ในปี 1979 ที่ประเทศสิงคโปร์ ถัน คุน-ไฉ่ และภรรยา ลี เหม่ย-อิง สองสามีภรรยาจ้างวางคนขับรถมินิบัสสำหรับรับส่งลูก ๆ ทั้ง 4 ของพวกเขา อันได้แก่
แทน ก๊อก-เป๋ง 10 ขวบ
แทน ก๊อก-หิน 8 ขวบ
แทน ก๊อก-ซุน 6 ขวบ
ลูกสาวคนเล็ก แทน ชิน-หนี่ 5 ขวบ
ไปโรงเรียนทุกเช้า แทนพวกเขาที่ต่างต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว
จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 6 มกราคม 1979 ขณะที่สองสามีภรรยาถันและลียุ่งอยู่กับการทำงานนั้น ลูก ๆ ทั้งสี่ที่พึ่งตื่นและเตรียมตัวอาบน้ำไปโรงเรียนถูกคนร้ายบุกเข้ามาก่อเหตุฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมที่หอพักของพวกเขาในย่าน " เกลัง บาหรู "
โดยเพื่อนบ้านของถันและลี ที่สังเกตถึงความผิดปกติเนื่องจากทุกเช้าเด็ก ๆ ทั้ง 4 จะต้องนั่งรถไปโรงเรียน แต่ในวันที่เกิดเหตุนั้นไร้วี่แววจากเด็ก ๆ ทั้งสี่ เพื่อนบ้านจึงได้พยายามกดกริ่งเรียกเด็ก ๆ แต่ไร้วี่แววการตอบรับ เมื่อเห็นว่าเรื่องราวเริ่มเลวร้ายขึ้นจึงโทรไปเรียกถันและลีให้กลับมาที่บ้าน พวกเขาต้องช็อคสุดขีดเมื่อพบว่า.......!! ลูก ๆของพวกเขาเสียชีวิตทั้งหมด โดยฆาตกรใจโหดได้สั่งหารเด็กทั้งสี่อย่างโหดเหี้ยมก่อนหลบหนีไป
ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายต้องรับรู้ความเคลื่อนไหวของครอบครัวนี้และอาศัยจังหวะลงมือตอนที่ถันและลี ไม่ทำงานจนไม่มีเวลามาดูแลลูก ๆ นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าคนร้ายเตรียมการสังหารมาเป็นอย่างดี เนื่องจากไม่พบร่องรอยลายนิ้วมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการฆาตกรรม ซึ่งตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นมีดทำครัวเลยแต่อย่างใด อาจเป็นไปได้ว่าหลังจากก่อเหตุฆาตกรรม คนร้ายได้ทำความสะอาดร่องรอยต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ตำรวจตามจับกุมตัวได้ในภายหลัง
ที่น่าเจ็บปวดใจสำหรับถันและลีก็คือ.....!? หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันก็มีโปสการ์ดตรุษจีนลึกลับถูกส่งมา ถึง ‘อาไฉ่’ และ ‘อาอิ้ง’ ซึ่งเป็นชื่อเล่นของถันและลีในภาษาจีนกลาง คาดว่าโปสการ์ดฉบับนี้ถูกส่งมาจากฆาตกรที่สังหารลูก ๆ ของพวกเขาทั้งสี่คน “ตอนนี้พวกคุณก็ไม่มีลูกหลานเหลืออีกแล้วนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ตำรวจเรียกเพื่อนบ้านของครอบครัวถันและลีมาสอบปากคำเพิ่มเติมกว่า 100 ครั้ง จนกระทั่งมีรายงานจากพลเมืองดี รายหนึ่งระบุว่าพบเห็นชายหญิงคู่หนึ่งออกมาจากบ้าน ก่อนที่ตำรวจจะแจ้งว่านั่นเป็นเรื่องเท็จ
นอกจากนี้ยังมีรายงานจากคนขับแท็กซี่รายหนึ่งที่รับชายหนุ่มอายุราว 20 ต้น ๆ ที่มีเลือดติดอยู่บนเสื้อผ้าและพบว่า เขาพกมีดติดมือมาอีกด้วย ตำรวจได้เรียกตัวชายคนนี้มาสอบสวน แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยตัวไปเพราะไม่มีหลักฐานและพยานเพียงพอ
ศพของเด็ก ๆ ทั้งสี่ถูกฝังไว้ที่สุสาน โชว์ ฉู-คัง จวบจนปัจจุบันยังไม่สามารถนำตัวคนร้ายมาลงโทษได้ เนื่องจากขาดหลักฐานและข้อมูล คดีดังกล่าวเป็นหนึ่งในคดีสะเทือนขวัญชาวสิงค์โปร์จวบจนปัจจุบัน
ที่มา: http://www.soccersuck.com/boards/topic/1318565