"เด็กหอ"เป็นภาพยนตร์สยองขวัญชื่อดังที่เข้าฉายในปี 2549 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเด็กนักเรียนชายที่มีปัญหาครอบครัวแล้วเข้าไปเรียนในโรงเรียนประจำ จากนั้นก็เจอเข้ากับ "วิเชียร" เพื่อนลึกลับในโรงเรียนที่เสียชีวิตไปหลายปีแล้วเนื่องจากอุบัติเหตุจมน้ำในบ่อน้ำของโรงเรียน ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีเค้าโครงเรื่องมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นใน "โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา"
โดยสระว่ายน้ำดังกล่าวเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่เกือบเท่าสนามฟุตบอลเลยทีเดียว สร้างขึ้นเพื่อให้นักเรียนใช้ในการว่ายน้ำและตกปลา ในวันเกิดเหตุนั้น "วิเชียร" และกลุ่มเพื่อนๆ ได้พากันไปหัดว่ายน้ำในบ่อดังกล่าว แต่แล้วเขาก็เป็นตะคริวและพยายามร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แต่เพื่อนหลายคนกลับเข้าใจว่าเขาแกล้งจึงไม่สนใจและพากันกลับหอไป จนในที่สุดวิเชียรก็หมดลมหายใจและร่างก็จมดิ่งไปอยู่ก้นสระ เช้าวันต่อมาก็มีคนพบศพของวิเชียรจมอยู่ใต้ก้นสระ แม้จะมีการทำพิธีอันเชิญวิญญาณแล้ว แต่ก็เชื่อกันว่า "วิญญาณของวิเชียร" ยังไม่ได้ไปไหนและเขายังคงรอคอยความช่วยเหลืออยู่นั่นเอง
และแล้ววันหนึ่งเรื่องราวน่าสยองขวัญก็เกิดขึ้น ช่วงหลังเลิกเรียนในขณะที่เด็กนักเรียนกำลังพากันซ้อมกีฬาสีใกล้กับบ่อน้ำ ระหว่างที่เพลงเชียร์กำลังดังกระหึ่มอยู่นั้นก็มีใครบางคนตะโกนขึ้นว่า "เฮ้ย เฮ้ย" ทุกคนจึงหันไปมองตามเสียงและหันไปดูยังปลายนิ้วที่เด็กคนนั้นชี้ก็พบ "วิเชียร" ใส่ชุดนักเรียนยืนกวักมืออยู่กลางบึง
หลังจากนั้นทุกคนที่เห็นก็ถึงกับร้องด้วยความตกใจและกระโดมายืนรวมกันตรงสนามแล้วรีบวิ่งไปรวมกันในตึกใกล้ๆ หลังจากนั้นก็มีมาสเตอร์เดินมาบอกว่าไม่มีอะไรแต่ก็เป็นเพียงคำปลอบใจเพื่อให้นักเรียนคลายกังวลเท่านั้น เพราะทุกคนและมาสเตอร์ต่างรู้ดีว่าตนเองเห็นอะไรกัน และบริเวณกลางบ่อน้ำที่น้ำลึกท่วมหัวแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลยที่ใครจะไปยืนอยู่บนผิวน้ำได้ หลังจากนั้นจึงไม่ค่อยมีใครไปแถวบ่อน้ำอีกเลย
นอกจากนี้ยังว่ากันว่า ในคืนที่ท้องฟ้าไม่มีแสงจันทร์คนที่เดินผ่านบ่อน้ำมักจะพบเห็นเด็กคนหนึ่งในสภาพร่างกายเปียกชุ่มยืนอยู่กลางน้ำและพยายามกวักมือเรียกให้คนที่พบเห็นลงไปในน้ำ ปรากฎว่ามีครั้งหนึ่งมีคนเดินลงไปในน้ำจริงๆ จากนั้นก็มีคนตายในบ่อน้ำเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นทางโรงเรียนจึงสร้างศาลและอันเชิญวิญญาณให้มาอยู่ในศาล
หลังจากนั้นไม่กี่ปีก็มีข่าวว่ามีนักเรียนจมน้ำตายในบ่อน้ำอีกเหมือนเดิม รวมถึงมีเด็กจมน้ำแต่โลคดีที่มาสเตอร์เห็นจึงกระโดดลงไปช่วยไว้ได้ทัน ต่อมาอธิการบดีท่านหนึ่งได้นำปลาและสัตว์น้ำมาปล่อยในบ่อทำให้นักเรียนมีงานอดิเรกใหม่ และน่าแปลกใจที่อาถรรพ์ของบ่อวิเชียรเริ่มจางหายไป แต่หลังจากอธิการบดีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์บ่อน้ำก็ขาดคนดูแลและเริ่มกลับมาน่ากลัวอีกครั้ง โดยปัจจุบันบ่อดังกล่าวถูกสถาปนาว่า "บ่อนักบุญหลุยส์" และกลายเป็นสถานที่ตกปลาไป...
ข้อมูลและภาพประกอบจาก "tartoh"