โรคหลงตัวเอง คืออะไร? แบบไหนที่เรียกว่าป่วย!

http://variety.teenee.com/foodforbrain/73535.html

โรคหลงตัวเอง คืออะไร? แบบไหนที่เรียกว่าป่วย!

 

โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder) หรือ "นาซิซีติส" (Narcisisitic) เรียกย่อ ๆ ว่า NPD หรือภาวะ Narcissism ชื่อของโรคหลงตัวเองในภาษาอังกฤษมีต้นกำเนิดมาจากเทพนาร์ซิสซัส เทพกรีกที่หลงรูปตัวเองจนต้องถูกสาปให้ตกหลุมรักตัวเอง ซึ่งก็มีส่วนตรงกับอาการของผู้ป่วยโรคหลงตัวเอง ในทางจิตวิทยา โรคหลงตัวเองคืออาการผิดปกติทางจิตที่มีอาการมากไปกว่าแค่หลงใหลในรูปโฉมของตัวเอง ทว่ายังมีเรื่องของความเห็นแก่ตัว ความรู้สึกอยากเป็นที่หนึ่ง อยากเป็นจุดสนใจ หรือความคิดที่ว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่ผิด ซึ่งเป็นลักษณะของการถูกบ่มเพาะความคิดมาอย่างผิด ๆ จนนิสัยเหล่านี้ติดตัวมาในตอนโต กระทั่งทำให้เกิดเป็นโรคหลงตัวเองในที่สุด

ลักษณะของโรค

อาการของผู้ป่วยโรคนี้จะคล้ายคลึงกับนาร์ซีซัสตามเทพนิยายทุก ประการ กล่าวคือ เขาคลั่งไคล้ตัวเองมากเกินกว่าปกติ จนก่อให้เกิดความบกพร่องทางบุคลิกภาพขึ้นมาได้ จากการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยโรคนี้จะมีอาการ 9 อย่างดังต่อไปนี้

1. ฉันเป็นมือหนึ่งในปฐพี: สำคัญตัวเองผิด ผู้ป่วยมักเข้าใจไปเองว่าตัวเองเป็นบุคคลที่มีความสามารถโดดเด่นเหนือคนอื่นทั้งปวงในโลกนี้ 2. ฉันทำอะไรก็เทพหมด: คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จในทุกด้านอย่างไม่มีขีดจำกัด เลิศเลอ perfect ไปทุกอย่าง 3. ไม่มีใครเข้าใจฉันนอกจากขั้นเทพด้วยกัน: เข้าใจว่าตัวเองเป็นบุคคลพิเศษ ซึ่งก็จะมีแต่บุคคลพิเศษด้วยกันเท่านั้นที่จะเข้าใจตัวเขาได้ 4. ฉันเท่ห์ที่สุดในโลก: ต้องการการชื่นชมสนใจจากคนอื่นมากเกินไป 5. ก็ฉันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ใครจะทำอะไรฉันได้: มีความรู้สึกว่าไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ถูกต้องไปหมดทุกอย่าง จึงไม่มีความรู้สึกผิดเวลาที่ทำอะไรผิดพลาด 6. ทำโน่นทำนี่ให้ฉันที: ชอบใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือเพื่อทำประโยชน์บางอย่างแก่ตัวเองอยู่เสมอ 7. คนอื่นจะเป็นยังไงฉันไม่สน: จิตใจกระด้างเย็นชา ไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนรอบข้าง 8. นี่ทำอะไรก็เทพหมด / คนอื่นๆ อิจฉาฉันเพราะฉันเก่งกว่าพวกนั้นทุกคน: อิจฉาริษยาคนรอบข้าง และ/หรือ มีความเชื่อว่าคนอื่นๆ รอบตัวกำลังอิจฉาตัวเขาอยู่ 9. อะไร ๆ ที่ไม่ถูกใจถือว่างี่เง่าหมดสำหรับฉัน: แสดงความหยิ่ง ยะโส โอหัง ออกมาทั้งทางพฤติกรรม คำพูด และทัศนคติ

 

ภายในบุคลิกภาพของแต่ละคนนั้นมีส่วนผสมกันระหว่างพันธุกรรมและสภาพแวดล้อมใน การเลี้ยงดู ซึ่งทำให้เกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในบุคลิกภาพของแต่ละคนขึ้นมา ซึ่งอาการของโรคหลงตัวเองนั้น ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดกันมาด้วยจากรุ่นสู่รุ่น

