4 สุดยอดตำนานเมืองของญี่ปุ่น

http://variety.teenee.com/world/73743.html

4 สุดยอดตำนานเมืองของญี่ปุ่น

 

1. คกคุริซัง(คล้ายกับผีถ้วยแก้วบ้านเรา)

แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศขึ้นชื่อว่ากลัวผีมากที่สุด แต่กระนั้นญี่ปุ่นกับชื่นชอบเล่น คกคุริซัง(คล้ายกับผีถ้วยแก้วบ้านเรา) อยู่ไม่น้อย โดยเป็นเกมญี่ปุ่นในช่วงยุคเมจิซึ่งคล้ายๆ กับการทำนาย โดยวิธีเล่นจะใช้กระดานที่เรียกว่า Ouija (หรือจะเป็นกระดาษ ซึ่งเขียนรูปประตูตรงกลางหัวกระดาษและพยัญชนะญี่ปุ่น) และใช้เหรียญสิบเยนเรียกวิญญาณเลื่อนไปมาสร้างคำเพื่อตอบคำถาม โดยผุ้เล่นต้องมีสองคนขึ้นไป และให้ทุกคนวางนิ้วบนเหรียญสิบเยนแล้วท่องว่า คกคุริซัง คกคุริซัง ที่นี้คือโลกดาวเคราะห์ดวงที่สามแห่งระบบสุริยะ (ที่อยู่) กรุณามาที่นี่ด้วย ถ้าหากมาแล้วละก็ช่วยกรุณาเคลื่อนไปยังคำว่า ใช่ ที่เถิด หากเหรียญเคลื่อนไปคำว่าใช่ก็สามารถตอบคำถามได้ตามชอบใจ ซึ่งเชื่อว่าวิญญาณดังกล่าวคือสุนัขจิ้งจอก อย่างไรก็ตามถ้าใครถอดนิ้วออกกลางคันจะถูกเข้าสิงและฆ่าคนนั้นตาย ซึ่งตำนานเมืองได้กล่าวว่ามีผู้คิดจะเลิกคกคุริซังกลางคันและถูกวิญาณเข้าสิงจำนวนมาก ซึ่งส่วนมากมักมีอาการโรคจิต

 

1.เสื้อคลุมแดง

เสื้อคลุมแดงเป็นตำนานเมืองของญี่ปุ่นว่าหากคุณกำลังนั่งชักโครกในห้องน้ำสาธารณะหรือโรงเรียน หากมีเสียงลึกลับถามว่าต้องการกระดาษสีแดงหรือกระดาษสีฟ้า ถ้าคุณตอบว่ากระดาษสีแดงคุณจะถูกหั่นออกจากกันจนเสื้อผ้าของคุณถูกย้อมเป็นสีแดง ถ้าคุณเลือกกระดาษสีฟ้าคุณจะถูกรัดคอจนผิวหนังของคุณเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ดังนั้นหากคุณที่คิดจะรอดล่ะก็ควรตอบไม่เอาทั้งสองอย่าง แต่ส่วนมากหลายคนมักตอบกระดาษสีใดสีหนึ่งเนื่องจากเป็นคำถามกระทันหันทำให้หลายคนตอบอย่างไม่รู้ตัว ตัวที่มาของเสียงนั้นกล่าวกันว่าเป็นมนุษย์ที่อยู่ในเสื้อคลุมสีแดง ซึ่งไม่ทราบเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเพราะสวมหน้ากากมิดชิด แต่ตำนานที่เชื่อกันคือเป็นผู้หญิงสาวสวยที่กลายเป็นวิญญาณหลอกหลอน

เสื้อคลุมสีแดงก็เป็นอีกตำนานหนึ่งที่มีหลายเวอร์ชั่นบางเรื่องก็เปลี่ยนจากกระดาษสีแดงเป็นเสื้อกั๊กสีแดง โดยเล่ากันว่ามีตำรวจหญิงคนหนึ่งถูกเรียกตัวไปที่โรงเรียนหลังจากได้รับรายงานว่าได้ยินเสียงผู้ชายในห้องน้ำหญิง เมื่อตำรวจหญิงเข้าไป (โดยให้คู่หูที่มีตำรวจชายอยู่ข้างนอก) และจู่ๆ ก็มีเสียงถามกะทันหันวา เธอจะใส่เสือสีแดงได้หรือไม่ เมื่อเธอได้ยินก็เผลอตอบว่าใช่ และแล้วเสียงกรีดร้องของตำรวจหญิงก็ดังขึ้น เมื่อตำรวจชายด้านนอกได้ยินจึงรีบเข้าไปข้างในและเปิดประตูห้องน้ำก็พบศพตำรวจหญิงไร้หัว เลือดของเธอได้เลอะเสื้อของเธอจนเสื้อเปลี่ยนเป็นสีแดง

 

