ไขปริศนาการสิ้นพระชนม์ของนโปเลียน

thairath

ประวัติ ศาสตร์ได้จารึกไว้ว่า หลังจากจอมจักรพรรดิ นโปเลียน ทรงแพ้สงครามครั้งหลังสุดแล้ว อังกฤษได้นำ พระองค์ไปกักไว้ ณ เกาะเซ็นต์เฮเลน่า อยู่นานถึง 6 ปี จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ด้วยสาเหตุอันใดยังไม่ประจักษ์ชัด แต่สันนิษฐานกันว่า ทรงถูกลอบวางยาพิษ

แต่ บัดนี้มีผู้พบหลักฐานด้านประวัติศาสตร์เสียแล้วว่า พระองค์ หาได้สิ้นพระชนมชีพอย่างนักโทษ บนเกาะเซ็นต์เฮเลน่าอย่าง อ้างว้างว้าเหว่ ตามที่ทราบกันมาไม่ หากสิ้นพระชนม์ที่อื่นในเวลาหลังจาก วันสวรรคตตามประวัติศาสตร์ หลายปี และในฐานะที่มิใช่นักโทษการเมืองของอังกฤษเสียด้วย

ที่ เป็นปริศนาน่าขบคิดก็คือ เรื่องนี้เป็นไปได้จริงหรือไม่ ประการใด?

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม สิ่งหนึ่งที่นักประวัติศาสตร์ส่วนมาก ยอมรับกันก็คือ พระเจ้านโปเลียน โบนาปาร์ต นั้นทรงเป็นนักรบ ผู้ยิ่งใหญ่ ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก เป็นที่เคารพยำเกรง แก่ทวยทหารมากหน้าและ แม้ในยามที่ทรงสูญสิ้นอำนาจวาสนา เสด็จไปประทับอย่างว้าเหว่ที่เกาะเซ็นต์เฮเลน่าในมหาสมุทร แอตแลนติก หลังจากทรงแพ้สงครามที่วอเตอร์ลูในปี ค.ศ.1815 แล้ว ก็ใช่ว่าจะทรงไร้เสียซึ่งมิตรสนิทผู้ศรัทธานับถือพระองค์เลย


และมิตรเหล่านั้นล้วนมั่งคั่งและมีอำนาจพอที่จะทำอะไรก็ได้ทั้ง สิ้น

แม้กระทั่งการลอบพาองค์นโปเลียนหนีออกจากเกาะที่ไม่มี ทางหนี!


         การ หลบหนีจาก st. helena

ก่อน จะกล่าวถึงเหตุการณ์ลำดับต่อไป ขอให้เรามาทราบกันถึงความลับเล็กๆน้อยๆ ที่รู้กันในหมู่ข้าราชสำนักฝรั่งเศสยุคนั้นก่อนดีกว่า นโปเลียนนั้นทรงมี “ตัว แทน” ที่รูปร่างหน้าตาคล้ายพระองค์อยู่ 2-3 คน ซึ่งโปรดให้ รับสนอง พระบัญชาใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา หนึ่งในจำนวนนั้นมีรูปร่างหน้าตาคล้ายพระองค์มากที่สุด อายุอานาม ก็มากกว่าองค์จักรพรรดิเพียง 2 ปี
เขา ชื่อ ฟรังซัวส์ อูยีน โรโบด์ เกิดที่หมู่บ้านบาลีย์กูต์ เมื่อปี ค.ศ.1771

หลังจากพระเจ้านโปเลียนทรงแพ้ สงครามและเสด็จนิราศ ไปสู่เกาะเซ็นต์เฮเลน่า ในปี 1815 นั้น โรโบด์ก็กลับไปใช้ชีวิตเงียบๆ อยู่ที่หมู่บ้านบาลีย์กูต์ ของเขาตามเดิม แต่อยู่ที่นั่นได้เพียง 3 ปี เขาก็มีอันหายหน้าหายตา ไปจากหมู่บ้านโดย ไม่มีใครรู้ระแคะระคาย แม้แต่ลูกเมียก็พากันหุบปากแน่น บอกกับใครๆ ที่มาถามไถ่ว่าสามีไปทะเลเท่านั้น