คนที่เป็นโรคหลงตัวเอง ถ้าเป็นคนที่มีอำนาจก็จะแสดงกิริยากดขี่ผู้น้อย แต่ถ้าไม่ใช่ผู้มีอำนาจ ก็มักที่จะแสดงออกให้คนอื่นเห็นถึงความเก่งกาจของตัวเอง ซึ่งสำหรับพวกที่มีอาการรุนแรง ก็จะพยายามแสดงออกโดยไม่สนว่าจะต้องใช้วิธีการเช่นไร

ซึ่งเคยมีข่าวที่เกิดในสหรัฐเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับเด็กวัยรุ่นที่ใช้เงินพ่อแม่จองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยว ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับแฟนสาว ก่อนที่จะถูกพ่อแม่จับได้ ซึ่งภายหลังก็ได้ทำร้ายพ่อแม่จนเสียชีวิต ก่อนที่จะนำเงินของพ่อแม่ออกไปเที่ยวกับเพื่อนสาวในทันทีโดนไม่สนใจที่จะ จัดการกับเหตุการณ์ที่ตนได้ก่อขึ้น ราวกับว่ามันไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย

โรคนี้จะเกิดขึ้นกับน้อยกว่า 1% ของประชากรโดยรวม และพบเพียง 2-16% ของผู้ป่วยจิตเภทด้วยซ้ำ ผู้ป่วยโรคนี้จึงพบได้ยากในสังคมทั่วไป ผู้ป่วยมักทำให้ความสัมพันธ์ทางสังคมกับเพื่อนร่วมงานและบุคคลรอบข้างเสียไป เพราะสังคมไม่ยอมรับในตัวของเขา

อาการของโรค

โรคนี้พัฒนาขึ้นในช่วงผู้ใหญ่ตอนต้น

ต้นตอของโรคเกิดจากปมด้อยอันน่าอับอายของผู้ป่วยที่คิดว่าสังคมทั่วไปไม่ยอม รับ ทำให้เขาสร้างเกราะขึ้นมาปกป้องจิตใจอันบอบบางจากการปฏิเสธและการโดดเดี่ยว จากสังคม ผู้ป่วยจึงสร้างความคลั่งไคล้ในตัวเองขึ้นมาเพื่อชดเชยกับการขาดการยอมรับ เหล่านั้น ความเชื่อดังกล่าวจะฝังอยู่ในระดับจิตใต้สำนึกทำให้ยากต่อการรักษาด้วย จิตแพทย์ เพราะแม้แต่ผู้ป่วยเองก็ยังกลัวที่จะเปิดเผยความลับในระดับจิตใต้สำนึกเช่น เดียวกัน

ผู้ป่วยโรคนี้มักมีอาการซาดิสต์ร่วมด้วย

โดยผู้ป่วยมักจะทำร้ายจิตใจของผู้อื่นด้วยการดูถูกถากถางอย่างจงใจ (intentional insult) เพื่อทำให้เหยื่อเกิดความบาดเจ็บทางจิตใจ เป็นการชดเชยกับประสบการณ์ร้ายที่ตนเคยประสบมาในอดีต ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ยังเกลียดการเสียหน้าเป็นอย่างยิ่ง จึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งในการทำให้เขาเสียหน้า เพราะจะเป็นการกระแทกเข้าที่ปมด้อยในด้านสังคมของผู้ป่วยอย่างรุนแรง ผู้ป่วยอาจสร้างเกราะในจิตใจเพิ่มขึ้นทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นได้ หรือหากเป็นการละเมิดหน้าอย่างร้ายแรง ผู้ป่วยอาจขาดความยับยั้งชั่งใจและกระทำการต่างๆ เพื่อปกป้องหน้าของเขาได้ เช่น การทำร้ายร่างกาย หรือแม้แต่การฆ่า

ความจริง อาการของการหลงตัวเองนี้ เราทุกคนต่างก็ล้วนมีอาการเหล่านี้อยู่กับตัว ซึ่งข้อดีของมันก็คือสร้างให้เรามีความมั่นใจในตัวเอง และมีความทะเยอทะยาน แต่ถ้ามันมีมากจนเกินกว่าที่จะควบคุม มันก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่

