https://www.yaklai.com/featured/prohibited
ห้ามเด็ดขาด!? 10 อาวุธต้องห้ามสุดอันตรายที่ห้ามใช้ในสงคราม
ระเบิดบอลลูน : ตามอนุสัญญากรุงเฮกปี 1898 ได้ระบุไว้ว่าการปล่อยบอลลูนที่มีระเบิดผูกติดไปด้วยนั้นผิดกฎหมาย ระหว่างประเทศ แต่ญี่ปุ่นได้ฝ่าฝืนกฎที่ว่าโดยการผูกระเบิดติดไปกับบอลลูนไปยังชายฝั่งด้านแปซิฟิกของอเมริกา ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อก่อกวนจนทำให้เกิดไฟไหม้ในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ
ระเบิดค้างคาว : สหรัฐฯ ได้คิดค้นอาวุธลับชนิดใหม่เพื่อทำลายล้างญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยการติดตั้งระเบิดไปกับตัวค้างคาวที่จับได้จากถ้ำในนิวเม็กซิโก นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าอาวุธชิ้นนี้จะทำให้บ้านเรือนของชาวญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้พังราบคาบ โดยใช้ชื่อรหัสว่า X-Ray และได้รับการทดสอบในปี 1944 ซึ่งผลที่ได้รับเป็น ที่น่าพอใจ แต่น่าเสียดาย (หรืออาจเป็นความโชคดีของชาวญี่ปุ่น) ที่สงครามได้ยุติลงจากการทิ้งระเบิดปรมาณูที่ ฮิโรชิม่าและนางาซากิ ไม่เช่นนั้นชาวญี่ปุ่นอาจต้องเจ็บปวดกับอาวุธร้ายแรงชิ้นใหม่ของสหรัฐฯ
อาวุธชีวภาพ : ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม อาวุธชีวภาพเป็นอาวุธที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่อดีต ชาวมองโกลใช้ชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ที่เน่าเปื่อยโยนข้ามกำแพงของข้าศึกเพื่อแพร่กระจายเชื้อโรค หรือแม้กระทั่งกาฬโรค ที่มนุษย์ใช้ตัวหมัดที่เกาะด้านหลังของแมวเป็นพาหะนำโรค
อาวุธเลเซอร์ : อาจฟังดูเหมือนเรื่องเพ้อฝัน แต่เทคโนโลยีชนิดนี้อันตรายกว่าที่ใครหลายคนคิด โดยลำแสงเลเซอร์ ที่มีความเข้มข้นสูงสามารถทำอันตรายให้ร่างกายมนุษย์ เช่น ทำให้ตาบอดได้อย่างถาวร และไม่เหมาะนักหากมันจะตกอยู่ในมือของเยาวชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
ระเบิดกัมมันตรังสี : อาวุธประเภทนี้เป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมายระหว่างประเทศ ระเบิดกัมมันตรังสีความรุนแรงน้อยกว่าระเบิดนิวเคลียร์ แต่อันตรายของมันเกิดจากกัมมันตรังสีที่แพร่กระจายหลังการระเบิด ส่งผลให้พื้นที่และสิ่งมีชีวิต บริเวณนั้นปนเปื้อนด้วยรังสี
ปืนพ่นไฟ : ปืนพ่นไฟถูกระบุว่าเป็นอาวุธอันตรายเนื่องจากไม่สามารถจำกัดวงความเสียหายของมันได้ เปลวไฟที่ร้อนระอุของมันจะแผดเผาทุกอย่างโดยไม่เลือกข้าง อย่างไรก็ตาม อาวุธชนิดนี้เป็นที่นิยมของพวกกลุ่มก่อการร้ายที่ใช้โจมตีกองทหารและรถถังของฝ่ายตะวันตก
กระสุนหัวรู : กระสุนชนิดนี้ถูกออกแบบให้กลวง เพื่อเพิ่มอำนาจหยุดยั้งและสร้างโพรงบาดแผลที่เลวร้าย กว่าลูกกระสุนธรรมดาแบบทั่วไป
ตั๊กแตน หมัด และหนู : สัตว์เหล่านี้ล้วนเป็นพาหะนำโรค กาฬโรคที่เคยระบาดในทวีปยุโรปส่วนหนึ่งมาจาก สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ดังนั้นการใช้สัตว์เหล่านี้เป็นอาวุธจึงเป็นเรื่องผิดกฎหมายระหว่างประเทศ
แก๊สมัสตาร์ด : แก๊สมัสตาร์ดได้สร้างความหวาดกลัวให้กับทหารมากมายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 รูปร่าง สีและกลิ่นของมันคล้ายคลึงกับมัสตาร์ด หากใครก็ตามสูดดมเอาแก๊สชนิดนี้เข้าไปจะต้องเสียชีวิตอย่างทรมาน จนกระทั่งในปี 1928 อนุสัญญาเจนีวาได้ระบุถึงข้อห้ามการใช้อาวุธประเภทนี้อย่างเด็ดขาด
ระเบิดนาปาล์ม : มันถูกใช้อย่างแพร่หลายในช่วงสงครามเวียดนามโดยกองทัพสหรัฐ เพื่อหวังผลทำลายล้างพื้นที่ของข้าศึก เปลวไฟจากระเบิดจะเผาไหม้ต้นไม้และบ้านเรือนของผู้คนจนไหม้เป็นจุล ด้วยความร้ายแรงของอาวุธ ประเภทนี้ จึงทำให้ไม่มีใครอยากจะใช้มันอีก
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : ebaumsworld.com