อาณุภาพพิธีสวดภาณยักษ์ พลังลึกลับ หรือ การสะกดจิต

 

วีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง : เรื่อง 
วิจิตต์ แซ่เฮ้ง : ภาพ


ภาพ ๑

พิธีสวดภาณยักษ์เริ่มต้นจากการบูชาขันครู ในขันพลาสติกหลากสีจำนวนหลายร้อยใบประกอบไปด้วย ผ้ายันต์ ขดด้าย ข้าวเปลือก ดินสอพอง และพระพิมพ์ เหมือนกันทุกใบ วางรอผู้เข้าร่วมพิธีมาบูชาเอาคนละขัน ราคา ๙๙ บาท (ภาพ ๑) ต่อจากนั้นก็ผ่านเข้าไปบูชาพระนพเคราะห์ประจำวันเกิดด้วยเงินตามกำลังของแต่ละวัน (เช่น วันอาทิตย์ กำลัง ๖ ก็ใช้เงิน ๖ บาท) หรือถ้าจะบูชาให้ครบทุกดวงก็ใช้เงิน ๑๐๘ บาท และจะได้รับการเชิญชวนให้ร่วมประดับต้นโพธิ์ทองด้วยธนบัตร ถ้าติดถึง ๑๐๐ บาทขึ้นไปจะได้รับพระวัตถุมงคลหนึ่งองค์


ภาพ ๒

พระสงฆ์ผู้เป็นเจ้าพิธีกล่าวว่า สวดภาณยักษ์เป็น “พุทธโอสถ” ที่จะช่วยขจัดปัดเป่าอัปมงคลออกไปจากร่างกาย ทำนองเดียวกับการทำบุญสวดบ้านเมื่อมีเรื่องร้าย แต่ต่างกันที่สวดภาณยักษ์เป็นการชักชวนคนจำนวนมากมาร่วมทำในคราวเดียวกัน

การสวดภาณยักษ์ที่วัดปรินายก ย่านสะพานผ่านฟ้า กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๗-๘ สิงหาคม ๒๕๔๗เตรียมการรองรับผู้เข้าร่วมไว้ราว ๕๐๐ คน อาณาบริเวณประกอบพิธีกรรมกำหนดโดยเสาและแนวชายคาเต็นท์ที่กางลงครอบลานซีเมนต์หน้าพระอุโบสถ ใต้หลังคาใช้เส้นด้ายสายสิญจน์โยงสานกันเป็นข่ายตาห่างสำหรับผู้เข้าร่วมพิธีให้ผูกยึดผ้ายันต์และโยงเส้นด้ายลงมาพันรอบกระหม่อมตัวเองในตอนทำพิธีสวด (ภาพ ๒ และภาพ ๔)


ภาพ ๓

การรวบรวมคนดำเนินมาเป็นเวลาชั่วโมงเศษจนภายในพิธีมีคนเข้ามานั่งกันแน่นขนัด แต่พิธีที่ทุกคนรอคอยยังไม่เริ่ม โฆษกของงานประกาศหาลูกผู้ชายใจกล้าสองคน ได้เด็กหนุ่มวัยรุ่นร่างผอมบางกับอีกคนเป็นชายวัยกลางคนค่อนข้างเจ้าเนื้อ ทั้งสองถูกพาเข้าไปคุกเข่าอยู่หน้าพระหนุ่มที่แขวนสร้อยประคำเส้นโต พระสงฆ์บริกรรมคาถาและบอกอะไรกับผู้อาสาทั้งสอง แล้วสั่งให้ถอดเสื้อนอนราบไปบนพื้นยกมือพนมกุมสายสร้อยที่พระให้ไว้บนอก พระสงฆ์รูปเดิมใช้ปลายดาบลิดดอกบัวโปรยไปตามร่าง แล้วใช้ดาบเล่มเดียวกันนั้นฟันลงกลางท้องสองทีรวด (ภาพ ๓) เสียงเหล็กกระทบเนื้อดังเหมือนเสียงทุบ และไม่มีแผล แสดงการฟันคนทั้งสองเสร็จแล้วพระก็กลับไปนั่งบนอาสนะ ผู้ร่วมพิธีลุกกรูกันไปต่อแถวยาวเหยียดขอบูชาเทียนชัยและสร้อยคอ ชุดละ ๑๐๐ บาท


