ชื่อแปลว่า ม้าน้ำ ตัวเหมือน หมูน้ำ แต่เค้าคือ Hippopotamus - พร้อมเจอ เจสซิก้า ฮิบโปน้อยยอดเยาวมาลย์
ชีวิตสัตว์น่ารักจาก oknation.net
วันนี้จะพาเพื่อนจากทวีป อาฟริกามาให้รู้จักกันนะคะ
พี่แกตัวใหญ่มากเลยค่ะ แถมเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งของทวีปเสียด้วย แถ่น แท้นนนนน
พี่ฮิบโป หรือ ชื่อเต็มก็คือ ฮิบโปโปเตมัส นั่นเองค่ะ
Hippopotamus
จ๊ะเอ๋ เค้าคือฮิบโป คำว่าฮิบโป ภาษากรีก แปลว่า ม้า โปเตมัส ภาษากรีก แปลว่า แม่น้ำ เอ๋ แล้วจริงๆ พี่ฮิบโป คือม้าน้ำอ๊ะป่าวเนี่ย ป่ะพวกเรา ไปสืบกันเต๊อะ
นี่คือ สลัดผักฮิบโป ฮิบโป แม้นจะมีหน้าตาคล้ายกับหมู แต่เชื้อสายที่ใกล้เคียงกับพี่ฮิบ กลับกลายเป็นปลาวาฬนะคะ เมื่อราว 54 ล้านปีมาแล้วต้นตระกูลของพวกเค้าแตกหน่อออกเป็นสองสาย สายนึงค่อยๆ กลายพันธุ์ไปเป็นต้นตระกูลปลาวาฬ อีกสายหนึ่งไปเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสี่ขา ก็คือฝั่งต้นสายฮิบโปนั่นเองค่ะ ฮิบโป ตัวใหญ่มากๆ ซึ่งจะแตกต่างกับสัตว์ใหญ่อื่นๆ ตรงที่สามารถปรับตัวได้ดีทั้งในน้ำและบนบก โดยในเวลากลางวันพี่ฮิบจะอาศัยอยู่ในน้ำเป็นส่วนใหญ่ และจะออกหากินในเวลาค่ำคืน ซ่อนตัวได้เนียนมากๆ ค่ะพี่
คุณมาจากสภาไหนคะ หน้าคุ้นเหลือเกิน
หวัดดี นกน้อยหลังฮิบโปเฒ่า ขนาดที่ใหญ่โตบิ๊กเบิ้มของพี่ฮิบตัวผู้ อยู่ที่ราวๆ 1500 - 1800 กิโลกรัม ก็ตันเกือบๆสองตันนั่นแหน่ะ ส่วนหนูฮิบตัวเมียจะเล็กกว่าหน่อยนะคะ ราวๆ 1300 - 1500 กิโลกรัม สเลนเด้อร์กว่าหน่อยนึงเนอะ ส่วนฮิบโปที่เริ่มอายุมากขึ้นสามารถทำน้ำหนักไปแตะอยู่ที่ 3 ตัน ได้สบายๆ โดยเฉพาะฮิบโปตัวผู้ ขนาดจะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และน้ำหนักจะมากขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่มากขึ้นค่ะ ความยาวจากหัวไปถึงบั้นท้ายอันกลมกลึงของพี่ฮิบตัวผู้จะอยู่ที่ 3 เมตรครึ่ง และสูงถึง เมตรครึ่ง อ่า เตี้ยกว่าข้าพเจ้าอีกแหน่ะ ตาหูจมูก ของฮิบโปจะอยู่ส่วนบนของศีรษะที่ใหญ่โต ดังนั้นไม่เป็นการยากเลย ที่พี่ฮิบจะซ่อนตัวอยู่ในน้ำ หรือซุกตัวอยู่ใต้โคลน และโผล่มาแต่ลูกกะตา และจมูกเพื่อหายใจ เวลาอยู่ในน้ำ น้ำจะช่วยให้ร่างกายและผิวหนังของพี่ฮิบเย็น ฮิบโปตัวใหญ่ๆ แทบจะเรียกว่าไม่สามารถว่ายน้ำได้ เพราะใหญ่เกินไป แกก็จะใช้วิธีลอยตัวแทน ส่วนเวลาเคลื่อนที่ในน้ำ จะใช้วิธีถีบตัวจากพื้นน้ำ แต่สำหรับฮิบโปตัวเล็กๆ หรือยังไม่โตเต็มที่ก็ยังพอว่ายน้ำได้บ้าง คือลอยตัวและใช้ขาหลังถีบๆน้ำเอาเพื่อเคลื่อนตัว ฮิบโปจะลอยขึ้นมาบนผิวน้ำเพื่อหายใจทุกๆ 4 - 6 นาที และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ แม้กระทั่งในเวลาหลังปุ๋ยอยู่ในน้ำ พวกพี่แกก็ลอยขึ้นมาหายใจเอง โอ้ววว มหัศจรรย์ใจจริง
