สลดชีวิตเฮงและซวย เสี่ยไร่สับปะรดประจวบคีรีขันธ์โดนฟ้าผ่าดับขณะหลบฝนโคนต้นไม้กลางไร่ เผยก่อนนี้โชคดีถูกหวยธ.ก.ส.ได้เงินมากกว่า 10 ล้าน จึงนำเงินมาทำธุรกิจหลายอย่าง ล่าสุดไปดูแลไร่ แต่กลับโชคร้ายขณะไปหลบฝนอยู่ใต้ต้นขนุน เกิดฟ้าร้องฟ้าแลบตลอด สักพักฟ้าผ่าเปรี้ยงตายสยอง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ส.ค. พ.ต.ท. เอนกชาติ นงนุช สว.สอบสวน สภ.สามกระ ทาย ได้รับแจ้งเหตุจากมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิวัดกุยบุรี ว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ในไร่สับปะรด ใกล้กับคลองส่งน้ำกรมชลประทาน หมู่ที่ 4 ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงพร้อมด้วยกำลังอาสาสมัครกู้ภัยรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
พบเป็นไร่สับปะรดขนาดใหญ่ มีผู้เสียชีวิตอยู่ชายไร่ สภาพศพที่ลำคอสวมสร้อยคอนาก ห้อยพระเครื่อง 2 องค์ มีรอยไหม้ตามรอยของสร้อยที่สวมอยู่ นอนอยู่ใต้ต้นขนุน ลักษณะใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสกอต กางเกงขายาวสีดำ สภาพภายนอกไม่มีร่องรอยของการถูกทำร้าย ทราบชื่อต่อมา คือนายเอี่ยม สมมิตร อายุ 59 ปี อยู่บ้านดอนกลาง ม.4 ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ
เบื้องต้นทราบว่า นายเอี่ยมผู้ตาย เมื่อปี 2541 เคยซื้อสลากของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ถูกรางวัลที่หนึ่ง รับเงินเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท จึงนำมาซื้อรถเกี่ยวข้าว และทำธุรกิจรับซื้อข้าวและพืชผลทางการเกษตรจากชาวนาชาวไร่ แต่ก็ยังไม่ลืมชีวิตชาวไร่ ยังคงไปทำไร่ด้วยตัวเองตามปกติ ก่อนเกิดเหตุได้มาปลูกหน่อสับปะรดที่ไร่เพียงคนเดียว ต่อมาเกิดฝนตกหนัก นายเอี่ยมจึงไปหลบฝนอยู่โคนต้นขนุนที่ชายไร่ และเกิดเหตุ การณ์ฟ้าผ่าลงมาที่ต้นขนุนที่นายเอี่ยมพักอาศัยหลบฝนอยู่ ทำให้นายเอี่ยมเสียชีวิตคาที่
ชาวบ้านที่ทำไร่สับปะรดอยู่ข้างเคียง เปิดเผยว่า ในขณะฝนตก บริเวณที่นายเอี่ยมหลบฝนอยู่ มีเสียงฟ้าผ่าลงมาหนึ่งครั้ง เห็นมีลักษณะเป็นควันลอยขึ้นมา แต่ไม่ได้สนใจ เมื่อฝนหยุดตกสักพัก ยังไม่เห็นนายเอี่ยมออกมาทำงานต่อ จึงเดินมาดูและพบว่านายเอี่ยมนอนนิ่งอยู่ใต้ต้นขนุนและเสียชีวิตแล้ว