ก่อนที่จะบอกว่าเลิกกัน มันก็มีระหองระแหงมาตั้งนานแล้ว จนพอวันนึงเรารู้สึกว่าขอถอยออกมาพักใจ ก็เลยกลั้นใจบอกเลิก ถามว่าเขายอมเลิกมั้ย คือมันถึงที่สุดแล้วล่ะค่ะ เราก็มานั่งคุยกันในรถ เพราะไม่อยากเลิกโดยที่ไม่เคลียร์กัน แพรก็เริ่มพูดเองว่าเราขอจบกันตรงนี้ แต่ถึงยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ แล้วยังดูแลอะไรหลายๆ อย่างให้กันอยู่ แต่ช่วงนี้ขอพักใจตรงที่ว่าไม่เจอกันสักพักนึงดีกว่า เพราะแพรเป็นคนใจอ่อน ถ้าเจอกันก็คงดีกันอีก ก็เลยขอทำใจช่วงนึง”

       “ถามว่าหมดรักเลยไหม ไม่หมดค่ะ จริงๆ ถามตัวแพรคือยอมถอยออกมา แต่ความรู้สึกที่ว่าลดลงคงเป็นทั้งคู่ เพราะบางทีเจอปัญหาเดิมๆ มันก็เหนื่อยมากๆ เลยขอพักใจออกมาแล้วกัน แต่ยังรักในฐานะเป็นเพื่อนมากกว่าค่ะ เรื่องการดูแล เรื่องความห่วงใยยังมีให้กันเสมอ เพราะดูแลด้วยกันมาตลอด 8 ปี แล้ววันนึงหายไปมันอาจจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป เราก็ทำใจบอกพี่เขาว่า วันนึงถ้าทำใจได้เราจะกลับไปดูแลเขาเหมือนเดิมในเรื่องที่เขาไม่รู้”

       “แต่จะให้ความเป็นเพื่อนได้นานแค่ไหน ก็คงต้องถามความรู้สึกจากเพื่อนว่า พี่อู๋โอเครึยัง แพรโอเครึยัง ก็อยากให้โอเคด้วยกันทั้งคู่ ถ้าเราเจอกันตอนที่เรายังทำใจไม่ได้ มันคงแย่มากกว่าที่จะเจอกัน แต่ ณ วันนี้ที่แพรออกมาพูดได้ คือพี่ๆ นักข่าวคงจะรู้ว่าแพรไม่ได้ออกงานมาสักพักนึงแล้ว ก็รอวันทำใจไปเรื่อยๆ ด้วย ไม่อยากพูดแล้วสั่นแล้วก็ร้องไห้”

       รับตลอดระยะเวลาที่เลิกกันมา 1 เดือน ฝ่ายชายโทรตามง้อตลอด แต่ตนเลือกที่จะไม่รับสาย และไม่อยากเจอหน้าให้ช้ำใจ

       “ตอนนี้ไม่ได้คุยกันมาเดือนนึงแล้วค่ะ พี่เขาก็ยังโทรมาอยู่ แต่ไม่ได้รับโทรศัพท์ ไม่ได้เจอกันเลย แพรจะเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหน ก็คงตามความรู้สึกค่ะ ถามแพรตอนนี้คือถ้าคุยกัน ทั้งคู่ก็ต้องกลับมาคุยกันแน่เลย ก็มีคนบอกมาบ้างว่าพี่เขาเป็นยังไง แล้วแพรเป็นยังไง ก็อยากให้พี่เขารับรู้ว่าแพรเป็นยังไง แล้วแพรรับรู้ว่าเขาอยู่ได้จริงๆ โดยที่ไม่มีแพร และวันนึงก็จะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม แต่ที่ได้ยินมาก็แย่พอๆ กันค่ะ เหตุการณ์ที่รับรู้มาก็รู้มาจากเพื่อน เพราะเรามีเพื่อนแก๊งค์เดียวกัน”

       “แพรเสียใจมาก เพราะด้วยระยะเวลา ด้วยความผูกพัน แต่ถามว่ามากแค่ไหน คือเราเจอเรื่องเดิมๆ มานานแล้ว มันเหมือนกับความชินชามันก็ค่อยๆ จางลงไปเอง แพรก็ร้องไห้ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าเยอะรึเปล่าเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่เราจากกันด้วยดี เพราะยังไงก็ต้องร่วมงานกันอยู่ แค่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันเท่านั้นเอง ถามว่ามีโอกาสกลับมาไหม ณ ตอนนี้คือเลิกกัน แต่เรื่องของอนาคตยาวๆ เราก็ไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น แพรเสียดายเวลาอยู่แล้ว เพราะว่าคบคนแรก 8 ปี มันก็รู้สึกแย่เหมือนกัน”

