http://www.zestza.com/?p=1424
อาชีพไหนในอนาคต ที่เสี่ยงโดนหุ่นยนต์แย่งงาน!!!
รู้หรือไม่? ว่าในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า หุ่นยนต์หรือซอฟต์แวร์ ที่มีความฉลาดเชี่ยวชาญเป็นอาวุธจะมาแย่งงานเราในอนาคต บอสตัน คอนซัล ติ้งกรุ๊ป (Boston Consulting Group / BCG) ได้คาดการณ์ว่า ในปี พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) พวกหุ่นยนต์หรือซอฟต์แวร์ที่มีความฉลาดต่างๆ จะเข้ามาแย่งงานมนุษย์ทำในอนาคต โดยคิดเป็นอัตราเฉลี่ยถึง 1 ใน 4 ที่เจ้าโรบอตพวกนี้ จะไปทำงานแทนมนุษย์อย่างเรา
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ได้ชี้ว่าอีก 20 ปีข้างหน้า งานที่คนในสหราชอาณาจักรทำอยู่มากกว่า 35% จะตกไปอยู่ในมือของหุ่นยนต์ เราลองไปดูกันดีกว่าว่า อาชีพใดบ้างที่เสี่ยงโดนหุ่นยนต์แย่งงาน!!!
1.คนขับรถ มีความเสี่ยงร้อยละ 50 – 59%
ในอนาคตน่าจะมีถนนซึ่งมีเลนพิเศษให้กับรถที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง โดยใช้คอมพิวเตอร์บังคับ เพราะฉะนั้นคนขับรถก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป
2.พนักงานโรงงาน มีความเสี่ยงถึง 80 – 89%
อย่าว่าแต่ในอีก 10 ปีข้างหน้าเลย ขนาดทุกวันนี้ยังไล่ออกกันเป็นว่าเล่น ก็เพราะทางผู้จ้างเค้าก็ไปใช้บริการพวกหุ่นยนต์แทน เพราะลงทุนครั้งเดียวก็สามารถใช้งานได้นาน แถมความแม่นยำ ถูกต้องยังมีมากกว่ามนุษย์เราเสียอีก ดังนั้นสาวโรงงานทั้งหลายหางานสำรองไว้ได้เลย!!
3. นักข่าว มีความเสี่ยงสูงถึง 90 – 100%
นักวิทยาศาสตร์ของ Narrative Science เองเคยออกมาระบุว่า ในอีก 15 ปีข้างหน้า ข่าวที่นักข่าวเคยเป็นคนเขียนกันอยู่ตอนนี้ 90% จะมีระบบปฏิบัติการมาช่วยเขียน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านักข่าวจะตกงานกันถึง 90% แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ นักข่าวจะมีโอกาสไปหาข่าว ขยายขอบเขตเนื้อหาที่ต้องการรายงานได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ส่วนงานประเภทข้อมูลประกอบการเขียนชนิดที่ไม่ต้องมีการตีความ หรือเป็นข้อมูลที่ชัดเจนอยู่แล้ว ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของระบบปฏิบัติการไป
4.แพทย์ มีความเสี่ยง 0 ถึง 29%
ปัจจุบันนี้แพทย์กับหุ่นยนต์ยังทำงานควบคู่กันไป แต่ เจอร์รี แคปแลน ผู้แต่งหนังสือ Humans Need Not Apply บอกว่า ท้ายที่สุดแล้วหากพิสูจน์ได้ว่าหุ่นยนต์เป็นทางเลือกที่ดีกว่า คนไข้ก็อาจยอมเสียเงินสักหน่อย ไปพบหุ่นยนต์ที่สามารถเอาใจใส่ดูแลได้มากกว่า ดีกว่าไปพบแพทย์ที่ยุ่งอยู่กับงานที่ล้นมือ
5.บริกร ค็อกเทล
เนื่องจากในอนาคต หุ่นยนต์จะสามารถควบคุมการผสมค็อกเทลได้โดยไม่ผิดเพี้ยน จึงทำให้พนักงานร้านเหล้าต่างๆอาจจะมีความเสี่ยงที่จะตกงานหรือไม่จำเป็นต้องมีแล้วก็ได้ นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของงานที่สามารถใช้หุ่นยนต์เป็นเครื่องช่วย แต่หากหุ่นยนต์มาทำงานแทนมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ มนุษย์เราจะทำอะไรกันต่อไปดี เมื่อทักษะที่มีอยู่ไม่เป็นที่ต้องการเสียแล้ว มาร์ติน ฟอร์ด ผู้แต่งหนังสือ Rise of the Robots คิดว่า หากไม่มีการปรับเปลี่ยนอย่างถอนรากถอนโคนในเรื่องการกำหนดค่าจ้างหรือรายได้ขั้นต่ำ ก็คงเกิดปัญหาคนว่างงานอย่างหนักและเศรษฐกิจคงล่มไม่เป็นท่า ขณะที่ ศ. เนลโล คริสเตียนิ ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ แห่งมหาวิทยาลัยบริสตอล บอกว่า “ผมยังหวังว่าอาชีพอย่าง ครู หมอ และผู้พิพากษา ยังคงเป็นงานที่มนุษย์ทำเป็นหลัก เพราะบางครั้งเราก็ต้องการพูดคุยกับคนด้วยเหมือนกัน”
ที่มา : BBC