ผู้หญิงชื่อ Kim phuc
คิมฟุค' คือใคร ก็ลองหลับตานึกย้อนไปตอนสงครามเวียดนามซีครับ มีภาพอยู่ภาพหนึ่งที่เผยแพร่ - โด่งดังจนได้รับรางวัลระดับโลก หนังสือพิมพ์บ้านเราก็ยังเอามาลงหน้า ๑ อยู่บ่อยๆ
ภาพที่เด็กหญิงคนหนึ่ง เนื้อตัวล่อนจ้อน ตื่นตระหนกตกใจ ยืนร้องไห้อยู่กลางถนนคนเดียว ท่ามกลางความสับสนอลหม่านของชาวบ้านที่แตกฉานซ่านเซ็นหนีตาย ท่ามกลางควันโขมงจากไฟระเบิดนาปาล์มของสหรัฐ
คิมฟุค วันนี้ คือเด็กหญิงเหยื่อสงครามผู้ 'บ้านแตก-สาแหรกขาด' ครั้งนั้น สิ่งเดียวที่ 'คืนชีวิต' แท้จริงให้กับเธอ ณ วันนี้ คำเดียวสั้นๆ คือ
' อภัย '
'คิมฟุ ค' คือเด็กหญิงชาวเวียดนามใต้คนนั้น ซึ่งช่างภาพอเมริกันได้ถ่ายไว้ ขณะที่เธอและเพื่อนบ้านกำลังแตกตื่นหนีภัย แม้เธอ จะรอดตายจากระเบิดนาปาล์มที่ทิ้งลงหมู่บ้านของเธอ แต่ไฟก็ได้เผาลวกผิวหนังของเธอถึง ๖๕%
เธอ ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลถึง ๑๔ เดือน และผ่านการผ่าตัดถึง ๑๗ ครั้ง กว่าจะหายเป็นปกติ เธอยังโชคดี เมื่อเทียบกับลูกพี่ลูกน้องอีก ๒ คน ซึ่งตายเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
นั่นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๑๕ เมื่อเวียดนามกลายเป็นคอมมิวนิสต์ ๓ ปีต่อมา ก็ไม่มีข่าวคราวของเธอปรากฏสู่โลกภายนอกอีกเลย
แต่ แล้ววันหนึ่งในปี พ.ศ.๒๕๓๙ คิมฟุคก็ได้มาปรากฏตัวอยู่
ต่อ หน้าชาวอเมริกัน ซึ่งเคยผ่านสมรภูมิเวียดนาม
เธอได้รับ เชิญให้มาพูดเนื่องในโอกาสวันทหารผ่านศึก
ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
หลัง จากที่เล่าถึงประสบการณ์อันเจ็บปวดของเธอแล้ว
เธอก็ได้ เผยความในใจว่า มีเรื่องหนึ่งที่เธออยากจะบอกต่อหน้า
นัก บินที่ทิ้งระเบิดใส่หมู่บ้านของเธอ
พูด มาถึงตรงนี้ ก็มีคนส่งข้อความมาบอกว่า คนที่เธอต้องการพบกำลังนั่งอยู่ในห้องประชุมนี้ เธอจึงเผยความในใจออกมาว่า
'ฉันอยากบอกเขาว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ แต่เราควรพยายามทำสิ่งดีๆ เพื่อส่งเสริมสันติภาพทั้งในปัจุบัน และอนาคต'
เมื่อ เธอบรรยายเสร็จ ลงมาจากเวที อดีตนักบินที่เกือบฆ่าเธอ
ก็ มายืนอยู่เบื้องหน้าเธอ เขามิใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว
แต่ เป็นศาสนาจารย์ประจำโบสถ์แห่งหนึ่ง
เขาพูดด้วยสีหน้าเจ็บ ปวดว่า 'ผมขอโทษ ผมขอโทษจริงๆ'
คิม เข้าไปโอบกอดเขา แล้วตอบว่า
'ไม่ เป็นไร ฉันให้อภัย ฉันให้อภัย'
ไม่ ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะให้อภัย โดยเฉพาะกับคนที่ทำร้ายเรา
ปาง ตาย คิมฟุคเล่าว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความทุกข์ทรมาน
แก่ เธอทั้งกายและทั้งใจ จนเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
ได้ อย่างไร แต่แล้วเธอก็พบว่า สิ่งที่ทำร้ายเธอจริงๆ มิใช่ใครที่ไหน
หาก ได้แก่ความเกลียดชังที่ฝังแน่นในใจเธอนั่นเอง
'ฉันพบว่าการบ่มเพาะความเกลียดเอาไว้ สามารถฆ่าฉันได้'
เธอพยายามสวดมนต์ และแผ่เมตตาให้ศัตรู
และ แก่คนที่ก่อความทุกข์ให้เธอ แล้วเธอก็พบว่า
'หัวใจฉันมีความอ่อนโยนมากขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้ฉันสามารถอยู่ได้
โดยไม่ต้องเกลียด'
เรา ไม่อาจควบคุมกำกับผู้คนให้ทำดี หรือไม่ทำชั่วกับเราได้ แต่เรา สามารถควบคุมกำกับจิตใจของเราได้
เราไม่อาจเลือกได้ว่า รอบตัวเราต้องมีแต่คนน่ารัก พูดจาอ่อนหวาน
แต่เราสามารถเลือก ได้ว่า จะทำใจอย่างไร เมื่อประสบกับสิ่งไม่พึงปรารถนา
คิมฟุ ค ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองว่า
'ฉันน่าจะโกรธ แต่ฉันเลือกอีกทางหนึ่ง แล้วชีวิตฉันก็ดีขึ้น'
บท เรียนของคิมฟุค คือ ใน เมื่อเราเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ เราจึงไม่ควรปักใจอยู่กับอดีต แต่เราสามารถเรียนรู้จากอดีตเพื่อทำปัจจุบันและอนาคตให้ดีขึ้นได้
บท เรียนจากอดีตอย่างหนึ่งที่เธอได้เรียนรู้มาก็คือ การอยู่กับความโกรธ เกลียด และความขมขื่น นั้น ทำให้เธอเห็นคุณค่าของการให้อภัย