1. การเสริมแบบ Closed technique
คือ การเสริมจมูกโดยมี แผลผ่าตัดในรูจมูก ดังรูปด้านบนโดยจะลงแผลด้านเดียว หรือ สองด้านก็ได้ ตามแต่แนวคิดและหลักการ หรือ ตามที่อาจารย์แต่ละท่านสั่งสอนกันมา จากนั้นก็ทำการ เลาะขยายโพรงจมูก แล้วค่อยวาง Silicone เสริมจมูกอีกที ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การเสริมแบบ Closed นั้นไม่ได้ไปยุ่งกับโครงสร้างพื้นฐาน ( Framework ) ของจมูกเท่าใดนัก คราวนี้ก็แล้วแต่ละที่ จะเสริมกระดูกอ่อน กระดูกแก่ หรือ หนังเทียมเข้าไปเพิ่มเติม
2.การเสริม แบบ Open technique
คือ การเสริมจมูกโดยมีแผลผ่าตัดทั้งภายในและภายนอกจมูก – บริเวณฐานจมูก โดยมีหลักการคือ ต้องการเปิดเข้าไปเพื่อ จัดแต่งและแก้ไข โครงสร้างพื้นฐานของจมูก ไม่ว่าจะเป็นส่วนสันจมูก ที่มีโหนก ( Hump ) หรือ ตกแต่ง โดยเฉพาะส่วนปลายจมูก เช่น ปลายจมูกเก่าสั้นและเชิด ต้องการแก้ไขให้ยาวขึ้น พุ่งขึ้น หยดน้ำขึ้น หรืออะไรก็แล้วแต่ ตามแต่ Imagine ของเรา( อย่าลืมนะค่ะ ทุกอย่าง มี Limited ในตัวของมันเอง ) ไม่ใช้ว่าพอหมอบอกว่า ต่อจากสั้นให้ยาวได้ ก็คิดว่าทำได้นะค่ะ จริงมันมีข้อจำกัดอยู่หลายข้อ เช่น กระดูกที่เอาต่อ ไม่แข็งแรงพอ หรือเอามาต่อแล้วกระดูกนั้นตายเพราะขาดเลือดไปเลี้ยง หรือ แม้กระทั้งพอต่อให้กระดูกยาวแล้ว พอจะดึงผิวหนังมาปิด ปิดไม่ได้ตึงเกินไปอีกก็มีทำให้ปลายผิวหนังขาดเลือดก็เยอะ
3.การเสริมแบบ Korea Technique
คือ การเสริมจมูก โดยมีกระบวนการ 3 อย่างคือ 1 ) เปิดแผลแบบ Open เพื่อเข้าไปตกแต่งที่ปลายจมูก ( Tip plasty ) 2. เสริมSilicone เฉพาะตรงสันจมูกจนมาเกือบปลายเท่านั้น ( Dorsal Augmentation ) เพราะตรงปลายจะตกแต่งด้วยกระดูกอ่อน และการเย็บ Interdome Suture 3.ทุบกระดูกด้านข้างจมูกแบบ Lateral Osteotomy และลดขนาดโดยการประกบเข้าหากัน ต้องบอกเลยว่า หมอเกาหลีจะทำแบบนี้เป็น Standard ทุกเคสไม่มียกเว้น
ที่มา : thaijobsgov