ทีมนักสำรวจขุดพบ "ซากช้างแมมมอธ" ขนาดใหญ่บริเวณชายฝั่งทางตะวันออกของอ่าวเยนิเซในไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย ซึ่งการค้นพบครั้งนี้เป็นการค้นพบที่เปลี่ยนแปลงข้อสันนิษฐานเดิมที่เชื่อว่า มนุษย์เดินทางไปอาร์กติกเมื่อประมาณ 30,000 - 35,000 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งหลังจากขุดสำรวจซากช้างแมมมอธก็พบว่า ช้างแมมมอธตัวนี้มีอายุประมาณ 15 ปี มีร่องรอยบาดเจ็บอยู่หลายแห่งที่บริเวณหัวและซี่โครง นอกจากนี้ยังมีรอยเจาะที่โหนกแก้มอีกด้วย ที่สำคัญพบอาวุธติดอยู่ในท้อง ซึ่งเป็นร่องรอยที่เกิดจากการใช้อุปกรณ์ล่าสัตว์และเครื่องมือชำแหละที่ทำจากหินและมีปลายทำด้วยงาช้างเท่านั้น เป็นอุปกรณืของพรานและช่างทำเครื่องมือ
ดังนั้นจากหลักฐานที่พบทำให้ได้ข้อเท็จจริงใหม่ว่า มนุษย์เดินทางไปอาร์กติกและอาศัยอยู่แถบขั้วโลกเหนือเมื่อ 45,000 ปีก่อน ซึ่งเร็วกว่าข้อสันนิษฐานถึง 10,000 ปีเลยทีเดียว
โดยเชื่อว่าคนในยุคโบราณใช้ประโยชน์จากช้างแมมมอธ เพราะช้างแมมมอธเป็นแหล่งอาหารที่ให้พลังงานสูง ทั้งกระดูกกับงายังสามารถนำไปช้ทำเป็นอาวุธแทนก้อนหินที่หาได้ยากในแถบนั้นอีกด้วย
เป็นการค้นพบหลักฐานที่เปลี่ยนแปลงความรู้ทางประวัติศาสตร์เลยทีเดียว จะมีหลักฐานจากยุคโบราณอีกกี่ชิ้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่แล้วรอการค้นพบ แสดงว่ายังมีเรื่องราวอีกมากมายในยุคโบราณที่รอให้เราหาคำตอบกันอยู่...
ข้อมูลและภาพประกอบจาก "BBC"