มาดูกันว่าศัพท์ฮิต วลีดัง ถ้าจะพูดเป็นภาษาอังกฤษ ต้องใช้ว่าอะไร?
ใครมีคำไหนเด็ดๆ อีก เม้นไว้ได้เลยนะคะ จะไปหาเป็นภาษาอังกฤษมาให้ค่ะ
#เรียนไปด้วยกัน
ที่มา: บอส #HormonesTheSeries3
สองคำสั้นๆ แต่ได้ใจความ #คนจริงไม่พูดเยอะค่ะ
ซึ่งภาษาอังกฤษเองมี Adjective หลายตัวที่สื่อความหมายถึงอะไรที่ปลอม เทียม ทั้งนี้การใช้ต้องดูบริบทของประโยค และความหมายอีกทีค่ะว่าควรใช้คำไหน
ที่มา: ไม่รู้สิ ใครๆ เขาก็พูดกันเนาะ
ใช้ในแนวประชดประชัน อยากทำอะไร ทำค่ะ เอาที่สบายใจ You can do as you please, I don't even care. #สะบัดบ๊อบเบาๆ
ที่มา: ที่ไหนซักแห่ง จำไม่ได้เหมือนกัน แต่รู้ว่าฮิตติดปากมาก
ตัวอย่างการมองแรงๆ ขอยกให้คุณชาวี แห่งตระกูลอัมราภรณ์ มองทีไรลูกตาแทบจะดิ้นออกมาค่ะ
ที่มา: จากวลีสุดฮิตของ #MentorLukkade มาดูกันว่า Adjective ที่มีความหมายคล้ายกันมีอะไรบ้าง
ที่มา: ลุงเนลสัน (ลูกตาจอห์น)
จริงๆ ก็ฮิตมานาน แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด เลยขอพูดถึงหน่อยค่ะ คำที่ยกตัวอย่างมา นอกจากจะหมายถึงอึ้ง! ยังมีความหมายในแง่ที่รู้สึกตกใจ เจออะไรที่ไม่คาดคิดมาก่อนด้วย
ที่มา: ใช้กันอย่างแพร่หลาย ที่มาไม่ชัดเจนเหมือนกันค่ะ
คำภาษาอังกฤษที่ยกมานี่ ฝรั่งก็ใช้บ่อยๆ (ถ้าใครเคยดูรายการพวก America's Next Top Models ความหมายเหมือนกันเลยค่ะ คืออะไรที่มันสวย เลอค่ามากๆ ดูปัง ดูแพงสุดๆ
ที่มา: นึกถึงน้องออย คนจริง คำพูดติดปากของน้องคือ "เราโอเค"
นอกจากคำธรรมดาเช่น I'm fine, I'm good, I feel great ก็มี adjective พวกนี้ล่ะค่ะ ที่สามารถใช้ได้ ให้ความหมายดี เยี่ยม เลิศค่ะ
ที่มา: #MentorBee ค่ะ อยากค่อยๆ สอนน้อง ให้ค่อยๆ โต ไม่อยากให้น้องแก่แดดค่ะ
ใช้คำที่ยกมาเพื่อบรรยายคำว่า "แก่แดด" ได้ค่ะ แต่สำหรับเด็กที่ดูฉลาดเกินวัย ดูฉลาดเจ้าเล่ห์ ฝรั่งก็มักจะใช้ smart, clever ด้วย (รวมพวกพวกฉลาดแกมโกงด้วย)
ที่มา: #TeamLukkade มาแรงอีกแล้วค่ะ
เวลาอยากบอกให้ใครซักคนเลิกมโนซักที ใช้ได้เลยค่ะ
หรือจะใช้ wakey-wakey! ก็ได้ (มาจาก wake=ปลุก)
ที่มา: โน๊ต อุดม (เดี่ยว 11)
มาแรงส่งท้ายปี กับวลีเด็ด #หูกระจงควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้าน (ความหมายคืออะไร ลองไปหากันเอาเองนะคะ)
เลยขอหยิบมาพูดหน่อย ว่าต้นหูกระจงเนี่ย ฝรั่งเค้าเรียกว่าอะไร? ส่วนทำไมต้องปลูกให้ห่างจากตัวบ้าน เป็นเพราะว่ารากมันมีพลังการชอนไช ทำลายล้างสูงมาก ปล่อยโตๆ ไปอาจจะทำให้บ้านทรุดเอาได้ค่ะ #สาระจริงๆนะ
ขอบคุณ >> Enconcept E-Academy
ที่มา: http://variety.teenee.com/foodforbrain/73671.html