ใน บรรดาฆาตกรและกลุ่มคนโรคจิตทั้งหลายมักจะมี “ปมในใจ” ที่เป็นแรงผลักดันให้เกิดความรุนแรงทางด้านพฤติกรรม แต่ด้วยวัฒนธรรมศีลธรรมทำให้มนุษย์ไม่สามารถแสดงสันดานดิบตรงนี้ออกมาได้ ส่วนใหญ่ฆาตกรจึงมักเป็นคนเก็บกดมากๆ เข้าเมื่อระเบิดจึงได้เปิดการฆาตกรรมทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ
แต่ สำหรับ ANSEL GAISERIC ที่เรียกตัวเองว่า “ศาสดาแห่งวงการฆาตกรรม” ที่ถูกเรียกว่า Nosferatu แล้วคงไม่มีคำจำกัดความใดสามารถอธิบายถึง “ความมีอยู่” ของปีศาจตัวจริงคนนี้ได้
ประวัติ NOSFERATU ANSEL GAISERICจาก บันทึกของบาทหลวง จอร์น วิลลอง ถูกค้นพบหลังจากพบศพของบาทหลวงจอร์นโดนตรึงอยู่บนไม้กางเขนในโบสถ์ โดยลักษณะที่พบเหมือนถูกจัดเลียนแบบคล้ายพระเยซูถูกตรึงกางเขน บริเวณช่องท้องถูกของมีคมแหวะไส้สาวไปผูกบนศีรษะคล้ายผ้าคาดหัว
ชาย ผู้นี้เรียกตัวเองว่า NOSFERATU ANSEL GAISERIC (นอสเฟอร์ราตูว์ แอนเชล ไกเซริค) จำสัญชาติตัวเองไม่ได้เพราะกำพร้า อ้างว่ามีชีวิตมากว่า ๑๐๐ ปีแล้ว เดินทางร่อนเร่ทั่วประเทศฝรั่งเศส เพื่อศึกษาหาความรู้และฆ่าเวลากับการมีชีวิตเยี่ยงคนไร้ตายแบบนี้ไปเรื่อยๆ โดย ANSEL บอกว่า รู้วิธีการเป็นอมตะมาจากปีศาจตนหนึ่งที่บังเอิญเจอที่บอกว่าการเป็นอมตะมี หลายวิธี ทั้งการกินเนื้อเงือก, ดื่มโลหิตของนกไฟ, คงชีวิตในรูปแบบวิญญาณ (ตรงนี้ผู้เขียนเข้าใจว่าคงหมายถึงการฝึกสมาธิและถอดจิตได้) บูชายันต์บิดามารดาให้แก่ปีศาจ แต่ที่ง่ายที่สุดคือการกินวิญญาณมนุษย์ ซึ่งทำได้โดยทำสัญญากับปีศาจ เจ้าตัวบอกชื่อปีศาจที่ตนเจอและทำสัญญาณด้วยว่า
ชื่อ เบลซีบับ (Baal Zebul อันนี้ผมไปค้นเจอใน http://en.wikipedia.org/wiki/Beelzebub ว่าเป็นปีศาจผู้ครองบาปข้อที่ ๒ คือบาปแห่งความตะกละในบาปทั้ง ๗ แห่งศาสนาคริสต์ในลัทธิโซโลมอน มักจะปรากฏกายในร่างของแพะ หรือ วัวตัวผู้ที่มีหางยาวเป็นมังกรแต่ที่ปรากฏตัวบ่อยที่สุดก็ในร่างแมลงวัน ยักษ์ เป็นผู้ที่ปราศเปรื่องที่สุดในบรรดาปีศาจ เมื่อตอนที่พ่ายแพ้ในสงครามเจเนซิสถูกเนรเทศให้ไปอยู่ยังดาวเมอร์คิวรี่)
บุคลิก ของ ANSEL ผมสีดำ คิ้วสีดำ ตาสีเทา ไว้หนวดเคราเหมือนขุนนาง ผิวขาว ตัวไม่สูงไม่ใหญ่เหมือนคนปกติทั่วๆ ไป ออกจะผอมไปนิดๆ เสียด้วยซ้ำ ดูผ่านๆ เหมือนพวกขุนนางที่ใส่เสื้อผ้าราคาถูกมาสารภาพตามปกติ