ว่า กันว่า นโปเลียนมี ตัวแทนที่คล้ายพระองค์ อยู่ 2-3 คน

ใน เวลาเดียวกันคือปี ค.ศ.1818 ที่เมืองเวโรนาในประเทศอิตาลี ก็มีชายแปลกหน้าท่าทางสง่าผ่าเผยและแต่งกายหรูหราคนหนึ่งเดินทางมาพำนักอยู่ ชายผู้นี้บอกใครๆ ว่าเขาเป็นชาวฝรั่งเศส ชื่อเรอวารด์ ลูกเมียตายหมดแล้ว จึงเดินทางมาหาความสงบในเมืองเล็กๆ แต่สวยงามแห่งนี้ โดยทำมาหากินเปิดร้านขายเครื่องเพชรพลอย โดยที่ไม่ได้สนใจต่อเพชรพลอยเท่าใดนัก กิจการส่วนใหญ่มอบให้นายเปตรุซซี่ ผู้เป็นหุ้นส่วนช่วยทำให้แทน

ที่น่าประหลาด ใจก็คือ นายเรอวารด์ผู้นี้มี รูปร่างหน้าตา ตลอดจนอายุคล้ายคลึง นโปเลียนมากที่สุดจนใครเห็นใครล้อ

น่า สังเกตยิ่งขึ้นไปอีกก็คือเรอวารด์ ไม่ พอใจ และหลบหน้าไปทุกทีที่ใครๆ เกิดล้อเขาว่าเป็น “องค์เอมเพอเรอร์” และแล้วต่อมาในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1821 ที่เกาะเซ็นต์เฮเลน่า บุคคลผู้ที่ใครๆ รู้จักในนามของอดีตพระจักรพรรดินโปเลียนก็สิ้นพระชนม์ ด้วยโรคมะเร็งในพระนาภี

ประวัติ ศาสตร์พากันบันทึกไว้ตรงกันหมดทั้งโลกว่า พระเจ้านโปเลียนสิ้นพระชนม์ ที่เกาะเซ็นต์เฮเลน่าในปี ค.ศ.1821


การ เสียชีวิตที่มีเงื่อนงำของนโปเลียน ?

ทาง ด้านเมืองเวโรนา นายเรอวารด์ผู้มีหน้าตาเหมือนนโปเลียนยังคงพำนักอย่าง สุขสบายอยู่ที่นั่น จนกระทั่งต่อมาอีก 2 ปี คือในปี ค.ศ. 1823 ก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับเขา

นั่นคือ อยู่ๆ ในคืนหนึ่งก็มีรถม้าหรูหรา มาจอดหน้าร้านของเรอวารด์ มีชายสองคนลงจากรถมายื่นจดหมายให้เขา นายเปตรุซซี่หุ้นส่วนสำคัญมองเห็นหน้า เรอวารด์เคร่งเครียดด้วยแวว วิตกกังวลใหญ่หลวง ต่อจากนั้นก็เรียกเขา เข้าไปพบ

บุคคล ที่ใครๆรู้จักในนามเรอวารด์เจ้าของร้านเพชร ยื่นซองจดหมายหนาหนักปิดผนึกแน่นหนาให้เปตรุซซี่แล้วสั่งว่า

“เพื่อนยาก ฉันต้องไปธุระสักชั่วระยะหนึ่ง ถ้าฉันไม่กลับมาภายในสามเดือน คุณจงนำจดหมายนี้ไปถวายแด่พระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศสแล้วพระองค์ ก็จะประทานรางวัลให้อย่างงาม แต่จำไว้นะว่า ก่อนที่จะถึงกำหนด 3 เดือน อย่าเปิดจดหมายออกอ่านเป็นอันขาด”

      
       ชีวิตเดียวดายช่วงสุดท้ายที่เกาะ St. Helena

ถ้า เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ก็คงตัดภาพไปสู่ เหตุการณ์อีกอย่าง ซึ่งเกิดขึ้น ณ บริเวณพระราชวังเชินบรูนน์ในประเทศออสเตรีย

เป็น คืนวันที่ 4 กันยายน 1823 ทหารรักษาพระราชวังมองเห็นเงาบุรุษลึกลับคนหนึ่งปีนกำแพงวังเข้าสู่พระราช ฐานชั้นใน ซึ่งโอรสของนโปเลียน โบนาปาร์ต ประชวรหนักอยู่ด้วยโรคอีดำอีแดง ทหารยามจึงยิงขู่ออกไป เผอิญกระสุนถูกบุรุษผู้นั้นเข้าอย่างจังถึงกับล้มลงเสียชีวิตทันที














ศพ ชายลึกลับถูกนำไปยังกระท่อมในสวนแล้วเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในวังก็มาตรวจดู พอเห็นรูปร่างหน้าตาของคนตายเข้าเท่านั้น เจ้าหน้าที่ดังกล่าวก็หูตาเหลือก รีบสั่งให้ปิดล็อกประตู หน้าต่างกระท่อมเป็นการใหญ่ ต่อจากนั้นใครต่อใครก็วนเวียนกันมาดูศพราวกับว่าเป็นคนสำคัญเต็มประดา รวมทั้งเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำกรุงเวียนนาด้วย ต่อมาอีกไม่นาน ศพ ชายคนนั้น ก็ถูกนำเข้าไปภายในพระราชวังเชินบรูนน์ และฝังไว้ในที่เดียวกับสุสานประจำราชวงศ์

ท่านผู้อ่านพอจะ เดาอะไรออกรางๆ แล้วใช่ไหมเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้?


ทางด้านนายเปตรุซซี่ก็เฝ้ารอการกลับของหุ้นส่วนของเขาจนกระทั่ง 3 เดือนผ่านไปก็ไม่มีวี่แววนายเรอวารด์กลับมาสักที เขาเกือบจะทำตามคำสั่งอยู่แล้ว คือนำจดหมายปิดผนึกนั้นไป ถวายพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศส ก็พอดีมีเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่จากพระราชสำนักฝรั่งเศสมาดั้นด้นตามหาเปตรุ ซซี่จนพบ มอบเงินให้จำนวนมากถึง 100,000 คราวน์เพื่อแลกกับจดหมายฉบับนั้น พร้อมทั้งขอให้เย็บปากตัวเอง ซึ่งเปตรุซซี่ก็ทำตาม จึงไม่มีใครรู้ความลับเรื่องนี้เลยนอกจากต่อมาในภายหลัง

ขอให้เราปะ ติดปะต่อเหตุการณ์ที่น่า สับสนนี้ดู


เป็นที่รู้กันดีในหมู่ข้า ราชบริพาร ซึ่งเฝ้านโปเลียนอยู่ที่เกาะเซ็นต์เฮเลน่าว่า ในระยะหลังๆ นี้ว่า พระเจ้านโปเลียนของตนมีพระจริยาวัตรผิดไปจากเดิมมาก ทรงมีความจำเสื่อมอย่างร้ายแรงไม่อาจจดจำอะไรได้แม้แต่รายละเอียดของ สงครามซึ่งทรงมีชัยและปราชัย สุรเสียงก็ไม่เหมือนเดิม ที่ร้ายกว่านั้นก็คือ ลายพระหัตถ์ผิดไปจากเดิมด้วย

อีกอย่างหนึ่งที่ยืนยันความผิดปกติของนโปเลียนในตอนหลังนี้ ก็คือ บรรดาหมอที่มารักษาโรคมะเร็งให้นั้น พากันถวายความเคารพนับถือน้อยจนแทบไม่มีเลย ผิดกับในสมัยที่มาอยู่เกาะใหม่ๆ ในปี 1815 ซึ่งใครๆ ถวายความเคารพสูงสุดในฐานะพระจักรพรรดิทุกประการ


จะเป็นไปได้ไหมที่ว่าบรรดา หมอเหล่านั้นรู้ดีว่าผู้ที่เขารักษามิใช่พระจักรพรรดิที่แท้จริง?

เหตุการณ์ สอดคล้องอีกอย่างหนึ่งก็คือ ระหว่างปี 1815 ถึงปี 1818 นั้น เกาะเซ็นต์เฮเลน่าอยู่ใต้การควบคุมดูแลของนายพลกูร์การด์ผู้เข้มแข็งและชิง ชังนโปเลียน แต่พอถึงปี 1818 นายพลคนนี้ก็ถูกโยกย้ายไปที่อื่น มี นายพลคนใหม่ชื่อแบร์ตรองมาแทน นายพลแบร์ตรองไม่ได้เกลียดชังนโปเลียนอะไรนัก และการควบคุมดูแลก็ลดหย่อนลง...ท่านผู้อ่านอย่าลืม ว่าในปีนี้เองที่ฟรังซัวส์ โรโบด์ ผู้มีหน้าตาเหมือนนโปเลียนได้หายไป จากบ้านที่บาลีย์กูต์ และชายแปลกหน้านามเรอวารด์ไปโผล่ขึ้นที่เมืองเวโรนาในอิตาลี


       พ่าย แพ้ยับเยินจากการรุกรานรัสเซีย ในปี 1812

นอก จากนั้น ในปีเดียวกันนี่เองภริยาของนายพลแบร์ตรองผู้นิยมนโปเลียน ก็เขียนจดหมายลับไปถึงเพื่อนว่า “...เราทำสำเร็จ นโปเลียนเสด็จออกจากเกาะเซ็นต์เฮเลน่าแล้ว!”

