โดย Claire Shepherd หญิงสาวชาวอังกฤษวัย 30 ปี ซึ่งเธอมีรสนิยมชื่นชอบในรอยสักเป็นอย่างมาก แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะส่งผลกับการสมัครงานของเธอมาขนาดนี้ ดังนั้นเธอจึงได้โพสต์แชร์ประสบการณ์การสมัครงานกับบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งทำให้เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
โดยเธอเล่าว่า เธอยื่นใบสมัครงานตำแหน่ง Retail Merchandiser (ดูแลธุรกิจค้าปลีก) ในบริษัทโลจิสติกส์ Dee Set ซึ่งเป็นตำแหน่งงานที่เธอต้องการทำมาก หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้รับการโทรศัพท์จากบริษัทโทรมาสัมภาษณ์เธอผ่านทางโทรศัพท์ ปรากฎว่าบริษัทตัดสินใจรับเธอเข้าทำงานและให้เธอเริ่มงานในอาทิตย์ต่อไปได้เลย
หลังจากนั้นไม่นานทางบริษัทก็ส่งกฎระเบียบของบริษัทมาให้เธออ่านทางอีเมล์ เมื่อเธออ่านดูก็พบว่า มีกฏห้ามพนักงานสักในจุดที่มองเห็นได้ชัดเจนเพราะอาจสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้า ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ เนื่องจากเธอมีรอยสักที่บริเวณมือ แต่เธอก็มองว่ามันอาจจะเป็นกฎระเบียบแบบเก่าของบริษัทและตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว
ดังนั้นเธอจึงอีเมล์กลับไปบอกกับบริษัทว่าเธอมีรอยสักที่มือและหวังว่ามันจะไม่เป็นผลต่องาน แต่ทางบริษัทกลับปฏิเสธการว่าจ้างเธอทันที ทำให้เธอเกิดความรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก เนื่องจากตำแหน่งงานที่เธอสัครเป็นตำแหน่งงานที่เธอรัก ทั้งเธอยังมีประสบการณ์ ความรู้ และความสามารถนานถึง 6 ปี แต่กลับถูกปฏิเสธเพียงเพราะรูปลักษณ์ภายนอก
ซึ่งโพสต์ของเธอถูกส่งต่อและแชร์ต่อกันในโลกโซเชียลเป็นจำนวนมาก จนทางบริษัท Dee Set ต้องแสดงความเสียใจและขอรับเธอเข้าทำงานอีกครั้ง แต่ Claire ได้ปฏิเสธไปเนื่องจากเธอได้เซ็นสัญญากับอีกบริษัทหนึ่งที่ยอมรับกับการสักของเธอได้ไปแล้ว
โดยเธอคิดว่า รอยสักไม่ได้มีผลกับความสามารถในการทำงาน และมันไม่ต่างอะไรกับสีผิว รูปร่าง หรือรสนิยมส่วนตัวของแต่ละคน โดยเธอมองว่ามันเป็นเพียงเปลือกนอก แต่ความสามารถ นิสัย ความเก่งเป็นสิ่งที่บริษัทควรพิจารณาในการรับเข้าทำงานมากกว่า ซึ่งก็มีคนเห็นด้วยกับเธอมากมายจนมีการสนับสนุนให้บริษัทเลิกกีดกันคนมีรอยสัก...
ข้อมูลและภาพประกอบจาก "dailymail"