กว่าจะมาเป็นเพชรฆาต ตัดหัวคนได้นั้น..ต้องผ่านขั้นตอนสุดบรรยาย อย่างนี้ !!
การลงโทษในสมัยก่อนนั้น ค่อนข้างที่จะโหดร้ายและทารุณ แต่ก็ทำให้คนเกรงกลัว กฎหมายมีความเด็ดขาด ซึ่งโทษที่ร้ายแรงที่สุดในการกระทำผิดกฎหมายนั่นก็คือ ประหารชีวิต ซึ่งในสมัยโบราณนั้น ประหารชีวิตนักโทษคือ การตัดคอ นั่นเอง
การประหารชีวิตคนอันเป็นสัตว์ประเสริฐนับเป็นกรรมหนักรุนแรง จึงต้องเฟ้นหาดวงเพชฌฆาต ! ที่มีดวงคุ้มตัวเองได้ มิฉะนั้นชีวิตจะสั้น !
ครั้นได้ฤกษ์เพชฌฆาตดาบหนึ่ง ดาบสองค่อยอันเชิญดาบออกจากที่ตั้ง พร้อมแต่งกายด้วยผ้าเตี่ยวสีแดงสด นุ่งหยักรั้งทะมัดทะแมงสวมเสื้อกั๊กสีแดงลงยันต์มหาอำนาจ มหาเดช มีบางรายคาดหัวด้วยผ้าสีแดงลงยันต์ เมื่อออกจากเรือนจำไปกับขบวนนักโทษเพชฌฆาตจะอยู่รั้งท้ายขบวน เมื่อถึงลานประหารที่กำหนดไว้ นักโทษจะถูกผูกตา ช่วงนี้เองที่เพชฌฆาตทั้งดาบหนึ่ง ดาบสองจะเข้าไปขออโหสิกรรม
บนพื้นที่ลานประหารด้านหลังนักโทษ มีการสร้างประตูป่า ทำด้วยไม้หลัก 3 อัน ผูกติดกันเป็นประตูปักไว้กับดินจนแน่น จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำเอาใบไม้ กิ่งไม้ มาสุมคลุมไว้จนมองไม่เห็นทางเข้า ยกเว้น มือเพชฌฆาตเท่านั้น ที่รู้ ส่วนด้านใน มีอาสนะ ยกพื้นสูง สำหรับพระสงฆ์ นั่งประจำ กับบาตร บรรจุน้ำมนต์ สองบาตร
น้ำมนต์ดังกล่าวเรียก น้ำมนต์ ธรณีสารใหญ่ เพื่อล้างเสนียดอัปรีย์ทั้งปวง ทั้งยังไล่เคราะห์ให้กับเพชฌฆาตด้วย ต่อมา เพชฌฆาตดาบหนึ่ง และ ดาบสองจะเข้าไปอยู่หลังประตูป่า พลางภาวนาคาถาอาคม สะกดอาคม หากมีอยู่ในตัวนักโทษ พร้อมสะกดดวงวิญญาณผีตายโหง ส่วนที่ลานประหาร จะมีการพันธนาการนักโทษเข้าสู่หลักประหาร โดยมีพระธำมรงค์เดินไปแจ้งต่อผู้แทนพระองค์ ว่าจะเริ่มพิธีประหาร
จากนั้น ปี่หลวงทำเพลงไหว้ครูเสียงโหยหวน เพชฌฆาตดาบสอง ออกไปร่ายรำตามจังหวะเพลงโดยรอบตัวนักโทษด้วยการ วนซ้าย ให้เกิดอัปมงคลแก่ตัวนักโทษ
จากนั้น ปี่กลองจะทำซ้ำ แล้วเร่งเร็วขึ้นเป็นจังหวะ เมื่อดนตรีเร่งกระชั้นถี่ เพชฌฆาตดาบหนึ่ง จะแหวกประตูป่าดู เมื่อกำหนดจิตมั่น ก็จะย่างสามขุมเข้าไปหานักโทษประหารทีละก้าวอย่างแผ่วเบา ด้านนักโทษประหารจะมัวแต่ระแวงเพชฌฆาตดาบสองที่ร่ายรำอยู่รอบตัว โดยมิได้ระแวงภัยทางด้านหลัง