ฝูงฮิบโปกลางสายน้ำ ข้าพเจ้าว่าเหมือน อ่างขาหมูมากเล
ฮิบโปกลางน้ำคะ เวลาอยู่ในน้ำรูจมูกจะปิดนะจ๊ะ
ภาพนี้ปลอมเป็นปลาน้อย ตกดึก หรือยามตะวันตกขอบไปแล้ว พี่ฮิบน้องฮิบก็จะออกหาอาหาร โดยการกินหญ้าสั้นๆแถวบ้าน แต่บางครั้งก็เลาะเล็มไปเรื่อยๆ ไกลถึง 7 - 8 กิโลเมตรโน่นแหน่ะ ผิวหนังที่หนามากๆของพี่ฮิบ ก็ออกจะซับซ้อน พี่แกไม่มีต่อมไขมันนะคะ แต่จะมีต่อมที่คอยขับเมือกออกมาปกคลุมผิวเพื่อป้องกันแสงแดด เมือกจะเป็นสีแดงนะคะ หลายคนจึงเทียบว่า ฮิบโปมีเหงื่อออกมาเป็นเลือด แต่จริงๆแล้ว ไม่ใช่ทั้งเหงื่อ และไม่ใช่ทั้งเลือด มันคือเมือกสำหรับกันแดดต่างหาก แต่โดยปกติแล้วพี่ฮิบแกจะคลุกๆกลิ้งอยู่ในโคลนเพื่อหลีกเลี่ยงแดดค่ะ
นี่ตัวอะไร ฮ่าฮ่า ดูๆไปแล้ว เหมือนว่าขาสั้นๆ ของพี่ฮิบไม่น่าจะแบกน้ำหนักอันมหาศาลของพี่ฮิบได้เลยเนอะ ดูแล้วน่าจะแปร่ดดดด ออกด้านข้างไป แต่เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า โครงสร้างกระดูกของพี่ฮิบเนี่ยได้มีการปรับตัวจนสามารถรองรับร่างกายอันหนัก อึ้งได้อย่างสบายๆค่ะ แม้นพี่ฮิบจะดูใหญ่โต อุ้ยอ้าย แต่อัตราความเร็วในการวิ่งบนบกอยู่ที่ 30 - 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (แต่เป็นระยะทางสั้นๆเท่านั้นนะคะ คือไม่กี่ร้อยเมตร) เร็วกว่ามนุษย์อย่างเราๆ ซะอีก และเนื่องจากฮิบโปเป็นสัตว์ที่เรียกได้ว่าก้าวร้าวมากๆ ความเร็ว ผนวกกับฟันอันมหึมา ฮิบโปจึงกลายเป็นสัตว์ที่อันตรายมากที่สุดในทวีปอาฟริกา มีรายงานว่าอิบโปเป็นสัตว์ที่ฆ่าคนมากที่สุด ติดอันดับหนึ่งมานานแล้วค่ะ อ่อ เป็นคู่กัดตลอดกาลกะจระเข้ซะด้วย
อารมณ์เสียป่ะเนี่ย
เวลาฮิบโปขู่ จะอ้าปากกว้างแบบนี้
ดูฟันสิคะ
โห ปาก
บางที มันอาจจะขากรรไกค้างอยู่ก็ได้นะ
พี่มาแล้ว พี่ไม่ชอบ มาขัดใจพี่
นี่ไปขัดใจไรพี่แก รึเปล่าเนี่ย
ฮิบโปน้อยลอยชูช่อ รออรุณค่ะ
แม่กำลังสอนลูกให้ว่ายน้ำค่ะ เมื่อหม่าม้าฮิบคลอดลูกออกมาแล้ว หากเบ่บี๋ฮิบเป็นตัวผู้ละก็ นับว่าอันตรายมากๆ เพราะเป็นการยากไม่น้อยที่ฮิบโปตัวพ่อจะรับเข้ากลุ่ม โดยเฉพาะหากเกิดการขาดแคลนในแหล่งอาหาร หรือจำนวนฮิบโปในฝูงมากเกินไป พ่อจะไม่รับลูกฮิบโปที่เกิดใหม่เลยไม่ว่าจะเป็นลูกชายหรือลูกสาว บ่อยครั้งที่ตัวแม่ตัดสินใจผิด พาลูกตัวน้อยที่เริ่มพอจะว่ายน้ำได้แล้วเข้าฝูง พ่อตัวใหญ่กลับพุ่งเข้าใส่ ไล่ขวิด ไล่งับ จนลูกตายไปต่อหน้าต่อตาแม่ เป็นฉากชีวิตที่สั้น และเศร้ามากๆ แต่บางครั้งแม่ก็ตัดสินใจเข้าทำร้ายพ่อฮิบโปจนตาย เพียงเพื่อป้องกันชีวิตของลูกน้อย
