เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ร.ต.ท.อนนท์ อินทร์กง รองสว.สส.ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังชุดสืบสวนออกตรวจตราดูความเรียบร้อยในพื้นที่ เมื่อมาถึงหน้าวัดในต.หนองไฮ อ.เมืองอุดรฯ พบชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถ จยย.มาจอดหน้าวัด เมื่อพบตำรวจแสดงท่าทีมีพิรุธ จึงได้สอบถามก็ได้บอกว่ามาซื้อยาบ้าจากพระภูวาเดช จิกจัก อายุ 20 ปี พระลูกวัดดังกล่าว และเคยมาซื้อไปหลายครั้งแล้ว จึงได้นำตัววัยรุ่นดังกล่าวไปชี้กุฏิพระภูวเดช จากนั้นได้เข้าไปจับกุมพระภูวเดช ที่รู้ตัวแล้วกำลังวิ่งหลบหนี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นในตัวพบยาบ้า 4 เม็ด แล้วนำไปค้นในกุฏิอีก ขณะทำการตรวจค้นก็มีนายต้อมและนายต่าย อายุ 16 ปี นักเรียนปวช.1 นำยาบ้า 5 เม็ด มาคืนให้พระภูวเดช โดยระบุเป็นยาบ้าที่พระให้นำไปส่งให้ลูกค้า แต่ลูกค้าไม่มารับตามที่นัดไว้ จึงนำยาบ้ามาคืน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมทั้งหมดพร้อมของกลางนำมาสอบสวน
สอบสวนพระภูวเดชให้การรับสารภาพว่า บวชมาได้ 1 เดือน ก่อนนี้เคยถูกตำรวจจับฐานเสพและครอบครองยาบ้า 10 เม็ด และนำตัวไปบำบัด 20 วัน ออกมาก็กลับมาเสพอีกและมาบวชไม่มีกำหนดสึก ต่อมามีนายบน เพื่อนที่เคยเสพยาบ้าด้วยกันมาหาตนที่กุฎิและนำยาบ้า 5 เม็ดมาให้เสพ อาตมาหักห้ามใจไม่ได้ จึงได้เสพยาบ้าอีก ก่อนถูกชักชวนให้กลับมาขายยาบ้า จนรุ่งเช้านายบนก็ให้คนขับรถนำยาบ้า 50 เม็ดมาส่งให้ อาตมาจึงนำไปขายให้วัยรุ่นในหมู่บ้าน และผู้ใช้แรงงาน โดยจ้างให้เพื่อนรุ่นน้องในหมู่บ้านเดียวกันนำไปส่งลูกค้า ซึ่งจ่ายค่าจ้างเป็นยาบ้าคนละ 1 เม็ด แต่ต้องเสพอยู่ในกุฎิ เมื่อขายหมดนายบนจะสั่งให้คนนำยาบ้ามาส่งให้พร้อมกับรับเงินค่ายาบ้าที่ขายไปแล้ว โดยทำมาแล้ว 3 ครั้ง จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับได้ดังกล่าว
จากนั้นร.ต.ท.อนนท์ นำตัวพระภูวเดช ไปสึกและตรวจปัสสาวะทั้ง 3 คนพบเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหาเสพและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย