http://variety.teenee.com/world/74535.html
ฝรั่งได้จดตามคำบอกเล่าของขันทีว่า เมื่อนางพญาเม่งจู (พระนางซูสีไทเฮา) ได้สวรรคตแล้วนั้น ได้อัญเชิญพระศพฝังไว้ในสุสานหลวง อันสร้างด้วยหินอ่อน มีอาณาบริเวณใหญ่เป็นยิ่งนัก หีบพระศพนั้นเล่า ก็ทำด้วยหินอ่อนอย่างดี มีฟูกซึ่งปักด้วยไข่มุกหลายพันเม็ด เย็บสูงขึ้นมา ๗ นิ้ว ผ้าปูฟูกก็ร้อยด้วยไข่มุก บนพระเศียรของนางพญา มีหยกแกะเป็นดอกบัวบูชาไว้หลายดอก แต่ละดอกมีค่าหลายพันตำลึง ที่พระบาทก็มีดอกบัวหยกปักเรียงรายไว้เป็นอีกหลายดอก พระศพทรงเสื้อไหมเส้นทอง ยังมีเสื้อด้านนอกีร้อยกรองด้วยไข่มุกเป็นอันมากทับซ้อนไว้อีกตัวหนึ่ง และยังมีสร้อยไข่มุกพันรอบพระกายไว้อีก 9 รอบ ไข่มุกเหล่านี้เป็นสมบัติที่นางพญาทรงโปรด และทรงได้มาเป็นสมบัติเมื่อยังมีพระชนม์อยู่ด้วยการจิ้มก้องของขุนนางที่หวังประจบสอพลอพระนางเสียสิ้น นอกจากเครื่องประดับส่วนพระองค์อันมีค่าเหลือหลายแล้วยังไม่พอ ยังมีพระพุทธรูปที่ทำด้วยทองคำ เงิน แก้ว และหยก บรรจุรวมไว้หีบพระศพถึง 108 องค์
เมื่อจะปิดพระศพ แห่งใดเป็นที่ว่างก็เอาไข่มุกมาเกลี่ยไว้จนเต็ม ถ้าคิดถึงความงามและค่าของพระบรมศพแล้ว ก็เป็นเงินทองมหาศาล สามารถนำมาขายเลี้ยงดูพลเมืองผู้ยากจนในปีที่เกิดข้าวยากหมากแพงได้ทั่วแผ่นดินจีน..."
ต่อมาขุนศึกซุนเตี้ยนอิง ได้ระเบิดประตูสุสาน แล้วรื้อค้นเอาทรัพย์สมบัติของพระนาง อีกทั้งได้เปิดหีบพระศพ ขนเอาสมบัติล้ำค่าไปเกือบหมด แม้กระทั้งพระศพของพระนางเอง ก็ถูกลากออกมากองทิ้งไว้อยู่ข้างสุสาน ทำให้พระศพเน่าเปื่อยหลุดหลุยเมื่อเจอกับสภาพอากาศข้างนอก จนรัฐบาลจีนต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าบูรณะสุสานใหม่ แล้วอัญเชิญพระศพเข้าสู่สุสานหลวงตามเดิม และในปัจจุบันนี้พระศพของซูสีไทเฮา ได้กลายสภาพเป็นมัมมี่แล้ว
พระศพกลางเป็นมัมมี่
ที่มา เพจ ราชินี เจ้าจอม หม่อมห้าม ในอดีต