สวนสนุกแห่งนี้ก่อตั้งมาในปี 1853 !! ประมาณ 160 กว่าปีมาแล้ว!!! แม่เจ้า! นานมากเลยครับ แต่ตรงนี้ขอชื่นชมอย่างหนึ่งว่าพนักงานทุกคนแม้จะมีไม่มาก แต่ก็บริการแขกทุกคนได้ดีมาก
เดือนเมษายนที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปเที่ยวเซ็นโซจิ เป็นครั้งที่แปดร้อยเจ็ดสิบสาม (ตัวเลขโดยประมาณ เพื่อแสดงให้เห็นว่าไปบ่อยมากกก) และด้วยความที่ไปแถวนั้นค่อนข้างบ่อยเลยรู้สึกเบื่อๆ ครับ อยากหาอะไรที่ไม่เคยไปและไม่เคยทำแถวนั้นบ้าง
พูดตรงๆ ว่าพอได้ยินคำว่า Asakusa ปุ๊บ ภาพในหัวก็มีโคมแดงลอยมาทันที ดังนั้นผมจึงตระหนักได้ว่าแถวนี้มันไม่น่าจะมีแต่วัดและโคมแดง มันน่าจะมีอะไรที่ดึงดูดอีกสิ! เดินไปเดินมาเลี้ยวจากเซ็นโซจิไปประมาณ 10 นาที ผมก็ได้พบกับสวนสนุกเก่ามากแห่งหนึ่ง ผมไม่รอช้า.. รีบเดินไปตรงนั้นทันที!
มองจากด้านนอกก็จะเห็นเสานี่ล่ะครับ จากที่ไกลๆ เลย เปิดไฟเด่นตระหง่านอยู่ราวกับพยายามท้าทายโตเกียวสกายทรี ฮ่าๆ สวนสนุกแห่งนี้เก่ามากกกก ครับ และก็เล็กมากด้วย จะให้เปรียบเทียบก็คือขนาดประมาณลานหน้าเซ็นทรัลเวิร์ลแค่นั้นเอง และคนก็ไม่ค่อยจะมีครับ
จากการหาข้อมูลพบว่าสวนสนุกแห่งนี้บอกว่าพวกเขาเป็นสวนสนุกแห่งแรกของญี่ปุ่น ก่อตั้งมาในปี 1853 !! ประมาณ 160 กว่าปีมาแล้ว!!! แม่เจ้า! นานมากเลยครับ แต่ตรงนี้ขอชื่นชมอย่างหนึ่งว่าพนักงานทุกคนแม้จะมีไม่มาก แต่ก็บริการแขกทุกคนได้ดีมาก บางคนก็เดินเข้ามาแต่ไม่ได้เล่น เหมือนมาเก็บข้อมูล หรือกระทั่งมีคนเถ้าคนแก่มากับลูกหลานๆ ราวกับมารำลึกความหลังของพวกเขา ดังนั้นพนักงานนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวก ยังต้องทำหน้าที่เป็นไกด์ไปโดนปริยายครับ
สมัยก่อน Hanayashiki เปิดตัวด้วยการเป็นสวนนกสวนดอกไม้ครับ ดังนั้นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของสวนสนุกแห่งนี้ก็คือการมีดอกไม้และตุ๊กตาประดับตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม คนที่มาเล่นก็จะได้พักผ่อนหย่อนใจตามไปด้วย และรถไฟเหาะและตัวหอคอยก็เป็นไฮไลท์ของที่นี่ครับ สมัยก่อนสองสิ่งนี้น่าตื่นตาตื่นในมาก แต่น่าเสียดายวันที่ผมไป ไม่มีคนไปเที่ยวเลย จึงไม่มีโอกาสได้เห็นหอคอยนี้ถูกใช้งานครับ (ผมกลัวความสูงครับเลยไม่ได้ไปเล่น)
ภาพด้านบนนี้คือรถไฟเหาะ!!! มีคนเล่นทั้งหมด.. 1 คน คือผมเอง =*= สภาพค่อนข้างเก่าครับ แต่ผมคิดว่ามันก็สนุกดีนะ ด้วยข้อจำกัดด้านสถานที่ ผมว่าเขาทำอย่างสุดความสามารถแล้วและมันออกมาไม่เลวเลยด้วย ในสมัยหลายสิบปีที่แล้ว ผมเชื่อว่ารถไฟเหาะนี้ต้องมีคนต่อคิวยาวไม่ต่างจากดิสนีย์แลนด์ในปัจจุบันแน่นอน
