ในเมล็ดฟักทองมี แมงกานีส แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ทองแดง สังกะสี เหล็ก ทริปโตเฟนและโปรตีน อยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังเป็นแหล่งรวมของวิตามิน E K C และ B นอกจากนี้เมล็ดฟักทองยังอุดมไปด้วยโปรตีนและกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายอีกหลายชนิด ข้อดีของเมล็ดฟักทองคือ มีผลผลิตตลอดทั้งปี ไม่ต้องแช่เย็น พกพาได้สะดวก และยังมีรสชาติหวานอร่อย เป็นอาหารว่างชั้นดีที่คุณควรมีติดบ้านหรือสำนักงานไว้ และนี่คือ 10 คุณประโยชน์ของเมล็ดฟักทอง
1. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี
การบริโภคเมล็ดฟักทองสามารถช่วยลดระดับของ LDL (คอเลสเตอรอลที่ไม่ดี) ในร่างกายของเราได้ ใน 2012 วารสารทางการแพทย์ของแอฟริกันได้ตีพิมพ์ข้อมูลหนึ่ง นักวิจัยพบว่า หนูที่เลี้ยงด้วยเมล็ดฟักทองมีระดับ HDL (คอเลสเตอรอลชั้นดี) เพิ่มขึ้นและระดับ LDL (คอเลสเตอรอลที่ไม่ดี) ลดลงอย่างเห็นได้ชัด กินเมล็ดฟักทองอบแห้ง 2-4 ช้อนโต๊ะทุกวัน โดยไม่ต้องเพิ่มเกลือหรือปรุงรสใดๆเพื่อช่วยลดระดับ LDL ของคุณ
2. การควบคุมน้ำตาลในเลือด
ใน 2010 วารสารโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนได้ทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเมล็ดฟักทองกับโรคเบาหวาน การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า เมล็ดฟักทองสามารถช่วยควบคุมระดับอินซูลินและป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานโดยการลดสภาวะความเครียดออกซิเดชัน (oxidative stress) นอกจากนี้ยังพบว่ามีสารเคมีในน้ำมันเมล็ดฟักทองช่วยป้องกันโรคไตจากเบาหวานได้อีกด้วย คนที่เป็นโรคเบาหวานสามารถรับประมาณเป็นอาหารว่างเพื่อสุขภาพ โดยกินได้ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน
3. ต่อต้านโรควิตกกังวล
ในปี 2007 การศึกษาของ Canadian Journal of Physiology and Pharmacology พบว่าทริปโตเฟน (tryptophan) ที่พบในเมล็ดฟักทองช่วยบรรเทาความวิตกกังวล สมองใช้ทริปโตเฟนเพื่อทำให้คุณรู้สึกมีความสุขและสบายใจ หากร่างกายมีทริปโตเฟนน้อยเกินไปก็สามารถนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและความผิดปกติทางอารมณ์อื่นๆ เมื่อคุณรู้สึกว่ามีเครียดมากหลังจากวันทำงานที่ยาวนาน รับประทานเมล็ดฟักทองคั่วจะช่วยให้คุณสงบลงได้
4. บรรเทาอาการโรคข้ออักเสบ
เมล็ดฟักทองและน้ำมันในเมล็ดมีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวดและการอักเสบในข้อต่อ จึงเป็นประโยชน์มากในการรักษาโรคข้ออักเสบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเข่าเสื่อมและโรคไขข้ออักเสบ ในปี 1995 วารสารเภสัชวิทยาวิจัยเกี่ยวกับน้ำมันเมล็ดฟักทองพบว่า สามารถรักษาโรคข้ออักเสบได้และยังไม่มีผลข้างเคียงอีกด้วย เพื่อลดการอักเสบของโรคข้ออักเสบ ควรการนวดบริเวณที่ได้รับผลกระทบด้วยน้ำมันเมล็ดฟักทองวันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 10 นาที
5. ดีต่อกระเพาะปัสสาวะและต่อมลูกหมาก
เมล็ดฟักทองสามารถป้องกันภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวกว่าปกติ (Overactive Bladder) และช่วยรักษาอาการต่อมลูกหมากโต โดยสารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) ที่พบในเมล็ดฟักทองช่วยลดขนาดต่อมลูกหมากโตได้ นอกจากนี้สังกะสียังช่วยลดการปัสสาวะบ่อยในช่วงเวลากลางคืน
6. ปกป้องกระดูก
เมล็ดฟักทองเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาของกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน แร่ธาตุเหล่านี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของกระดูกหัก การรับประทานเมล็ดฟักทอง 1/4 ถ้วยทุกวัน สามารถลดอาการโรคกระดูกพรุนได้
7. ปรับปรุงสุขภาพหัวใจ
เมล็ดฟักทองมีแมกนีเซียมที่จะช่วยในการทำงานของหัวใจและช่วยควบคุมความดันโลหิตสูง ทั้งมีบทบาทสำคัญในจังหวะการเต้นของหัวใจซึ่สามารถป้องกันการเกิดหัวใจหยุดเต้นฉับพลันได้ และทองแดงในเมล็ดฟักทองยังช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงและเพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจนในเลือด
8. ป้องกันสู้พยาธิในลำไส้
เมล็ดฟักทองมีคุณสมบัติที่ช่วยในการกำจัดพยาธิตัวตืด พยาธิเข็มหมุดและปรสิตอันตรายอื่น ๆ ในลำไส้ ข้อมูลจากหนังสือ The Doctors Book of Home Remedies.
9. การนอนหลับ
เมล็ดฟักทองมีทริปโตเฟนอยุ่เป็นจำนวนมากซึ่งร่างกายใช้แปลงเป็นเซโรโทนิน (serotonin) และเมลาโทนิน (Melatonin) เพื่อช่วยในการนอนหลับพักผ่อนยามค่ำคืน ผสมผงเมล็ดฟักทอง 1 ช้อนโต๊ะในแก้วนมอุ่นๆทานก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
10. ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
เมล็ดฟักทองอุดมไปด้วยสังกะสีที่ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของคุณ หากขาดธาตุสังกะสีมากๆจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ เป็นหวัดง่าย เกิดสิวและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้เมล็ดฟักทองยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกหลายชนิดที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย อย่างเช่นซีลีเนียมจะช่วยร่างกายสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
ที่มา: http://www.fxdio.com/10-benefits-of-pumpkin-seeds.html