ได้มีรายงานว่า นายปีเตอร์ สกิลล์เบิร์ก ชาวสวีเดน ได้ติดอยู่ในรถท่ามกลางอุณหภูมิ -30 องศาเซลเซียสเป็นเวลานาน 2 เดือน ชายอายุ 44 ปีคนนี้ได้บอกว่าเขาติดอยู่ในรถท่ามกลางหิมะปกคลุมหนาแน่น ไม่มีอะไรให้กินเลยนอกจากหิมะ หลังจากผ่านไปนานสองเดือนก็มีผู้มาพบเขาเข้า
หลัง จากนั้นนายปีเตอร์ก็ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยนัวร์ลันด์ (Noorland) หมอผู้รักษาที่ชื่อว่า ดร.อูล์ฟ เซเกอร์เบิร์ก (Ulf Segerberg) บอกว่าเขาเองก็ไม่เคยเห็นกรณีนี้ที่ไหนมาก่อน ซึ่ง ดร.อูล์ฟ เชื่อว่าการที่นายปีเตอร์สามารถอยู่รอดในสภาพที่เลวร้ายนี้ได้ถึง 2 เดือนนั้นเป็นเพราะได้เกิดภาวะ "อิกลู" (igloo effect) ขึ้นมาทำให้เขาสามารถรักษาชีวิตไว้ได้
แน่ นอนว่าเขามีเสื้อกันหนาวและถุงนอน รวมถึงการที่มีหิมะปกคลุมทั่วทั้งคันที่คล้ายๆกับอิกลูที่เป็นบ้านของชาว เอสกิโม ที่ปกติแล้วข้างในมีอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศาไม่มากนัก แต่ร่างกายจะสามารถปรับตัวได้เพราะมีสิ่งสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย สัตว์เลือดอุ่นเช่นมนุษย์นั้นไม่สามารถอาศัยในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิ เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันมากอย่างพวกสัตว์เลือดเย็นได้ และสองเดือนก็ดูเป็นเวลาที่สมเหตุสมผลที่มนุษย์จะสามารถอยู่รอดได้โดยที่ไม่ มีอาหาร
นาย ปีเตอร์ถูกพบในสภาพผอมแห้งและอิดโรยมากโดยคนขับรถสโนว์โมบิล 2 คนที่คิดว่าพวกเขาพบรถที่ถูกชน พวกเขาจึงขุดลงไปในหิมะเกือบเมตรและพบกับนายปีเตอร์ที่นอนในถุงนอนอยู่ที่ เบาะหลังรถ
ตำรวจ บอกว่าอุณหภูมิในขณะนั้นคือ -30 องศา หมอคนหนึ่งที่ชื่อว่า ดร.สเตฟาน แบรนท์ ได้บอกว่านายปีเตอร์อาจจะรอดเพราะการที่ร่างกายเปลี่ยนไปอยู่ในภาวะจำศีล นั่นเอง โดยจะยังรักษาอุณหภูมิของร่างกายที่ 31 องศาได้ โดยที่ใช้พลังงานน้อย การเอาชีวิตรอดทางกลางสภาพอากาศที่เลวร้ายได้นานถึงสองเดือนนั้นเป็นเรื่อง ที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ทางการแพทย์ยังได้แนะนำว่าถ้าเกิดคุณกำลังหลงทางอยู่บนภูเขาหิมะ คุณสามารถที่จะขุดและลงไปอยู่ในนั้นจะสามารถยืดเวลาให้คุณอยู่รอดนานพอที่จะ มีคนมาช่วยคุณได้
แน่ นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายปีเตอร์นั้นคล้ายๆกับปาฏิหารย์ แต่ก็อาจเป็นเพราะความหวังและการไม่ยอมแพ้ที่จะมีชีวิตรอดต่อไปของมนุษย์ ด้วยเช่นเดียวกัน