เป้าหมายในชีวิตที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็คือ “ความมั่งคั่งร่ำรวย” แล้วความรวยของผู้คนในแต่ละยุคสมัยนั้นแตกต่างกันขนาดไหน? แล้วใครคือคนที่ “รวยที่สุด” ในแต่ละศตวรรษ!?
ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 มาจนถึงศตวรรษที่ 21 นี่คือรายชื่อของคนที่ถูกบันทึกไว้ว่าครอบครองทรัพย์สินมากที่สุดในผืนแผ่นดิน
ศตวรรษที่ 11
พระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ (พระเจ้าวิลเลียมผู้พิชิต) ทรัพย์สิน 8.3 ล้านล้านบาท (คิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน)
จากประวัติศาสตร์ในด้านของการแสวงหาและค้าขายทองคำ เชื่อกันว่าราชา Tenkamenin แห่งกาน่าคือผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในศตวรรษที่ 11 แต่ถ้าพิจารณาจากทรัพย์สินทั้งหมดแล้วพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ ดยุกแห่งนอร์มังดี นอกจากจะเป็นพระราชาแล้วยังมีปราสาทและราชสมบัติมากมาย จึงเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดแห่งศตวรรษ
ศตวรรษที่ 12
เจงกีส ข่าน ไม่ทราบทรัพย์สิน
ไม่มีบันทึกว่าผู้คนในศตวรรษที่ 12 นั้นมีทรัพย์สินเท่าไหร่ แต่จะเห็นได้จากการขยายอาณาจักรที่กว้างไกลของเจงกีสข่านจึงทำให้สรุปได้ว่าเขาคือจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่และมีทรัพย์สินมากที่สุดในยุคนั้น
ศตวรรษที่ 13
Filippo di Amedeo de Peruzzi ทรัพย์สิน 3.6 ล้านล้าน – 7.2 ล้านล้านบาท
เดิมทีผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในศตวรรษที่ 13 คือหลานของชายของเจงกีส ข่าน แต่จากหลักฐานพบว่าทรัพย์สินของ Filippo di Amedeo de Peruzzi และครอบครัวชาวอิตาลี ซึ่งมีทั้งโรงแรม เรือยอชต์ ทองคำ เพชรพลอย และการส่งออกนำเข้าสินค้าทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในศตวรรษนี้
ศตวรรษที่ 14
Mansa Musa I ทรัพย์สิน 14.5 ล้านล้านบาท
นอกจากจะร่ำรวยที่สุดในศตวรรษแล้ว จักรพรรดิแห่งแอฟริกาตะวันตกผู้นี้ยังเป็นบุคคลที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก จากการครอบครองทรัพยากรธรรมชาติและแร่ธาตุมากมาย รวมไปถึงทองคำและเกลือซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในยุคนั้น
ศตวรรษที่ 15
Jakob Fugger ทรัพย์สิน 2.1 ล้านล้าน – 9.9 ล้านล้านบาท
นายธนาคารผู้จัดการทรัพย์สินและช่วยให้คาร์ลที่ 5 ได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นการตอบแทนเขาจึงได้รับพระราชทานรางวัลมหาศาล ซึ่งเขาได้นำไปต่อยอดจนกระทั่งร่ำรวยที่สุดในแผ่นดิน
ศตวรรษที่ 16
สุลต่านสุลัยมานแห่งจักรวรรดิออตโตมัน ไม่ทราบทรัพย์สิน
ทรัพย์สมบัติมหาศาลของสุลต่านแห่งออตโตมันนั้นมาจากอำนาจ การถือครองที่ดิน รวมถึงแร่ธาตุและทรัพยากรต่างๆ เช่นทองคำและเพชรพลอย นอกจากนี้สุลต่านยังมีหญิงสาวในฮาเร็มมากกว่า 2 พันคนอีกด้วย
ศตวรรษที่ 17
จักรพรรดิออรังเซพ ทรัพย์สิน (ตามข่าวลือ) 6 แสนล้านบาท
หลังจากก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งผู้ปกครองอินเดียด้วยชัยชนะเหนือพี่ชายทั้งสามในสงครามสืบราชบัลลังก์ ว่ากันว่าจักรพรรดิออรังเซพมีทรัพย์สินทั้งหมด 1,300 ล้านบาท ซึ่งเทียบเท่ากับมูลค่า 6 แสนล้านบาทในปัจจุบัน
ศตวรรษที่ 18
Stephen Girard ทรัพย์สิน 3.8 ล้านล้านบาท
ในช่วงศตวรรษที่ 18 มีมหาเศรษฐีมากมายที่มีโอกาสเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดแห่งยุค แต่ Stephen Girard ชาวฝรั่งเศสที่เติบโตในอเมริกานั้นครอบครองเรือจำนวนนับไม่ถ้วนจึงทำให้เขาเป็นเจ้าของกิจการขนส่งรายใหญ่ซึ่งเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างมากในศตวรรษที่ 18
ศตวรรษที่ 19
ตระกูล Rothschild ทรัพย์สิน 12.6 ล้านล้านบาท
ตระกูล Rothschild ทำธุรกิจเกี่ยวกับธนาคารในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดย Nathan Mayer คือผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในบรรดาพี่น้อง พวกเขาเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินในสงครามนโปเลียนช่วงปี 1803-1815 นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
ศตวรรษที่ 20
จอห์น ดี. ร็อกเกอะเฟลเลอร์ ทรัพย์สิน 12.3 ล้านล้านบาท
นักธุรกิจชาวอเมริกันเจ้าของกิจการน้ำมันสแตนดาร์ดออยล์ ซึ่งในยุคนั้นอุตสาหกรรมน้ำมันเป็นธุรกิจที่สร้างความร่ำรวยได้มากที่สุด เขาเริ่มจากการจัดตั้งบริษัทขุดเจาะน้ำมันจนมีชื่อเสียงระดับยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็ขยายกิจการออกไปอีก 34 บริษัท ซึ่งทำเงินได้สูงสุดถึง 32.6 ล้านล้านบาทในปี 1911
ศตวรรษที่ 21
มูอัมมาร์ กัดดาฟี ทรัพย์สิน 7.2 ล้านล้านบาท
แม้ว่าจะผ่านช่วงเวลาของศตวรรษที่มาเพียงแค่ไม่กี่ปี แต่มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในยุคปัจจุบันนั้นติดอันดับ 1 ใน 8 ของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งหลังการทำรัฐประหาร เขาได้กลายเป็นผู้ปกครองประเทศร่ำรวยน้ำมันอย่างลิเบียนาน 34 ปีเต็ม
ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดของเขามีมูลค่า 7.2 ล้านล้านบาท โดยกัดดาฟีถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2011 หลังจากถูกประชาชนลิเบียลุกฮือต่อต้านเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
น่าเสียดายที่ไม่ว่าจะมีทรัพย์สมบัติมากมายเพียงใด แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็เอาอะไรติดตัวหลังจากโลกนี้ไปไม่ได้เลย
ที่มา: todayifoundout, ภาพจาก: fullnetworth