3. Jinmenken (Human Faced Dog)

สุนัขหน้าคน เป็นเรื่องเล่าที่ฮิตมาในญี่ปุ่นช่วงหนึ่ง ในปลายศตวรรษที่ 1980 และ 1990 (แต่ตำนานเก่าแก่ที่สุดพบว่ามันมีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ 1603-1868) โดยเป็นรายงานการพบสุนัขที่มีใบหน้าเป็นมนุษย์ มักปรากฏตัวในกลางคืน บนถนนทางหลวงเขตเมืองของญี่ปุ่น หรือไม่ก็ตามเมืองตอนกลางคืนในขณะคุ้ยถังขยะ ซึ่งมันวิ่งเร็วมากประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้มันยังสามารถพูดคุยเป็นภาษามนุษย์ได้อีกด้วย แต่ส่วนมากมักพูดเป็นประโยคไม่กี่คำส่วนมากเป็นคำหยาบซึ่งส่วนมากพูดว่า อย่ามายุ่งกับฉัน หรือไม่ก็ขอของกิน มีเรื่องเล่าว่ามีเด็กสาวประถมคนหนึ่งนั่งทางไอศกรีมที่สวนสาธารณะบนมานั่ง และแล้วเธอก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นว่า กินมั้ง กินมั้ง เมื่อเธอหันกลับไปก็พบสุนัขหน้าชายวัยกลางคนน่ากลัวกำลังแลบลิ้นกระดิกหาง ส่งผลทำให้เธอตกใจสุดขีด

ส่วนที่มาของสุนัขหน้าคนนั้นมีความแตกต่างกันตาม บ้างก็ว่าเป็นวิญญาณของเหล่าคนบาปที่ทำกรรมเอาไว้อดีตชาติ หรือเป็นวิญญาณของคนที่ตายบนท้องถนน บ้างก็ว่าเป็นสัตว์ที่หนีจากการทดลองวิทยาศาสตร์ลับๆ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือที่สุดคือมันน่าจะเป็นลิงญี่ปุ่นที่เคลื่อนไหวแบบสี่เท้าของสุนัขทำให้เหมือนสุนัขหน้าคนอีกทั้งเสียงร้องของมันก็เหมือนคำพูดของมนุษย์นั่นเอง

4.โกซู

โกซูเป็นที่รู้จักในฐานะหัวหน้าวัวซึ่งเป็นตำนานเมืองของญี่ปุ่น โดยตำนานเล่าว่ามีกลุ่มเด็กและอาจารย์แห่งหนึ่งกำลังเบื่อในระหว่างเดินทาง ทำให้คุณครูรู้สึกกังวัลใจกับนักเรียนของเขา จึงตัดสินใจเล่าเรื่องผี ซึ่งสำหรับเด็กแล้วชอบเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว และแล้วคุณรู้ก็ถามนักเรียนพวกเขาว่าในที่นี้มีใครเคยได้ยิน หัววัวบ้างนักเรียนได้ฟังก็ตอบว่าไม่เพราะไม่เคยคุ้นเคยกับเรื่องดังกล่าวเลย จากนั้นครูก็เราเรื่องซึ่งเรื่องน่าสนใจมากจนนักเรียนเหมือนต้องมนต์สะกด จากนั้นเรื่องของครูก็เริ่มน่ากลัวขึ้น น่ากลัวขึ้น จนเด็กนักเรียนหลายคนบอกว่าให้ครูหยุด แต่ปรากฏว่าครูไม่สามารถหยุดเรื่องนี้ได้ จนกระทั้งต่อมาจู่ๆ รถก็หยุดกลางถนน เด็กเอนลงเบาะและก็พบว่าเด็กและคนขับรถตั้งกล่าวไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือพูดอะไรได้เลย เนื่องจากเขาได้ยินเรื่องสยองขวัญของครูและเกิดอาการหวาดกลัวมากนั้นเอง จนกระทั้งต่อมาเมื่อทั้งหมดเคลื่อนไหวได้ ก็พบเรื่องแปลกคือพวกเขาจำเรื่องสยองขวัญน่ากลัวนั้นไม่ได้ อีกทั้งคุณครูก็ไม่สามารถจำได้เรื่องเล่า ที่เขาเล่าได้เด็กได้เลย ซึ่งเรื่องสยองขวัญน่ากลัวดังกล่าวเขาได้ลืมไปหมดสิ้น

ตำนานเรื่องสยองขวัญของหัววัวนั้นมีรูปแบบแตกต่างไปตามแต่ละท้องที่ บางท้องที่ถึงขั้นเป็นคำสาปว่าหากใครฟังเรื่องสยองขวัญดังกล่าวพวกเขาจะตายไม่นานหลังจากนั้น ทำให้ไม่มีใครที่รู้เนื้อหาว่าเรื่องมันน่ากลัวขนาดไหน

Credit: ที่นี่ดอดคอม
17 ธ.ค. 58 เวลา 06:32 1,388 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...