NASA หนึ่งในองค์กรที่มีความก้าวหน้าในด้านของเทคโนโลยีอวกาศ ที่มักจะแสดงให้ชาวโลกได้ตื่นตาตื่นใจกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการส่งดาวเทียมไปโคจรรอบโลก และสำรวจดาวดวงอื่นๆ รวมไปถึงการส่งนักบินอวกาศไปสำรวจดาวเคราะห์อันห่างไกล
ภาพที่เราได้เห็น ได้รับรู้ และได้สัมผัสนั้นคือความสำเร็จขององค์กร NASA ที่มีเยอะแยะมากมายหลายโครงการ แต่ก็ใช่ว่าทุกโครงการที่เกิดขึ้นจะสำเร็จเสมอไป
ถ้าหากเกิดความล้มเหลว ทางองค์กรจึงจำเป็นที่จะต้องละทิ้งโครงการเหล่านั้นที่เคยคาดหวังว่ามันจะลุล่วงไป ซึ่งแต่ละอย่างนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย
อย่างเช่น Santa Susana Field Laboratory โครงการขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 7,208 ไร่ ห่างจากย่านดาวน์ทาวน์ของเมือง Los Angeles ไป 48 กิโลเมตร เป็นฐานลับที่เคยยิ่งใหญ่ที่ช่วงค.ศ. 1948
ภายหลังในปีค.ศ. 1959 มันได้กลายมาเป็นภัยพิบัตินิวเคลียร์ครั้งแรกและครั้งที่ร้ายแรงที่สุดของอเมริกา ความล้มเหลวเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ประสบกับปัญหาไฟกระชากอย่างรุนแรงในชั่วข้ามคืนละปล่อยก๊าซกัมมันตรังสีออกสู่ชั้นบรรยากาศ
เจ้าหน้าที่ก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหาอย่างสุดความสามารถตลอดสัปดาห์ แต่ดูเหมือนว่ายิ่งแก้ไขก็ยิ่งทำให้มันแย่ลง เพราะเป็นการเพิ่มปริมาณสารกัมมันตรังสีให้มากขึ้นไปอีก
ทางด้านเจ้าหน้าที่ Atomic Energy Commission เผยว่าองค์ประกอบของพลังงานล้มเหลวใน Area 4 โดยเป็นเตาปฏิกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดภายในฐานแห่งนี้
จากนั้นเรื่องก็เงียบไปจนมาถึงปีค.ศ. 1979 กลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส ได้เข้ามาถ่ายทำสารคดีในที่แห่งนี้ ทำให้ชาวบ้านรู้สึกตระหนักถึงปัญหาสุขภาพ เป็นผลพวงมาจากในเหตุการณ์ในคราวก่อน
แต่ถึงอย่างไรก็ตามฐานนี้ก็ถูกใช้งานทดสอบนิวเคลียร์ต่อเนื่องหลายปีจนถึงค.ศ. 1988 จนถึงปีค.ศ. 2006 ทดสอบไปแล้วกว่า 30,000 ลูก
ภายหลังมีกระแสต่อต้านอย่างรุนแรง จนรับไม่ไหว สุดท้ายฐานลับแห่งนี้ก็ต้องถูกปิดตัวลงไปอย่างถาวร ถูกทิ้งให้กลายเป็นดินแดนรกร้างที่มีซากโครงการทดลองขนาดมหึมา ไม่เหลือความยิ่งใหญ่อีกต่อไป
ที่มา : dailymail