แต่เหตุที่ได้ มานั่งพูดคุยกับพ่อเพราะ ANSEL รู้สึกถูกชะตาและยื่นข้อเสนออีกว่า อยากมีชีวิตอยู่ในตัวเขาไหม ซึ่งตรงนี้เองที่พ่อรู้สึกถึงความไม่ปกติของชายผู้นี้ แต่เมื่อคุยด้วยสักครู่กลับรู้สึกอยากคุยด้วยเรื่อยๆ พ่อจึงอยากรู้ถึงเรื่องราวของ ANSEL ที่บอกว่ามีชีวิตร่วม ๑๐๐ ปีนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เพราะจริงๆ แล้ว ANSEL อาจเป็นขุนนางตกอับที่มีปัญหาทางจิต พ่อจึงได้นัด ANSEL มาในวันนี้เพื่อจะได้บันทึกเรื่องราวเผื่อพ่อจะช่วยชี้นำจิตวิญญาณให้เดินมา ถูกทางได้
ANSEL เล่าว่านับตั้งแต่ทำสัญญากับปีศาจ วันแรกคิดถึงเรื่องหาเงินก่อนเพราะฐานะก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก ไอ้จะทำมาหากินก็ธรรมดาไปอยากลองทำในสิ่งที่ตัวเองไม่กล้าบ้างจึงเริ่มปล้น รายคน ไม่กี่รายก็ถึงรู้ว่าตัวเองเป็นอมตะจริงๆ เพราะเหยื่อที่ปล้นเกิดต่อสู้แล้วครั้งนี้เองที่ ANSEL ตายครั้งแรกด้วยการโดนมีดแทงท้อง ความเจ็บปวดที่โดนของมีคมกระซวกผ่านกล้ามเนื้อท้อง วินาทีที่เลือดไหลออกจากช่องปากแผล กลิ่นเหล็กและความอุ่นของเลือดกลับทำให้ ANSEL รู้สึกมีความสุขท่ามกลางความเจ็บปวด นับแต่นั้น ANSEL จึงเริ่มหาความสุขกับการถูกฆ่า และการทรมารตัวเอง
บันทึกจบลงด้วย เนื้อหาขาดๆ เกินๆ ที่เขียนทิ้งไว้ว่า “ศรัทธาที่แท้จริงนั้น ไม่ต่างอะไรกับการหลงเชื่อในเรื่องบางเรื่องอย่างหัวปักหัวปำ และเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเรื่องที่พูดเป็นความจริงไหมนั่นคือพิสูจน์ด้วย ความรู้สึกจริงๆ จากกายเนื้อเพียงอย่างเดียว” สันนิฐานว่าที่นี่จุดเริ่มของสภาพศพของบาทหลวง จอร์น วิลลอง ในเวลาต่อมา
การ เสพสุขด้านความเจ็บปวดที่สุดวิปริต(เนื้อหาเรื่องนี้ถูกบันทึกโดย ผู้ชายที่อ้างว่าตนเป็นคนสนิทของ ANSEL ที่ใช้ชื่อว่าแจ๊คแห่งเกาะอังกฤษ)
ความ เจ็บปวดที่มนุษย์ปุถุชนได้รับไม่ว่าใครก็ไม่สามารถลิ้มรสได้ยาวนานสักเท่า ไหร่นัก ซึ่งจุดนี้มีหลายสาเหตุ เช่น สติหลุดลอย อันเนื่องจากไม่คุ้นเคยกับความเจ็บปวดสติจึงช็อก ร่างกายรับไม่ได้อย่างการเจาะคอหอย คนปกติโดนเจาะคอหอยทะลุถึงก้านคอจะมีชีวิตรับรสเจ็บปวดได้ไม่ถึง ๑ นาที สิ่งที่อาจารย์สอน (แจ๊คเรียก ANSEL ว่าอาจารย์) คือการทรมานเหยื่อให้ได้รับรสชาติสุนทรียะความเจ็บปวดให้ยาวนานที่สุด เช่นการผ่าท้องแหวะไส้ เหยื่อจะไม่ตายทันทีและสามารถเดินเหินพูดคุยได้ถ้าประคองสติได้จาก ประสบการณ์ยาวนานกว่า ๑๐ นาทีเป็นต้น โดยตนคอยจดบันทึกข้อมูลด้านสรีระศาสตร์โดยตลอดเพราะสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิต ประจำวัน (จากประโยคนี้จึงคาดว่าผู้บันทึกอาจเป็นแพทย์)
