พลิกตำนาน ‘เครปป้าเฉื่อย’ ของกินสุดยูนีค ถึงต้องกินชาติหน้าแต่ก็ควรค่าแก่การต่อคิว!!

สำหรับมนุษย์ที่เติบโตในเมืองไทย คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ‘เครปญี่ปุ่น’ ขนมหน้าโรงเรียนในดวงใจที่เป็นคู่แข่งกับโตเกียว ด้วยสไตล์การขายที่ต้องคอยยืนเกาะขอบเตารอพ่อค้าทำให้กินกันแบบสดๆ

และถ้าใครที่อยู่อาศัยหรือเคยสัญจรผ่านไปในย่านโชคชัย 4 ก็คงพอเคยได้ยินกิตติศัพท์ของร้านเครปพรพิมลอันแสนโด่งดัง หรือที่เรารู้จักกันในนาม ‘เครปป้าเฉื่อย’ ที่เฉื่อยสมชื่อจริงๆหละฮะ ><

 

04

 

อันที่จริงแล้วป้าเจ้าของร้าน เค้าชื่อว่าป้าหลี สาวสู้ชีวิตที่ผันตัวมาจากช่างเย็บผ้าสู่การขายเครป ซึ่งแน่นอนว่าความสำเร็จที่ป้าได้มานั้นไม่ได้มาแบบสบายๆ แน่นอน มีอุปสรรคมากมายเลยนะจ๊ะ

จากการประมวลผลข้อมูลที่เหมียวไล่สืบค้นในอินเทอร์เน็ต ก็จับใจความได้ว่าครั้งแรกในชีวิตที่ป้าเห็นร้านเครปที่อนุสาวรีย์ชัย ก็ไม่ได้คิดจะตั้งใจขายอะไรเพราะราคาพอๆกับก๋วยเตี๋ยว กินก็ไม่อิ่มเท่า

 

 

แต่จับพลัดจับผลูมาขายได้ เพราะฝั่งตรงข้ามบ้านมีร้านมาเครปมาเปิด เห็นเค้าขายดีเลยตัดสินใจไปขอเรียนวิธีจากร้านนั้นโดยเสียค่าครูหลักพัน แต่ก็ได้มาแค่สูตรแป้งและวิธีหมุน ซึ่งป้าหลีก็หัดหมุนแต่ยังไม่เป็นอยู่ดี จนต้องไปเรียนที่ใหม่ ก็พอจับทางได้จนเริ่มตั้งร้านขายหน้าบ้านกับเค้าซะที

เหมือนโชคจะเข้าข้างป้าแกอยู่บ้างตรงที่วันหนึ่งร้านตรงข้ามหยุด เด็กๆ ที่เคยซื้อร้านนั้นก็มาซื้อร้านป้าแล้วไม่กลับไปซื้อร้านเดิมอีกเลย เพราะติดใจในรสแป้งที่ป้าไปได้มาจากญาติที่ทำเบเกอรี่ ^^

 

03

 

หลังจากที่กิจการเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ นอกจากขายเครปแล้วป้าหลียังได้เงินจากการเปิดแฟรนไชส์ในการขายแป้งอีกทางหนึ่ง ซึ่งก็ทำให้ชื่อเสียงของ ‘เครปพรพิมล’ โด่งดังเป็นที่รู้จักไปพร้อมๆกัน

มาว่ากันถึงที่มาของความเฉื่อยของป้า หรือคำว่า “เครปชาติหน้า” กันซักหน่อย อันที่จริงมันก็ไม่ซับซ้อนอะไรเลย นอกจากป้าเค้าใส่ใจในการปรุงเครปอย่างพิถีพิถัน มันเลยนานกว่าเจ้าอื่นเฉยๆ

 

อ้ะลองดูกันว่าจะช้าและน่ากินขนาดไหน!?

 

ความเฉื่อยของป้าแก ก็คือความน่ารักตรงที่แกใส่ใจรายละเอียดมากๆ แม้กระทั่งการยอมเดินเข้าออกเพื่อไปหั่นไส้กรอกมาใส่เครป เพราะถ้าหั่นทิ้งไว้เยอะๆ เป็นเวลานานมันจะไม่น่ากินนะฮับพี่น้อง

 

02

 

ถ้าการที่เหมียวสาธยายยาวเหยียดแบบนี้จะทำให้ใครอยากลองชิมเครปฝีมือป้าหลี ก็เชิญได้ที่พิกัดระหว่างซอย 54-56 ถนนโชคชัย 4 เลยนะจ๊ะ ร้านเปิดตั้งแต่ 2 ทุ่มยันเช้ามืด พีคสุดตี 5 เลยก็มีนะ

วิธีกินก็ต้องจองคิวด้วยการต่อเขียนชื่อตัวเอง กับเวลาที่มาใส่กระดาษแล้วหย่อนเข้าไปในบ้านได้เลย ป้าหลีเค้าให้เขียนใบจองตั้งแต่ 6 โมงเช้ายัน 6 โมงเย็นนะจ๊ะ รับประกันความอร่อยจ้า!!

 

 

ที่มา thairath, CrepeChokchai4, pantip, TaoRa Ong, ภาพปลากรอบจากเน็ต

Credit: http://www.catdumb.com/auntie-pronpimol-crape/
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...