แม่ เข้าปากหนูสิจ๊ะ
ไอ้ตัวเล็กกกกกกก น่าร๊ากมั่กๆ
แม่กับลูกจะอยู่ไม่ห่างกัน
ไม่รู้ส่งกระแสจิตอะไรกันอยู่น้อ ฮิบโปบางตัวมีชีวิตแสนสั้นจากพ่อตัวเอง แต่โดยปกติแล้ว วงจรชีวิตของฮิบโปจะมีอายุยืนถึงราว 50 ปี ฮิบโปตัวที่เคยมีบันทึกว่าอายุยืนที่สุดอยู่ที่ 61 ปีค่ะ ซึ่งตายไปแล้ว เธอชื่อทังก้า เคยอาศัยอยู่ที่สวนสัตว์ในเยอรมัน ข้าพเจ้าเคยไปเดินดูสัตว์ในสวนสัตว์ปักกิ่ง ซึ่ง แทบมองไม่เห็นอะไรเลย ยกเว้นที่บ่อฮิบโป ข้าพเจ้าเห็นฮิบโปกระโจนลงน้ำและว่ายผีเสื้อค่ะ เมื่อเล่าให้เฮียฟังในหลายปีต่อมา เฮียบอกว่า หนูแสนโชคดี เฮียเคยเห็นตอนฮิบโปกำลังอึแสดงพลัง นั่นคือการอึบอกอาณานิคมของตัวเองค่ะ กล่าวคือหางสั้นๆ เล็กๆ ของพี่ฮิบจะหมุนติ้วๆๆๆๆ เพื่อกระจายอึไปเป็นวงกว้าง เฮียว่า โชคดีมาก เฮียไม่ตกอยู่ใต้อาณานิคมในครั้งนั้น จริงๆ แล้วหางพี่ฮิบจะปัดไปปัดมาซ้ายขวาๆ เหมือนที่ปัดน้ำฝนค่ะ ไม่ได้หมุนติ้วๆ แต่นับว่าน่าสะพรึงไม่น้อยเลยทีเดียว
this is a กะโหลก ฮิปโป
จบด้วยท่า ฮิบโปแดดเดียว
ดูรูปพี่ฮิบกันจนหนำ เอาหล่ะ จะพาไปรู้จักน้องหนูฮิบโปรูปโฉมพริ้มเพรากันอีกนางหนึ่งนะคะ เธอชื่อ เจสซิก้า Jessica - The Hippo ดูเธอสิ เธอกำลังนอนพริ้มเชียว
ตาชั้นหวานมั้ยจ๊ะ เจสซิก้า มาจากไหน เป็นใคร อยู่กะใคร ไปรู้จักเธอกันค่ะ เมื่อปี 2000 เกิดน้ำท่วมใหญ่ในประเทศโมซัมบิก ในอาฟริกา เรื่องเริ่มต้นออกจะคล้ายๆ กับน้องอิบโปโอเว่น กะปู่เต่าเอ็มซีเลยเนอะ แต่ไม่เหมือนค่ะ - ย้อนไปอ่านเรื่องโอเว่นได้ที่นี่ค่ะ Owen ฮิบโปน้อยที่พลัดหลง กับ Mzee เต่าชราใจดีเพศผู้ ผู้เป็นแม่ มีฮิบโปท้องแก่ตัวหนึ่งคลอดลูกในน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ฮิบโปจะคลอดลูกในน้ำ แต่ครั้งนี้ไม่ปกติ เพราะกระแสน้ำนั้นเชี่ยวกรากเหลือเกิน ฮิบโปน้อยแรกเกิดเมื่อพ้นจากท้องแม่แล้ว ก็ไหลหลุดไปตามกระแสน้ำและไปติดอยู่ในบริเวณสวนของผู้ชายคนนึง เค้าคือโทนี่
โทนี่รักเจสซิก้ามากๆ
ไม่มีวันหยุด วันพักผ่อน ชีวิตของโทนี่ อุทิศให้กับเจสซิก้าแล้ว
