หลังจากที่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเสิร์ชเอ็นจิ้นตัวใหม่ของ ไมโครซอฟท์ ตั้งแต่โค้ดเนม Kumo.com มาจนถึงการเตรียมทุ่มเม็ดเงินกว่า 100 ล้านเหรียญฯ เพื่อผลักดันเสิร์ชเอ็นจิ้นตัวใหม่ (ที่พัฒนาจาก Live Search) ให้เป็นที่ยอมรับของผู้ใช้ และสามารถต่อกรกับ Google และ Yahoo ได้ ล่าสุดทางไมโครซอฟท์ได้แถลงข่าว พร้อมทั้งให้ชื่ออย่างเป็นทางการกับเสิร์ชตัวนี้แล้วด้วย
เมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา สตีฟ บอลเมอร์ ซีอีโอของไมโครซอฟท์ได้เปิดเผยเกี่ยวกับเสิร์ชเอ็นจิ้น ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ม่ีชื่อว่า Bing.com ซึ่งทางบริษัทกล่าวว่า มันสามารถให้คำตอบที่มีความเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยเฉพาะการช่วยให้ผู้ใช้ได้ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ วางแผนท่องเที่ยว ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ตลอดจนธุรกิจในท้องถิ่น
" แม้วันนี้เสิร์ชเอ็นจิ้นจะได้ช่วยนำพาผู้ใช้ให้ไปพบเว็บไซต์ และข้อมูลข่าวสารที่เหมาะสมได้ก็ตาม แต่พวกมันกลับไม่ได้ช่วยให้ผู้ใช้ได้ใช้ข้อมูลข่าวสารที่พบได้ดีมากนัก (แค่ไปพาไปพบแหล่งข้อมูล แต่ไม่ได้ช่วยให้การตัดสินใจเลือกใช้ข้อมูลเหล่านั้นง่ายเท่าที่ควร)" สตีฟ บอลเมอร์ กล่าว "เมื่อเราเริ่มต้นสร้าง Bing เราพยายามทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการจริงๆ จากการใช้เว็บ"
ผล การศึกษาเกี่ยวกับการใช้เสิร์ชของ ComScore ระบุว่า การเสิร์ชเว็บที่ไร้ค่าเนื่องจากไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจนั้นมีมาก ถึง 30% ซึ่งผลจากการศึกษาดังกล่าว ไมโครซอฟท์ได้ตั้งทีมพัฒนา "decision engine" (กลไกช่วยในการตัดสินใจ) ขึ้นมา เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้พบกับข้อมูลที่พวกเขาต้องการมากที่สุด ตัวอย่างเช่น ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อกล้องดิจิตอลได้พบกับรุ่นที่ถูกใจในราคาที่ดีที่สุด ตลอดจนการจองตั๋วเครื่องบิน หรือค้นหาภัตตาคารที่สะดวกง่ายดายกว่า โดยอ้างอิงผลลัพธ์ที่คล้ายกับสิ่งที่ได้จากค้นพบก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้ได้คำตอบที่ดีกว่า และใกล้เคียงมากขึ้น ซึ่งในรายละเอียดของอินเตอร์เฟซจะช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจกับสิ่งที่ค้นพบได้ ง่ายขึ้น สมมติคุณกำลังค้นหารถยนต์ที่ต้องการซึ้อไว้สักคันหนึ่ง ที่ด้านซ้ายของหน้าผลลัพธ์ จะแสดงหมวดต่างๆ (categories) ที่คลิ้กเลือกได้ อย่างเช่น ปัญหา รีวิว และตัวแทนจำหน่าย โดยระบบจะคำนวณและประเมินให้ว่า ผู้ใช้น่าจะต้องการทราบอะไรบ้างจากสิ่งที่ค้นหา สำหรับ Bing.com จะเปิดให้บริการทั่วโลกในวันพุธที่ 3 มิถุนายน ศกนี้