อาจารย์ ทุ่มเทกับการศึกษาศาสตร์แห่งการทรมานอย่างหามรุ่งหามค่ำ ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกนับถือในความทุ่มเทของอาจารย์ยิ่งนักจึงขออาสาร่วมมือ เป็นส่วนหนึ่งในการฆาตกรรมในครั้งนี้ด้วย สิ่งที่ตนพอจะทำได้คือการ “หาเหยื่อ” ซึ่งเหยื่อที่หาง่ายที่สุดคือ “โสเภณี” เพราะแค่เอาเงินล่อก็สามารถพาไปยังที่ลับตาได้อย่างไม่ยากเย็น
ข้าพเจ้า ร่วมมือการทรมารและศึกษาศาสตร์แห่งความงามการลิ้มรสสุนทรียะด้านนี้มากจน เริ่มรู้สึกหลงใหลทั้งด้านอารมณ์ที่เหยื่อแสดงออกมาและความสวยงามของอวัยวะ ภายในที่หาดูยากจนเริ่มรู้สึกเสพติดการชำแหละคน จนอาจารย์ชื่นชมและตั้งฉายาให้ว่า แจ๊ค ยมทูตแห่งเกาะอังกฤษ (Jack the Reaper) แต่หลังจากอาจารย์แยกตัวออกเดินทางตนจึงเปลี่ยนจาก Reaper (ยมทูต) เป็น Ripper (ชำแหละ) แทน
ความรู้ในรอบหลายร้อยปี(ถูก ค้นพบจากการให้ข้อมูลของชายที่อ้างว่า ANSEL เป็นคนสอนให้เล่นเกมส์แกะรหัส จากหนังสือเกมส์ลับสมอง ในหน้าขอบคุณรองปกท้ายเล่มประจำปี ๑๙๗๘ USA)
จาก คำบอกเล่าของชายอ้วนคนหนึ่งที่อ้างว่ารู้จักกับ ANSEL โดยบังเอิญและได้คุยกันในสวนสาธารณะถึงเรื่องเกมส์ต่างๆ ตนอึ้งมากกับเกมส์แปลกๆ ในหลายๆ ประเทศที่ออกมาจากปากชายผู้นี้ แต่โดยส่วนตัวแล้วตนชอบเกมส์ถอดรหัสลับและได้รับคำสอนถึงเทคนิคการถอดรหัสไป จนถึงการตั้งคำถามเจ๋งๆ อย่างการดึงประโยคคำคมจากบุคคลสำคัญมาใช้เพื่อโยงเข้าไปสู่นัยยะที่แท้จริง การใช้สัญญาลักษณ์เพื่อเป็นการใบ้คำตอบให้แก่ผู้ร่วมเล่นและทริกอีกมาก มายอย่าง การสร้างบุคลิก หลอกผู้คน การเปลี่ยนโฉมอย่างง่าย การสร้างภาพมายาโดยอาศัยสภาพแวดล้อม หลังจากวันนั้นตนก็ไม่ได้พบกับ ANSEL อีกเลย แต่ก็สามารถรู้ได้เลยว่า ANSEL ได้ติดต่อกับตนผ่านหน้าหนังสือพิมพ์โดยผ่านคดีฆาตกรรมรหัสลับ ซึ่งตนก็ได้ตอบโต้พูดคุยกับ ANSEL ไปเหมือนกันโดยผ่านหน้าหนังสือพิมพ์เช่นเดียวกัน
ทำไมต้องฆ่าคน
จาก การวิเคราะห์ของกลุ่มคนที่เชื่อการมีอยู่ของ ANSEL ซึ่งส่วนใหญ่มักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ANSEL เป็นฉายาที่มอบให้จากรุ่นสู่รุ่น เช่น นาย A ชื่อ ANSEL หลังจากนั้นตั้งชื่อให้ลูกว่า ANSEL จูเนียร์ หลังจากนั้น ANSEL จูเนียร์เกิดหลงใหลได้ปลื้มกับผลงานของพ่อตัวเองจึงตัดคำว่าจูเนียร์ทิ้งสืบ ทอดฉายาของพ่อตนและฟูมฟักลูกของตนให้สืบเชื้อสายนี้ต่อไป แต่ข้อสันนิฐานนี้ถูกปัดตกไปเพราะส่วนใหญ่มักไม่เชื่อว่าพ่อคนไหนจะบ่มเพาะ ลูกตนให้เป็นฆาตกรต่อเนื่องหรือสร้างครอบครัวฆาตกรขึ้นมา