สาเหตุการเกิดโรคหลงตัวเอง

การเกิดอาการหลงตัวเองนี้ นอกจากพันธุกรรมแล้ว การเลี้ยงดูก็มีส่วนอย่างมากที่ก่อให้เกิดอาการหลงตัวเอง

เพราะในครอบครัวที่มักจะถือดีถือเด่น ก็จะส่งผลให้เด็กมีอาการเช่นนั้นตามไปด้วย ซึ่งเราสามารถเห็นการแสดงออกของการหลงตัวเองได้ง่าย ๆ ตามละครหลังข่าวต่าง ๆ ซึ่งพฤติกรรมการชอบดูแคลนคนอื่น การแสดงออกให้เห็นว่าตัวเองอยู่สูงกว่า รวมไปถึงการอิจฉาผู้อื่นที่ดีกว่าตน และพร้อมที่จะทำลายคนนั้นให้เสียหาย สิ่งเหล่านี้คืออาการของโรคหลงตัวเองแทบทั้งสิ้น

คนที่เป็นโรคหลงตัวเอง มักที่จะมีความเครียดตลอดเวลา และเกรงกลัวที่ตนเองต้องขายหน้า จึงพยายามทำให้ตัวเองดูเด่นและมีความมั่นใจในตนเองในระดับที่สูงมาก ซึ่งถ้าได้รับการตอบสนองที่ดีก็จะเป็นการกระตุ้นให้อาการหนักขึ้น

แต่ในทางตรงข้ามกัน ถ้าไม่ได้การตอบสนอง ก็จะเกิดความผิดพลาดอย่างหนักจนอาจจะทำให้เกิดการซึมเศร้า หรืออาจเกิดเหตุร้ายแรงตามข่าวที่ได้ยกมาขั้นต้นได้

วิธีบำบัด

การบำบัดคนที่มีอาการของการหลงตัวเองนี้จำเป็นที่จะต้องใช้เวลา เพื่อเยียวยาและลดพฤติกรรมในอาการหลงตัวเองลง แต่ก็ต้องดูด้วยว่าคน ๆ นั้นมีอาการหลงตัวเองที่มากเกินไปหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่กลวิธานป้องกันตัวเองของเขา ซึ่งความจริงการอวดอ้างตัวเองถือเป็นกลวิธานป้องกันตัวเองอย่างหนึ่งของมนุษย์ที่มีขึ้นเพื่อควบคุมสภาวะจิตให้อยู่ในระดับที่สมดุล หลายคนใช้การอวดอ้างเพื่อลดปมด้อยหรือความผิดพลาดให้กับตัวเอง ซึ่งบางทีเราอาจต้องแบ่งแยกระหว่างคนหลงตัวเองกับคนที่กำลังใช้กลวิธานป้องกันตัวเองรูปแบบนี้

และนอกจากนี้คนที่อยู่ใกล้ชิดก็ต้องมีความเข้าใจว่า โรคหลงตัวเองนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนเห็นว่า เป็นนิสัยติดตัว บางครั้งคนที่เป็นก็อาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงควรที่จะเห็นใจและพยายามปรับตัวให้ใช้ชีวิตร่วมกับคนเช่นนี้ได้อย่าง เหมาะสม

และสำหรับการเลี้ยงดูเด็กให้ห่างไกลจากอาการหลงตัวเองนั้น คือ การให้เด็กรู้จักกับการใช้ชีวิตในสังคมเพื่อนฝูงในหลากหลายระดับ ซึ่งมีพ่อแม่หลายคนมองว่าการแยกเด็กออกมาจากเพื่อน ๆ นั้น จะเป็นการดี แต่ถ้ามองในเรื่องของพัฒนาการในสังคมแล้ว นับเป็นเรื่องไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการยอมรับในระดับเพื่อนฝูงเท่านั้นที่ช่วยสร้างความมั่นใจของวัยเด็กที่ต้องการเพื่อน ซึ่งการยอมรับนั้นก็ทำให้ปัญหาทางพฤติกรรมหลาย ๆ ปัญหาจางหายไปจากตัวเด็กได้ไม่ยาก ซึ่งพ่อแม่ก็อาจช่วยลูกได้ในการสอนให้เด็กรู้จักเลือกคบเพื่อนอย่างเหมาะสม

โพสโดย :Nu-Bird (ทีมงาน TeeNee.Com)

 

 

Credit: ที่นี่ดอดคอม
3 ธ.ค. 58 เวลา 03:19 1,219
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...