Jenny Fry เด็กสาววัย 15 ปี ตัดสินใจผูกคอตายใต้ต้นไม้ใหญ่ในป่า Brooke Woods โดยก่อนที่เธอจะลงมือฆ่าตัวตายนั้น เธอได้ส่งข้อความไปบอกเพื่อนสนิทของเธอว่าวันนี้เธอจะไม่ไปโรงเรียน พร้อมทั้งเขียนระบายความในใจเรื่องที่ต้องทนทรมานกับอาการป่วย รวมถึงระบุว่าเธอกำลังจะฆ่าตัวตายในป่า Brooke Woods อีกด้วย
แต่น่าเสียดายมากที่เพื่อนสนิทของเธอไม่ได้พกโทรศัพท์จึงไม่เห็นข้อความที่เธอส่งไปให้ และไม่สามารถช่วยชีวิตเธอได้ทันเวลา
ซึ่งทางครอบครัวของ Jenny Fry เปิดเผยว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน ในปี 2555 เธอเริ่มมีอาการป่วยและเป็นบ่อยครั้งโดยเฉพาะเวลาที่อยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณ WiFi ซึ่งอาการก็เป็นๆ หายๆ มาตลอด จึงคาดว่าเธอน่าจะแพ้ WiFi ซึ่งเป็นอาการในกลุ่ม "โรคไวต่อการรับสัมผัสสนามแม่เหล็กไฟฟ้า" (Electromagnetic Hypersensitivity/EHS) จนทำให้เธอเครียดและกลายเป็นโรคซึมเศร้า
เวลาที่เธอไปโรงเรียนเธอมักจะทนป่วยจากสัญญาณ WiFi ในโรงเรียนไม่ได้ จนต้องหนีไปหาสถานที่เงียบสงบปลอดสัญญาณ WiFi ทำให้เธอถูกอาจารย์ลงโทษด้วยการกักบริเวณอยู่บ่อยครั้ง และถึงแม้ว่าแม่ของเธอจะเคยไปพบครูใหญ่เพื่อเล่าถึงอาการป่วยของเธอให้ครูใหญ่รับรู้ แต่ครูใหญ่กลับไม่เชื่อและยืนยันว่า WiFi ไม่เป็นอันตรายต่อใคร
โดยทางครอบครัว Jenny Fry คาดว่า เธอตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะเหนื่อยกับการใช้ชีวิตที่โรงเรียนและต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการป่วย ดังนั้นหลังจากที่เธอเสียชีวิตครอบครัวของเธอจึงตั้งใจจะรณรงค์ให้ยกเลิกการใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสัญญาณ WiFi ในโรงเรียนและสถานเลี้ยงเด็ก รวมถึงเรียกร้องให้มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโรค EHS อีกด้วย
เป็นเรื่องน่าเศร้ามากเพราะในปัจจุบันจะหาพื้นที่ที่ไม่ไม่ WiFi นั้นยากมาก เนื่องจาก WiFi เป็นอุปกรณ์เครือข่ายที่สำคัญในการเชื่อมต่อและการติดต่อสื่อสารของคนในปัจจุบัน
ข้อมูลและภาพประกอบจาก "unilad"