ข้อสันนิ ฐานที่น่าสนใจอีกข้อคือ ANSEL อาจเป็นชื่อองค์กรมือสังหารที่นำชื่อผู้นำหรือผู้ก่อตั้งมาใช้เป็นชื่อ องค์กรเหมือนสัญญาลักษณ์เพื่อให้ผู้ว่าจ้างได้รับรู้แล้วว่า เป็นฝีมือของคนในองค์นี้ทำ โดยองค์กร ANSEL ขยายฐานไปหลายประเทศและรูปแบบการฆ่าจะเอื้ออำนวยต่อลักษณะภูมิประเทศและการ สร้างสัญญาลักษณ์ประจำตัวขึ้นอย่าง อเมริกาคือทิ้งรหัสหลังจากสังหารเหยื่อเสร็จ บ้างก็โทรแจ้งตำรวจเลย (กวนตีนจริงๆ) หรืออังกฤษที่ใช้วิธีเขียนจดหมายถึงชื่อเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ว่าจะประเทศไหนก็ตามถึงแม้ลักษณะของ “สัญญาลักษณ์ของ ANSEL” จะแตกต่างกันแต่สิ่งที่เหมือนกันคือ พฤติกรรมการฆาตกรรมและการส่งสัญญาลักษณ์จะซ้ำๆ อยู่ตลอดไม่เปลี่ยนแปลง (สงสัยกลัวผู้ว่าจ้างจำไม่ได้คงคล้ายๆ การเปลี่ยนลายเซ็นมั้ง)
กรณี ที่ ANSEL มีตัวตนจริงๆ และเป็นอมตะจริงๆ การฆ่าคนอาจเป็น “ข้อแลกเปลี่ยน” ที่ได้ทำสัญญาไว้กับปีศาจก็เป็นได้ เพราะจากประวัติศาสตร์มีร่องรอยการ “เกี่ยวโยง” ของ ANSEL กับฆาตกรที่ยังจับตัวไม่ได้หลายคนและที่สำคัญคือหลายยุค
มีความเห็น ที่พูดถึง “ลูกศิษย์ของ ANSEL” อย่างกว้างขวางถ้านับตามบันทึกที่เป็นลายลักอักษรนับตามลักษณะคดีและคำ สารภาพของฆาตกรโรคจิตบางส่วน ANSEL มีลูกศิษย์ประมาณ ๗ คนเป็นอย่างต่ำ และอย่างมากไม่เกิน ๓๑ คน มีโครงการพิสูจน์ความมีอยู่ของ ANSEL โดยการพยายามตีโจทย์รหัสจำนวนตัวเลขของเหยื่อที่คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของ ANSEL ไปจนถึงตัวเองลูกศิษย์ด้วยว่าต้องสื่ออะไรให้แก่ประวัติศาสตร์ แต่โครงการนี้ก็ล้มเหลวไปเพราะตัวเลขที่ได้มานั้นไม่แน่นอน
นอสตราดามุสกับ Nosferatu ANSEL GAISERICตาม ที่ทราบกันว่านอสตราดามุสได้ทิ้งคำทำนายไว้ในโลกมากมาย มีทั้งเกิดขึ้นแล้วและยังไม่ได้เกิด แต่ในบันทึกของนอสตราดามุสได้พูดถึง ANSEL ด้วยเช่นกันเพียงแต่ไม่ได้ถูกบันทึกลงคำทำนาย เหมือนกันว่านอสตราดามุสได้เคยพูดคุยกับ ANSEL และเขียนถึงความประทับใจทีได้พบชายที่มีความเป็นอมตะ ว่ากันว่า ANSEL นี้เองที่สอนการล่วงรู้อนาคตด้วยการถอดจิตให้แก่นอสตราดามุส
การเดิน ทางทั่วโลก