และ เจสซิก้า ก็รักโทนี่มากเช่นกัน โทนี่เป็นชายวัยเกษียณ ที่เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลเขตล่าสัตว์ในประเทศแซมเบียมาก่อน เค้าเคยเลี้ยงลูกชีต้า ลูกจระเข้ ลูกเสือ ลูกช้าง และลูกสัตว์ป่านานาชนิดมาแล้ว ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องยากที่โทนี่จะตัดสินใจเข้าช่วยเหลือชีวิตฮิบโปแรกเกิดตัวนี้ ดูสิ รกแม่ยังติดอยู่ที่ตัวมันอยู่เลย เค้าตั้งชื่อให้เจ้าหนูนี่ว่า เจสซิก้า โทนี่ กับ เจสซิก้า ผ่านช่วงอาทิตย์แรกไปได้อย่างน่าหวาดเสียว เพราะเป็นช่วงที่ยากลำบากในการยื้อชีวิตมากที่สุด เมื่อทั้งสองผ่านไปได้ พวกเค้าก็ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากัน โทนี่ เจสซิก้า เชอรี่ภรรยาของโทนี่ และกอปี หมาน้อยทางซ้ายมือ
เป็นครอบครัวเดียวกัน
เจสซิก้าเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของครอบครัวนี้
พวกเค้าอยู่ร่วมกันด้วยความรัก เจสซิก้า นอนเตียงเดียวกันกับโทนี่ เมื่อโทนี่ทำงาน หรือเอกเขนกอยู่ริมระเบียง เจสซิก้าก็มาคลอเคลียอยู่ด้วย พวกเค้าดื่มกาแฟด้วยกันทุกวัน เจสซิก้าชอบกินมันฝรั่ง และข้าวโพดหวาน และเข้ากับสุนัขหลายตัวของโทนี่ได้ดี
กอปีมีครอบครัวของตัวเองเช่นเดียวกัน และดูท่าทางจะเข้ากันกับเจสซิก้าได้
กินด้วยกัน
งับหัวเด็กๆ
กินหมาเป็นอาหาร ฮ่าฮ่า ล้อเล่น เมื่อเจสซิก้าเริ่มโตขึ้น เตียงใหญ่ของโทนี่เริ่มไม่ไหวแล้ว เค้าจึงให้เจสซิก้าออกไปนอนที่ระเบียง แต่บ่อยครั้งที่โทนี่จะพบว่า เจสซิก้าแอบดอดเข้ามาในห้องแล้วเดินขึ้นเตียงนอนอย่างสุขใจในยามที่โทนี่ออก ไปทำงานด้านนอก
ฉากดอดเข้าบ้านของเจสซิก้า
เตียงนอนอันแสนคุ้นเคย
โทนี่ เปรยว่า เตียงผม แอ่นเป็นกล้วยแล้วครับ
นี่ต่างหาก ที่นอนประจำของเจสซิก้า และนั่นที่นอนประจำของกอปี โทนี่แต่งงานกับ ผู้เชี่ยวชาญการนวดอโรมาเทอราพี เธอก็รักและหลงไหลในตัวเจสซิก้าเช่นเดียวกัน ทุกวันในตอนเย็น เจสซิก้าจะได้รับการนวดน้ำมันทั่วเรือนร่างจากภรรยาของโทนี่
เชอรี่ ก็หลงไหลและรักในตัวของเจสซิก้าไม่น้อยไปกว่าโทนี่
ฟังเพลงคลาสสิกแล้วหลับไป โทนี่เล่าว่า เมื่อ 3 ขวบครึ่ง โซฟาผมพังไป 1 ตัว และพังไปอีก 1 ตัว หลังจากนั้นก็เตียงครับ เจสซิก้าอายุ 7 ขวบแล้ว และเรียนรู้ที่จะเปิดประตูบ้านยามที่โทนี่ไม่อยู่ แม้นว่าจะล๊อกบ้านไว้ หากมีกุญแจเสียบคาอยู่ เจสซิก้าก็เปิดเข้าไปได้อย่างง่ายดาย เจสซิก้าชอบนอนหน้าทีวี ข้างๆ มีหมาของโทนี่ อิงแอบอยู่ใกล้ๆ ฟังเพลงโอเปร่า และคลาสสิก ที่ภรรยาของโทนี่ชอบ แล้วหลับพริ้มไป
เบาะนอนกว้างพอเสมอสำหรับเพื่อนรัก ทุกวันนี้ มีคนมาเยี่ยมเจสซิก้าไม่เว้นแต่ละวัน เรื่องราวของเจสซิก้า ดังมากในเกาหลี และญี่ปุ่น เจสซิก้า มีแฟนแล้ว ชื่อว่าเฟรด ตอนนี้เฟรดย้ายมาอยู่กับเจสซิก้า แต่ยังจีบไม่ติดค่ะ เจสซิก้าคงเล่นตัวอยู่นิดนึง เพราะลึกๆแล้ว คงแอบมีใจอยู่ไม่น้อย
เอาหล่ะ ราตรีสวัสด์นะ ทุกๆคน