       เพื่อให้ทำใจลืมได้เร็ว “แพร” เผยว่า ได้ย้ายของที่ “อู๋” เคยให้ออกไปจากบ้านหมดแล้ว บอกถ้าพร้อมทำใจได้แล้วเมื่อไหร่ ตนจะเป็นฝ่ายโทรไปหาเอง


       “ของพี่อู๋ตอนนี้แพรก็ย้ายออกไปแล้วค่ะ ถามว่าถ้าต่างคนต่างเจอคนใหม่ แล้วกลับมาคุยกันจะง่ายกว่าเดิมไหม มันคงเป็นเรื่องของอนาคต เพราะตอนนี้แพรกับพี่อู๋ก็ยังไม่มีใคร คือมันเป็นตามความรู้สึกค่ะ ถ้าพี่อู๋ยังรักแพร แล้วก็รอแพรทุกอย่าง ก็ขอขอบคุณด้วย แต่ ณ ตอนนี้ทั้งคู่เหนื่อยกันมามากแล้ว อยากให้ลองพักใจดูว่าสิ่งที่เราต้องการคืออะไรกันแน่ (นิ่งเงียบ น้ำตาซึม) เดี๋ยววันนึงถ้าแพรพร้อมค่อยโทรหาพี่เขาเอง คงไม่ฝากบอกอะไร”

       ปัดสาเหตุที่เลิกไม่เกี่ยว “อู๋” มีสาวอื่น และไม่ใช่เพราะตนมีหนุ่มใหญ่หุ้นส่วนร้าน “ฟรั้งกี้” มาดามใจ

       “ที่เลิกไม่เกี่ยวกับเรื่องพี่อู๋มีคนอื่น ไม่ใช่กับคนที่มีรูปออกมาด้วยกัน ในส่วนของแพรที่มีข่าวกับพี่หุ้นส่วนร้านฟรั้งกี้ ก็มีตั้งนานแล้ว ถามว่าตอนนี้เจอกับเขาบ้างมั้ย คือช่วงที่ไม่ได้ถ่ายละครแพรก็ต้องเข้าไปทำงานที่ร้าน ก็เจอพี่เขาบ้าง แต่ไม่เรียกดามใจดีกว่า คือพอพี่เขารู้ว่าเรามีข่าวเลิก ก็กล้าเข้ามาคุยกับเราเยอะขึ้น ถามว่าเปิดใจไหม ไม่ได้เปิดใจ แต่เหมือนเปิดตัวเองมากกว่า เปิดตัวเองที่จะเจอใครมากขึ้น และคุยกับเขามากขึ้น แต่ไม่มีสถานะที่เป็นแฟน หรือว่าเราเป็นเจ้าของกันนะ”

       “พี่คนนี้ไม่ใช่สาเหตุเลย แพรจะบอกตลอดว่าระหว่างเราสองคน เรื่องมือที่สามตัดไปได้เลย เราสองคนรู้จักนิสัยกันดี แต่ ณ ตอนนี้คนมุ่งประเด็นไปที่มือที่สามว่าแพรทำใจได้ยังไง เพราะปกติจะยอมมาตลอด แต่จริงๆ มันต้องมีเรื่องหนักสักเรื่องนึงที่ทำให้แพรออกมาได้”

       “ถ้าบุคคลที่สามมีส่วนแพรคงไปตั้งนานแล้ว จริงๆ บุคคลที่สามไม่มีส่วนเลย ส่วนหนุ่มใหญ่ที่เห็นแพรไปนั่งกินข้าวด้วยที่รร.แกรนด์ไฮแอท เอราวัณ ก็คือพี่หุ้นส่วนร้านนี่แหละ วันนั้นเป็นงานวันเกิดคุณแม่ พอเขารู้ว่าเป็นวันเกิดคุณแม่ เขาก็บอกขอมาด้วยได้ไหม แพรก็บอกโอเคได้อยู่แล้ว ก็อยากให้เขารู้จักด้วย”

       “เราอายุห่างกันเยอะประมาณ 7 ปีได้ เปอร์เซ็นต์กับคนนี้ คือเรื่องอนาคตแพรไม่รู้ว่าจะจบตรงไหน แต่ ณ จุดนี้แพรขอทำใจก่อน กับพี่เขาก็เป็นเหมือนเจ้านายกับลูกน้อง เราสนิทกันมานานแล้ว ถามว่าตอนนี้มีคนเข้ามาบ้างหรือเปล่า ก็มีเหมือนกัน แต่เราอยากศึกษาคนๆ นึงให้รู้จักกันเยอะๆ ก่อนที่จะตกลงเป็นแฟนใครสักคน จริงๆ ถ้าคนที่รู้จักแพร จะรู้จักนิสัยแพรว่าจะเปิดกับคนที่ไม่รู้จักยาก ดังนั้นคนที่เข้ามาตอนนี้ไม่เชิงว่าจีบได้ เราขอศึกษาเป็นเพื่อนคนนึงไปก่อนดีกว่า”