จึงน่าจะเป็น ไปได้ที่ว่า ด้วยความช่วยเหลือของมิตรผู้มั่งคั่งและเรืองอำนาจ ฟรัง ซัวส์ โรโบด์ ผู้คล้ายคลึงนโปเลียน ได้ไปจำขังอยู่บนเกาะแทนองค์พระจักรพรรดิ ส่วนนโปเลียนที่แท้จริง เสด็จไปสู่อิสรภาพที่เมืองเวโรนา ในนามของนายเรอวารด์นั่นเอง

ส่วน บุรุษลึกลับที่ถูกยิงตายในบริเวณพระราชวังเชินบรูนน์ ซึ่งโอรสของนโปเลียน ประชวรหนัก อยู่นั้น ก็คงไม่ใช่ใคร คือนโปเลียนนั่นเอง ทรงได้รับข่าวประชวรของ โอรสโดยบุรุษผู้มากับรถม้า ซึ่งนายเปตรุซซี่มองเห็นผู้นำข่าวมาถวาย นโปเลียนจึงรีบร้อนเสด็จไปเยือนโอรสจนต้องประสบกับวาระสุดท้าย อันน่าเศร้าสลดและไม่คาดฝัน ณ บริเวณพระราชวังเชินบรูนน์ นั่นเอง

ที่ จริงเรื่องราวของบุรุษผู้ถูกยิงตายนี้ อาจไม่มีใครคิดลึกไปว่าเป็นองค์นโปเลียนหากข้อเท็จจริง อย่างหนึ่งจะไม่เปิดเผยขึ้นในปี ค.ศ.1956


สงครามวอเตอร์ลู ค.ศ.1815

นั่น คือ คณะแพทย์ชาวอังกฤษกลุ่มหนึ่งประกาศว่า ได้มีการตัดเอาลำไส้ส่วนที่เป็นมะเร็ง ของนโปเลียนเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ทว่า ที่ ลำไส้นั้นกลับปรุเป็นรูอย่างน่าประหลาดใจ อะไรก็ไม่ร้ายเท่า รูนั้นเป็นรูกระสุนปืนชัดๆ...ก็คงเป็นกระสุนที่ทหารรักษาวัง ยิงเอาตอนที่ทรงปีนเข้า พระราชฐานชั้นในนั่นเอง

ถึงตรงนี้มี ข้อกังขาว่า ไหนๆ นโปเลียนก็ทรงหนีออกจากเกาะได้อย่างสง่าผ่าเผย ทำไมจึงไปจนมุมเอาง่ายๆ ไม่น่าเชื่อ และการลอบปีนพระราชวังก็ไม่น่าจะเป็นวิสัยกษัตริย์เลย ในเมื่อหนีออกจากเกาะซึ่งไม่มีทางหนียังทำได้สำเร็จ สำมะหาอะไรกับการเข้าสู่พระราชวัง เชินบรูนน์ ทรงสามารถที่จะดำเนินเข้าไปอย่างผ่าเผยได้ทุกเมื่อ ไม่น่าจะปีนกำแพงให้ เสื่อมเสียพระเกียรติยศเลย
และข้อพิสูจน์ประการสุดท้ายมีอยู่ที่ทะเบียนท้องถิ่นของหมู่ บ้านบาลีย์กูต์ ที่นั่นบันทึกไว้ว่า ฟรังซัวส์ โรโบด์ ถึงแก่กรรมที่เกาะเซ็นต์เฮเลน่า โดยไม่ยอมบอกวันเดือนปีที่ตาย...คนที่รู้เรื่องนี้จึงแน่ใจว่า โร โบด์ตายที่เกาะเซ็นต์ เฮเลน่า ในฐานะที่เป็นนโปเลียนโบนาปาร์ต!

เรื่อง ที่เล่ามานี้ ท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ย่อมได้ แต่ทว่าเป็นเรื่องจริง

Credit: http://www.artsmen.net/
3 มิ.ย. 53 เวลา 03:06 1,658 6 24
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...