ภาพ ๔

หลายคนคงสงสัยว่าอาสาสมัครทั้งสองคน (รวมทั้งคนที่ “ออกอาการ” ในตอนสวด) เป็นหน้าม้าหรือไม่ วุฒิชัย สร้อยรักษ์ เด็กหนุ่มอาสาสมัครคนแรกบอกว่า เขาเป็นเด็กช่างกล มีเรื่องกับเพื่อนต่างสถาบันบ่อย อยากมีของดีคุ้มกันตัวจึงอาสาออกมา ได้ผ่านพิธีกรรมนี้แล้วเขาไม่ต้องกลัวคู่อริที่จะมาตีรันฟันแทงกันอีก ส่วนชายวัยกลางคนร่างท้วมชื่อ รัตนชัย สัตนมณีแสง เล่าว่าเขาชอบเรื่องทำนองนี้ ถ้ารู้ว่ามีการจัดที่ไหนเขาจะเข้าร่วมด้วยเสมอ เช่นเดียวกับคนที่มาร่วมพิธีส่วนใหญ่ ที่มีความเชื่อว่าใครเข้าร่วมพิธีสวดภาณยักษ์ครบ ๙ ครั้งจะเป็นมงคลกับชีวิต (ภาพ ๔)


ภาพ ๕

การสวดภาณยักษ์ไม่ได้มีจัดกันบ่อย ๆ (แต่กัมปนาท สกุลไพร โฆษกของงาน แอบกระซิบหลังไมค์ว่า บางวัดที่จัดอย่างพร่ำเพรื่อเพื่อหาเงินโดยเฉพาะก็มีอยู่เหมือนกัน) “ตั้งแต่สำนักงานเราย้ายมาอยู่ที่นี่สิบกว่าปีแล้ว ยังไม่เคยมีการจัดสวดภาณยักษ์ที่วัดปรินายกเลยสักครั้ง” หัวหน้ากองบรรณาธิการ สารคดี บอกกับน้อง ๆ ในกองฯ ที่มาทีหลัง


ภาพ ๖

ได้เวลาเริ่มพิธีกรรมพระสงฆ์ที่ยกย่องกันว่าศักดิ์สิทธิ์ขมังเวทย์จำนวนสี่รูปนั่งบนอาสนะประจำทิศทั้งสี่ อีกสี่รูป รวมกันอยู่ด้านหน้าพิธี ท่องบทสวดและผสมเสียงใส่กัน ฟังคล้ายเสียงประกอบหนังสยองขวัญ ลี้ลับ น่าขนลุก และออกจะน่ากลัวสำหรับคนขวัญอ่อน (ภาพ ๕) หลังการสวดดำเนินไปสักพักก็ถึงช่วงสำคัญ พระสงฆ์ที่นั่งประจำทิศทั้งสี่เริ่มประพรมน้ำมนต์ ผู้ร่วมพิธีบางคน (ที่ว่า-มีของอยู่ในตัว) จะออกอาการแปลก ๆ บางคนร้องไห้โฮ บ้างสั่นเหมือนเจ้าเข้า และผู้หญิงบางคนก็ออกท่าทางร่ายรำ คนเหล่านี้จะได้รับการช่วยเหลือจากพระ (ภาพ ๖) คนที่เคยเข้าร่วมสวดภาณยักษ์มาหลาย ๆ ครั้งให้ข้อสังเกตว่า ใครที่ออกอาการก็มักจะเป็นทุกครั้งที่เข้าร่วมพิธี ทองสุข ผ่องแผ้ว พูดถึงสุนีย์ ผู้เป็นลูกสาวของนางว่า เคยไปร่วมสวดภาณยักษ์ราวห้าครั้ง เธอจะสั่นเหมือนร่างทรงทุกครั้ง นางคิดไปว่าอาจเพราะสิ่งชั่วร้ายในตัวลูกยังถูกขับไล่ออกไปไม่หมด แต่เชื่อว่าพิธีสวดภาณยักษ์ที่วัดปรินายกในวันนี้ (๗ สิงหาคม ๒๕๔๗) พระที่มีอาคมแข็งกล้าได้

Credit: http://atcloud.com
31 พ.ค. 53 เวลา 02:11 5,793 12 78
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...