ไม่ มีใครสามารถยืนยันได้เลยว่า ANSEL เดินทางไปกี่ระเทศ ทั่วโลกหรือไม่และเคยมาเยี่ยมเยียนพี่ไทยไหม แต่ละแวกเอเชียที่ค่อนข้างเชื่อถือได้ว่า ANSEL เคยมาได้แก่ จีน, ออสเตรียเรีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี, พม่า, อินเดีย ซึ่งประเทศที่เขียนนี้มีเรื่องราวการมีอยู่ของ ANSEL ซึ่งมันยาวมากจะขอนำเสนอต่อในภาค ๒ (มีแบ่งเป็นประเทศๆ และการถูกพูดถึงของ ANSEL ผ่านปากบุคคลสำคัญในบางประเทศทั้งเชิงนัยยะและตรงๆ)
สิ่งที่ บ่งบอกถึงความเป็น Nosferatu ANSEL GAISERIC เหยื่อ ถูกสังหารด้วยของมีคมเท่านั้น (จะมีบ้างบางกรณีที่ถูกสังหารด้วยอาวุธอื่น แต่ได้ถูกวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญแล้วว่า น่าจะเป็นฝีมือของฆาตกรคนอื่น)
ANSEL ไม่ข่มขืน เพราะมีความสุขในการทรมานมากกว่า เหมือนกับว่าช่วงเวลาแห่งความกำหนัดนั้นไม่หรรษาไม่ตื่นเต้นเท่ากับการ สังหารคน และระยะเวลาชั่วกัปชั่วกัลป์นั้นทำให้ความต้องการทางเพศลดน้อยลง (เหมือนกับอยู่มานานแล้วตายด้านน่ะ)
อวัยวะบางชิ้นของเหยื่อหายไปแบบ ไร้ร่องรอย และไม่ซ้ำกันซึ่งหากไม่สังเกตจริงๆ เหมือนหายด้วยสาเหตุอื่นเช่น ถูกกระหน่ำแทงด้วยของมีคมอย่างบ้าคลั่งจนเศษเนื้ออวัยวะกระเด็นหาย หรือเศษเนื้ออวัยวะหายไประหว่างการเคลื่อนย้ายศพ (ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์ถึงลักษณะศพว่าหากรวบรวมอวัยวะที่หายไปจะสามารถ สะสมได้เป็นคนหนึ่งคนพอดี แต่ใช้เวลาในการฆ่ายาวนานถึง ๕ – ๑๐ ปี อาจเป็นไปได้ว่าอาจเป็นหนึ่งในข้อแม้ในการทำพิธีกรรมที่ ANSEL ได้ทำสัญญากับปีศาจก็ได้)
ศาสดาแห่งวงการฆาตกรรม
แม้ ในปัจจุบันร่องรอยของ ANSEL ก็หายไป เจือจางลงไป แต่สิ่งที่ละม้ายคล้ายฝีมือของ ANSEL ก็มีให้เห็นบ้างประปรายตามประเทศต่างๆ ที่เกิดการฆาตกรรมด้วยของมีคมและตามจับตัวฆาตกรไม่ได้ แต่สิ่งที่ ANSEL ทิ้งเอาไว้นั่นคือ “แรงบันดาลในฐานะตำนานฆาตกรผู้เป็นอมตะ” ที่มีความใกล้เคียงกับคำว่า “ปีศาจ” มากที่สุด ฆาตกรที่เห็นได้ชัดว่า ANSEL เป็นแรงบันดาลใจเช่น Charles Milles Manson, Gilles de Rais (เชื่อว่าได้สังเวยเด็กให้กับปีศาจตนเดียวกัน), Erzsabet Bathory (ว่ากันว่า ANSEL เป็นผู้ออกแบบอุปกรณ์ทรมานที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง Iron Maiden), The Black Dahlia, The Zodiac Killer, Jack The Ripper, The Boston Strangler, The Green River Killer (อาจเป็นฉายาที่ ANSEL ใช้ในช่วงระยะเวลานั้น) ฯ