ด้านบนคือผังของสวนสนุกครับ ทำออกมาได้สวยงามมาก ส่วนหนึ่งเพราะสวนสนุกแห่งนี้ดูแลโดยบริษัท BANDAI เป็นบริษัทชื่อดังที่คนไทยน่าจะรู้จักกันดี เขาพยายามเอาคาร์แรกเตอร์ และหากิมมิคมาให้กับสวนสนุกเสมอ ในช่วงที่คนน้อยๆ เขาก็จะมีโครงการให้คนร่วมสนุก เล่นการเปิดสอนคอร์สการเป็นนินจา หรือสำหรับผู้หญิงก็จะมีคอร์สสอนการจัดดอกไม้ หรือกระทั่งพิธีชงชาแบบโบราณก็มีการจัดสอนและจัดแสดงในที่แห่งนี้เช่นกัน
ด้านบนคือส่วนหนึ่งของการตกแต่งครับ มีดอกไม้ มีตุ๊กตา ฯลฯ และสิ่งหนึ่งที่ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีในสวนสนุกแห่งนี้ก็คือ “มวยปล้ำ” ครับ! ที่นี่มีมวยปล้ำซะด้วย คือสวนสนุกทั่วไปจะมีพาเหรด แต่ที่นี่เป็นมวยปล้ำ โดยจุดเด่นคือนักมวยปล้ำทุกคนจะใส่หน้ากากปล้ำ เป็นแฟนตาซีกันหมด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้สวนสนุกแห่งนี้แตกต่าง และช่วยเรียกคนเข้ามาในสวนสนุกได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ สามารถชมตัวอย่างได้จากวีดีโอนี้
ตั๋วเข้าที่สวนสนุกแห่งนี้ราคา 1,000 เยน และมีค่าเครื่องเล่น 2,300 เยน (เหมา) ต่อหนึ่งวัน รวมแล้ว 3300 เยน ด็ค่อนข้างสูงหากเทียบกับว่าราคาไม่ต่างจากสวนสนุกใหม่ๆ อย่าง Tokyo Dome City ที่ทันสมัยกว่า แต่อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญของ Hanayashiki อาจไม่ใช่เครื่องเล่นที่ยอดเยี่ยม แต่เป็นตำนานและ “ความหลัง” เพราะพวกเขาเชื่อว่ายังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังโหยหาอดีต บางทีเราก็เห็นคนอายุเยอะๆมาเล่นร่วมกับเด็ก เพราะสมัยก่อนเขาไม่มีโอกาสได้มา
สิ่งเหล่านี้คือความประทับใจที่ความทันสมัยให้พวกเขาไม่ได้ครับ ผมเองนั้นถึงแม้จะเดินอยู่ในสวนสนุกแบบแทบจะไม่มีคน แต่ผมก็ยังยินดีที่ได้ทราบว่าโดยปกติแล้วสวนสนุกยังมีคนมาแวะเวียนอยู่เรื่อยๆ และพวกเขาจะสามารถคงอยู่ได้อีกนานโดยไม่ต้องกังวล เพราะนอกจากพวกเขาจะมีหน้าที่รับผิดชอบความสุขของเด็กๆ พวกเขายังมีหน้าที่ปกป้องความทรงจำของคนที่โตแล้วอีกด้วย… น่าประทับใจไหมล่ะครับ? ดังนั้นหากใครมีโอกาสอย่าลืมไปย้อนความทรงจำ กับสวนสนุกแห่งแรกของแดนอาทิตย์อุทัยกันนะครับ รับรองว่าจะอิ่มอกอิ่มใจกลับมาแน่นอน
เรื่องโดย : ปูมิ www.marumura.com