พอได้ระยะ เพชฌฆาตดาบหนึ่ง จะเงื้อดาบขึ้นสุดล้าฟันฉับทันควัน คมดาบคมกริบตัดผ่านข้อกระดูกข้อต่อคอ และกล้ามเนื้อออกไปทางด้านหน้า ซึ่งหากเพชฌฆาตมีสติมั่นกับแม่นยำ คมดาบจะตัดข้อต่อระหว่าง กระดูกก้านคอ กับกระดูกสันหลัง อันจะส่งผลให้นักโทษ หัวขาดกระเด็น หลุดจากบ่า ในบัดนั้น Spoil
แต่ถ้าดาบหนึ่งฟันพลาด คมดาบจะตัดกล้ามเนื้อลำคอข้างหน้าไม่ขาด เหลือเอ็นกับเนื้อไว้ ทำให้หัวของนักโทษพับลงมาห้อยจนคางห้อยจรดหน้าอก ความหวาดเสียวอันอาจทำให้ผู้คนที่ชมการประหารถึงเป็นลมก็ตอนที่หัวนักโทษขาด ซึ่งส่งผลให้เลือดที่กำลังวิ่งขึ้นด้านบน จะพุ่งกระฉูดเหมือนน้ำพุ ทั้งหัวนักโทษที่หลุดหล่นตกยังพื้นก็สามารถยักคิ้ว หรือทำตาเหลือกได้อีก นั่นเพราะเส้นเอ็นกระตุก จึงสร้างความสยดสยองพรั่นกลัวแก่ผู้พบเห็นไม่น้อย อนึ่ง หากเพชฌฆาตดาบหนึ่ง ฟันคอไม่ขาดลงทีเดียว จะเป็นหน้าที่ของเพชฌฆาตดาบสอง ต้องเอามือจิกหัวนักโทษขึ้น แล้วใช้ดาบสองเชือดจนเส้นเอ็น กับกล้ามเนื้อขาด จากนั้นจึงค่อยนำไปวางยังปลายเท้านักโทษ
สำหรับเพชฌฆาตดาบหนึ่ง เมื่อลงดาบแล้วจะกระทืบเท้าครั้งหนึ่ง แล้วยกใบดาบขึ้น เลียเลือดที่ติดปลายดาบกิน เป็นการข่มวิญญาณผีตายโหง จึงค่อยหันหลังกลับวิ่งตรงเข้าประตูป่าทันที ทั้งนี้มีข้อห้าม มิให้เพชฌฆาตหันหลังกลับไปมองอย่างเด็ดขาด และต้องระวังมิให้หกล้มลงกับพื้นเด็ดขาด ด้วยเชื่อกันว่า ในช่วงนั้นวิญญาณผีตายโหงจะเข้าสิงทันที
เมื่อผ่านเข้าประตูป่า พระสงฆ์ที่คอยอยู่ จะรดน้ำมนต์ธรณีสารใหญ่ทั้งสองบาตร ต่อมาเพชฌฆาตจึงค่อยกลับไปอยู่ในเรือนจำ เหล่านี้เป็นหน้าที่ของเพชฌฆาตสมัยโบราณ แต่หากมีนักโทษบางรายคงกระพันชาตรี ก็ให้นำสิ่งที่เป็นอัปมงคลผสมน้ำราดหัวให้ความคงกระพันเสื่อม ถ้าขั้นดังกล่าวยังไม่สำเร็จโทษได้ ก็ให้ใช้วิธีสวนทวารด้วยไม้รวกปลายแหลม
ถ้ายังไม่ตายจึงทุบด้วยตะลุมพุก หรือเอาไปต้มในน้ำเดือดให้ตกตายตามโทษานุโทษ
การตัดคอแม้จะถูกมองว่าเป็นการประหารที่ทารุณ แต่ก็ยังทำให้ผู้ที่ถูกประหารนั้นรู้สึกและสำนึกความผิดก่อนตาย ซึ่งการประหารนั้นได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย การยิงเป้า และเปลี่ยนมาเป็นการฉีดยาในปัจจุบัน ....
ที่มา: http://www.soccersuck.com/boards/topic/1338074