รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วแวมไพร์มีจริงบนโลกไม่ใช่เรื่องลี้ลับอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่มีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้มนุษย์กลายเป็นผีดูดเลือด !?
จำกันได้หรือไม่ ว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน เกิดคดีสุดสะเทือนขวัญในประเทศตุรกี มีชายคนหนึ่งถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่าผู้อื่น โดยวิธีการที่เขาลงมือนั้นไม่ต่างอะไรเลยจาก "ผีดูดเลือด" โดยการใช้มีดไล่แทงและพยายามดูดเลือดจากแผลของเหยื่อ
จากการเปิดเผยของคนร้ายรายนี้ ได้ให้ข้อมูลว่า ในเวลาที่เขารู้สึกกระหายเลือด บางครั้งเขาเริ่มต้นจากการกรีดแขนและหน้าอกตัวเองเพื่อดื่มเลือด หรือให้พ่อไปซื้อเลือดมาจากธนาคารเลือด ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า เขาเป็นบุคคลที่มีหลายบุคลิกและมีอาการความจำเสื่อม โดยขณะที่เข้าจู่โจมเหยื่อนั้น เขาจะไม่มีสติยั้งคิดว่าตนกำลังทำอะไรและเหยื่อเป็นใคร รวมถึงไม่สามารถจำเหตุการณ์ตอนที่ทำร้ายเหยื่อได้เลย
จากนั้น เมื่อเขาได้รับการรักษา แพทย์ประจำตัวของเขาได้ออกมาเปิดเผย ว่า นี่คือโรคชนิดหนึ่งที่จะเปลี่ยนให้ผู้ป่วยกลายเป็นแวมไพร์หรือผีดูดเลือด ชายผู้นี้ได้ประสบกับเหตุการณ์ที่กระทบจิตใจอย่างรุนแรง คือ การสูญเสียลูกสาววัย 4 เดือน นอกจากนี้เขายังเคยพบเห็นการฆาตรกรรมสุดโหดต่อหน้าต่อตา โดยเพื่อนคนหนึ่งของเขาฆ่าผู้อื่นด้วยการตัดศีรษะและอวัยะเพศ รวมถึงลุงแท้ๆที่ถูกฆาตกรรม ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนเราจะรับเรื่องโหดร้ายแบบนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ผีดูดเลือด หรือแวมไพร์นั้น ไม่ใช่เรื่องลี้ลับ แต่เป็นอาการป่วยทางจิต เนื่องจากการประสบกับการทารุณ ซึ่งโดยมากเป็นการทารุณทางเพศ และเพื่อต้องการหนีจากความเจ็บปวดที่เกิดกับจิตใจ ผู้ป่วยจึงเกิดการแบ่งแยกบุคลิกและสูญเสียความเป็นหนึ่งเดียวในแง่อุปนิสัย รวมไปถึงโรคเครียดจากเหตุการณ์ร้ายแรง ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าเรื้อรังอีกด้วย
ที่มา teenee