บุคคลที่อื่นที่ถูกเรียกว่าเป็น อมตะนอก จาก ANSEL แล้วยังมีผู้อื่นอีกที่ได้ชื่อว่าเป็นอมตะอย่างในประเทศอย่าง พระครูเทพโลกอุดร ในอังกฤษก็มีเรื่องราวของเหล่าผีดิบผีดูดเลือดแค่นั่นเป็นเพียงนิยายมากกว่า นอกจากนี้บุคคลที่เป็นอมตะยังมีอีกมากมายอย่างในตำนานปรัมปราทั่วโลก เช่น รามเกียรติ์ ทศกัณฑ์ ยักษ์ หนุมาน เทวดา โอ้ยยยยยยเพียบ หรือพวกสัตว์เทพอย่าง มังกร กิเลน เสือขาว เต่าดำ วิหคเพลิง แต่ที่มีการพิสูจน์และยืนยันแล้วว่าสิ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะนั้นมีจริงๆ ก็มีอย่างแมงกะพรุนขนาดจิ๋วชื่อ Turritopsis nutricula เป็นต้น
ทุกวันนี้ก็ยังคงมีชีวิตอยู่????โดย ส่วนตัวผู้เขียนก็อยากจะถาม ANSEL เหมือนกันว่าชีวิตอมตะมันดีตรงไหน มีความสุขไหมกับการได้เห็นโลกแปลงไปต่อหน้าต่อตา ความรู้มากมาย ประสบการณ์จริงที่สะสมมายาวนานได้ให้อะไรบ้าง เจ็บปวดไหมที่ได้เห็นคนรู้จัก คนที่เรารักตายไปตามอายุไข เบื่อไหมที่ต้องอยู่แบบไร้ตายเช่นนี้ เพราะโดยส่วนตัวแล้วแรกๆ ชีวิตอมตะคงจะสนุกสนานตื่นเต้นดี แต่มันคงน่าเบื่อมากหากร้อยปีผ่านไป พันปีผ่านไป หมื่นปีผ่านไป ทุกอย่างที่พอจะทำได้ก็ทำไปหมดแล้วและตอนนั้นจะมีชีวิตอมตะไปเพื่ออะไร และนี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ ANSEL หยุดการฆาตกรรมเอาไว้และหายเข้ากลีบเมฆจะมีเพืยง “ร่องรอย” ที่คล้ายๆ ฝีมือของ ANSEL ทิ้งไว้บ้างประปรายเท่านั้น ซึ่งก็มีการพูดถึงบทสรุปอีกเหมือนกันว่าเหตุที่ ANSEL หายไปเพราะเขาเบื่อหน่ายกับความตื่นเต้นในการฆ่าคนแล้ว บ้างก็บอกว่าไปบวชเป็นพระในลัทธิศาสนาเซ็น บ้างก็ว่าเร้นกายไปยังสถานที่เงียบสงบ แต่ความคิดเห็นที่สนับสนุนมากที่สุดคือ ANSEL มีชีวิตกลมกลืนปกติแถมมีการบอกด้วยว่า ANSEL เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลเล่นอินเตอร์เน็ตเหมือนคนทั่วๆ ไปในสังคมและออกฆ่าคนเพื่อกินวิญญาณตามที่ให้สัญญากับปีศาจเท่านั้น
ถ้า ANSEL ชอบเล่นเนตจริงๆ เจอบทความนี้ก็ส่งอีเมล์หาผมด้วยนะ ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณเยอะเลยล่ะ แต่อย่ามาหาที่บ้านนะครับ กูกลัวววววววว ๕๕๕๕๕
เรื่องน่าสนใจของ Nosferatu ANSEL GAISERIC
๑ ชื่อ GAISERIC ได้ถูกนำไปใช้เป็นตัวละครการ์ตูนเรื่องหนึ่ง แถมเป็นปีศาจอมตะเช่นเดียวกัน การ์ตูนชื่อ Berserk
๒ รูปประกอบผู้วาดเป็นนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นที่ใช้นามแฝงว่า “อินาริ” ที่อ้างว่าได้เคยพบตัวจริงและพูดคุยกับแอนเชลโดยตรง
๓ Nosferatu เป็นคำที่ใช้เรียกของบุคคลที่เป็นอมตะ ฉะนั้นชื่อจริงๆ ของ ANSEL จะมี ๒ ชื่อนั่นคือ ANSEL GAISERIC ไม่ใช่ชื่อ Nosferatu ANSEL GAISERIC